
การจัดประชุมพรรคพลังประชารัฐ และสร้างข่าวใหญ่เมื่อวันศุกร์ เป็นการส่งสัญญาณ “ท้ารบ” จาก “ลุงป้อม” และพลพรรคบ้านป่ารอยต่อ เพราะส่งผลให้วันดีๆ ของรัฐบาลแพทองธาร 1 ถูกแย่งซีนโดยพรรคพลังประชารัฐไปไม่น้อยทีเดียว
1.ออกสตาร์ทวันเดียวกัน
2.เกมสภาเข้ม
โดยเกมในสภาของพรรคพลังประชารัฐ จะไปอุดช่องโหว่ของพรรคประชาชน ที่บอยคอตองค์กรอิสระ โดยเฉพาะศาลรัฐธรรมนูญ บางเรื่องยื่นคำร้องได้ ก็ไม่ยอมยื่น งานนี้พรรคพลังประชารัฐจึงเตรียม “จัดให้แทน”
3.เกมนอกสภาข้นคลั่ก
4.พลังประชารัฐประกาศตัวไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจ ไม่ใช่พรรคทหาร
5.เครือข่ายในองค์กรอิสระยังพอมีเหลือ กลไกในฝ่ายความมั่นคง ตำรวจ ทหาร หน่วยข่าวยังพอพึ่งพาได้
โดนกระทำซ้ำซาก “ลุงโทนี่” กระชาก “ลุงบ้านป่า”
นี่คือสัญญาณจาก “ศัตรูหมายเลข 1” นาม “ลุงป้อม” ที่งานนี้มีแต่แค้นฝังหุ่น และไม่เคยออกมาให้สัมภาษณ์ตอบโต้ใดๆ ทั้งๆ ที่จะว่าไป พลังประชารัฐก็โดนกระทำมาหลายครั้ง
1.เข้าร่วมรัฐบาลคุณเศรษฐา โดย “ลุงป้อม” เสียสละไม่รับตำแหน่ง
2.ให้ “ลุงป๊อด” น้องชาย เป็นรองนายกฯ ควบ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แต่แกนนำรัฐบาลก็ไม่ให้กำกับดูแลกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งรัฐมนตรีของพลังประชารัฐไปนั่งเป็นเจ้ากระทรวงอยู่ คือ ผู้กองธรรมนัส แต่กลับให้รองนายกฯจากเพื่อไทย ไปกำกับดูแลแทน
4.ปรับออกจากพรรคร่วมรัฐบาล โดยอ้างมติ สส. พร้อมข้อกล่าวหาฉกรรจ์ “ร่วมงานกันไม่ได้” ซึ่งโดยมารยาททางการเมือง การปรับพรรคร่วมรัฐบาลในอดีต จะพูดจากันนิ่มกว่านี้
5.อดีตนายกฯทักษิณ ตอกย้ำวาทกรรม “เกาะโต๊ะขอตำแหน่ง ผบ.ทบ.” เมื่อครั้งที่เคยทวีตในแพลตฟอร์มทวิตเตอร์ ตอบโต้ “ลุงป้อม” เมื่อปี 2561 และในงานดินเนอร์ทอล์คของเนชั่นทีวี ก็พูดอีกครั้ง อ้างสาเหตุที่โกรธกัน เพราะไม่ตามใจ “ลุงป้อม” ที่อยากเป็นประธาน ป.ป.ช.หลังเกษียณจาก ผบ.ทบ.
ข้อมูลทั้ง 2 ชุด “ลุงป้อม” ไม่เคยออกมาตอบโต้หรือชี้แจงใดๆ
แต่คนที่คร่ำหวอดการเมืองอย่าง คุณจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน มองว่า นี่คือการหยามกันแรงที่สุดของ “คนการเมือง” เพราะโดยปกติ จำไม่นำเรื่ื่องลับ มาขายกันในที่แจ้งแบบนี้
โปรดสังเกต แม้แต่ “ลุงป้อม” จนถึงวันนี้ ยังไม่เคยต่อว่า ผู้กองธรรมนัส ออกสื่อ ขนาดผู้กองหักลุง แบบตัดบัวไม่เหลือใย / ขณะที่ผู้กองเอง ตอนแถลงข่าวปลดแอก “ลุงป้อม” ก็ไม่ได้ออกชื่อ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณเช่นกัน
ฉะนั้นในทางการเมือง งานนี้จึงถือว่า “ผีไม่เผา เงาไม่เหยียบ” กันอีกต่อไป
สื่อถึงใคร? “ลุงป้อม” เล่นใหญ่ ยกมือไหว้ท่วมหัว
ที่สำคัญ อย่ามองข้ามสัญญาณจาก “ลุงบ้านป่าฯ” ยกมือท่วมหัว ยืนยันยึดมั่นสถาบันเบื้องสูง และจงรักภักดี งานนี้คือการส่งสัญญาณว่าใครไม่จงรักภักดีหรือไม่ ใครกำลังโดนคดี 112 อยู่หรือเปล่า และเป็นการชิงการนำ “ความเป็นพรรคอนุรักษ์นิยมอันดับ 1” กลับมาหรือไม่
เพราะพรรครวมไทยสร้างชาติ กำลังสูญเสียตำแหน่งนั้นไป จากการที่ “ขิง” เอกณัฏ พร้อมพันธุ์ ไปร่วมรัฐบาลเพื่อไทย เข้าประชุม ครม.กับอุ๊งอิ๊ง และเดินควงแขนกับนายสรวงศ์ เทียนทอง
“อุ๊งอิ๊ง” ไม่อ้อมค้อม ตั้งป้อม...สู้ป้อม
เมื่อศัตรูหมายเลข 1 ส่งสัญญาณแรงขนาดนี้ นายกฯอุ๊งอิ๊ง จึงต้องตั้งป้อมสู้!
ถอดรหัสจากคำแถลงหลังประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ พบยุทธการโต้กลับดังนี้
1.ตั้งทีมกฎหมายเฉพาะกิจ ขึ้นมารับมือ “นิติสงคราม” โดยเฉพาะ
2.ตั้งวอร์รูมร่วมกับ “พรรคร่วมรัฐบาล” กลั่นกรองทุกเรื่อง ไม่ให้หมิ่นเหม่ผิดกฎหมาย
3.โชว์ความตั้งใจในการทำงาน ประกาศทำงานหนัก แข่งกับเวลา ใช้ผลงานเป็นเกราะกำบัง
4.ขอความเห็นใจ เป็นนายกฯอายุน้อย ลูกยังเล็ก ขออย่ามีคดี
5.แต่ก็ประกาศความมั่นใจ จะอยู่ครบ 3 ปี ไม่มีคดีติดตัว