
22 สิงหาคม 2567 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เผยแพร่ข้อความผ่านบัญชีผู้ใช้ @ingshin บนแอปพลิเคชัน X เกี่ยวกับสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือ
โดยระบุข้อความว่า "ดิฉันได้ติดตามข่าวน้ำท่วมในภาคเหนือโดยเฉพาะน่าน เชียงราย และพะเยา อย่างใกล้ชิดด้วยความเป็นห่วง และกังวลใจ ต่อพี่น้องประชาชนในพื้นที่
แม้ว่าขณะนี้ ดิฉันจะยังไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ เนื่องจากอยู่ระหว่างกระบวนก่อนการเข้ารับหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ แต่ก็ได้ส่งผ่านความห่วงกังวลนี้ไปยังท่านภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ผู้ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีในขณะนี้ ซึ่งคุณภูมิธรรม รองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่นายกฯ มีความห่วงกังวลเช่นเดียวกัน จึงได้สั่งการให้ระดมความช่วยเหลือให้แก่พี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ รวมทั้งเร่งระบายน้ำเพื่อบรรเทาทุกข์แก่พี่น้องประชาชนโดยเร่งด่วน รวมทั้งวางแผนฟื้นฟูความเสียหายด้วยแล้ว
ดิฉันทราบว่า "คุณสุริยะ" รองนายกรัฐมนตรีก็ทราบถึงความห่วงกังวลของดิฉัน และท่านเองก็เป็นห่วงพี่น้องประชาชนเช่นกัน ได้มอบหมายให้กรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท จัดเจ้าหน้าที่ลงช่วยเหลือและอำนวยความสะดวก ติดตามสถานการณ์ 24 ชั่วโมงค่ะ
ดิฉันขอส่งกำลังใจ แก่ผู้ประสบภัยทุกครอบครัวและเจ้าหน้าที่ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังขณะนี้ค่ะ”
"ภูมิธรรม" เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์
ด้าน นายภูมิธรรม เวชชยัย รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากสถานการณ์น้ำท่วม น้ำป่าไหลหลาก ในพื้นที่ภาคเหนือ ส่งผลกระทบต่อประชาชนเป็นจำนวนมากในขณะนี้ ว่า ในเวลา 13:00 น. ของวันนี้ ตนเองจะไปร่วมติดตามสถานการณ์น้ำ พร้อมประชุมร่วมกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ นายชูชาติ รักจิตร อธิบดีกรมชลประทาน หลังจากที่ก่อนหน้านี้นายภูมิธรรม ได้สั่งการให้กระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัดเร่งเข้าไปช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน และให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติบริหารจัดการเพื่อเร่งระบายน้ำ รวมถึงให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีดูแลเรื่องถุงยังชีพ เพื่อส่งให้ประชาชนที่ประสบภัยอย่างรวดเร็วและทั่วถึง
นอกจากนี้ ยังขอให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมเตรียมรับสถานการณ์ ที่ยังควบคุมไม่ได้ และขอให้ประชาชนในพื้นที่ปฏิบัติตามคำแนะนำของ ปภ. จังหวัด รวมทั้งขอให้ติดตามข้อมูลข่าวสารจากทางราชการ เฝ้าระวังอันตรายจากกระแสไฟฟ้า โดยเฉพาะบริเวณน้ำท่วมแนวสายไฟฟ้า เสาไฟฟ้า หรือวัตถุสื่อนำกระแสไฟฟ้า หลีกเลี่ยงการขับขี่พาหนะบริเวณน้ำไหลผ่านทาง เพื่อความปลอดภัย รวมทั้งควรงดการท่องเที่ยวในพื้นที่เสี่ยงภัย