นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรีถ่ายภาพหมู่ร่วมกันที่หน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งแรก ซึ่งเป็นนัดพิเศษ ภายหลังเข้าฯ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งรัฐมนตรี และนายกรัฐมนตรี ได้นำคณะรัฐมนตรี เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณตนรับหน้าที่เสร็จสิ้น เมื่อวานนี้ (6 ก.ย.) ก่อนที่จะเริ่มประชุมคณะรัฐมนตรี ครั้งแรก ซึ่งเป็นนัดพิเศษตามลำดับ
อย่างไรก็ตาม ในช่วงท้ายของการถ่ายภาพ นายกรัฐมนตรี ได้ชักชวนให้รัฐมนตรีทำท่า “มินิฮาร์ท” แต่เจ้าหน้าที่ได้แจ้งว่า ไม่สามารถถ่ายได้ เนื่องจาก คณะรัฐมนตรี อยู่ในชุดปกติขาว ทำให้นายกรัฐมนตรี รีบนำมือลงทันที ภายหลังเสร็จสิ้นการถ่ายภาพ นายกรัฐมนตรี ได้ทักทายสื่อมวลชน พร้อมกับชี้นิ้วแซวตัวเองว่าเป็น “น้องใหม่”
โดยในวันนี้ (7 ก.ย.) นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาพร้อมกับนายปิฎก สุขสวัสดิ์ สามี ที่มาพร้อมกับนางสาวแพทองธาร โดยระบุว่า มาให้กำลังใจภริยาในการปฏิบัติหน้าที่
สำหรับวาระการประชุมคณะรัฐมนตรี นัดพิเศษ ในวันนี้ (7 ก.ย.) ประชุมจะพิจารณาวาระสำคัญ ในการให้ความเห็นชอบคำแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา ในวันที่ 12 - 13 กันยายนนี้ พร้อมการพิจารณาแต่งตั้งนายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี รวมถึงการหารือในวาระต่าง ๆ โดยสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี จะเสนอแนวทางการประชุมคณะรัฐมนตรี และการเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรี รวมถึงวาระการมอบหมายงานให้รองนายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ตรวจพิจารณาร่างมติคณะรัฐมนตรี และกลั่นกรองเรื่องก่อนเสนอนายกรัฐมนตรี
นายกรัฐมนตรี ยังได้กล่าวเปิดการประชุมก่อนเข้าสู่ระเบียบวาระว่า ในวันนี้ (7 ก.ย.) ยังไม่มีข้อสั่งการแต่ ขอให้คณะรัฐมนตรี น้อมนำพระบรมราโชวาท ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานให้ ซึ่งถือเป็นกำลังใจ และแนวทางในการทำงานอย่างมุ่งมั่นต่อไป พร้อมขอให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง เตรียมการแต่งตั้งข้าราชการระดับปลัดกระทรวง แทนตำแหน่งที่เกษียณและอยู่ในตำแหน่งครบวาระ 4 ปี เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี หลังการแถลงนโยบาย
สำหรับการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา ขอให้รัฐมนตรีทุกคน เตรียมการชี้แจงตอบคำถาม รวมทั้งช่วยกันสื่อสาร และขยายผลนโยบายในกระทรวงตนเอง เพื่อให้ราชการ และประชาชนเข้าใจนโยบายของรัฐบาลมากยิ่งขึ้น พร้อมขอให้ช่วยกันดำเนินการภารกิจต่อจากรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะการกระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่านการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว การดูแลสินค้าเกษตร การดูแลกลุ่มเปราะบาง การแก้ปัญหาน้ำท่วม และการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ และการเร่งรัดการใช้จ่ายเพื่อการลงทุนของภาครัฐ