
18 สิงหาคม 2567 "ราชกิจจานุเบกษา" เผยแพร่ ประกาศแต่งตั้ง"น.ส.แพทองธาร ชินวัตร" นายกรัฐมนตรี
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ประกาศว่าด้วยความเป็นรัฐมนตรีของ "นายเศรษฐา ทวีสิน" นายกรัฐมนตรี ได้สิ้นสุดลงเฉพาะตัว
ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 ( 4) (5 ) และประธานสภาผู้แทนราษฎรได้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาว่า สภาผู้แทนราษฎรได้ลงมติเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2567 เห็นชอบด้วย ในการแต่งตั้ง"นางสาวแพทองธาร ชินวัตร" เป็นนายกรัฐมนตรีด้วยคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง "นางสาวแพทองราร ชินวัตร"เป็นนายกรัฐมนตรี
ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 16 สิงหาคม พุทธศักราช 2567 เป็นปีที่ 9 ในรัชกาลปัจจุบัน
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
วันมูหะมัดนอร์ มะทา
ประธานสภาผู้แทนราษฎร
คลิกอ่านฉบับเต็ม >>>
พระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี
ทั้งนี้เมื่อ เวลา 09.29 น. ณ ห้องโถงกลาง อาคารว๊อยซ์ สเปซ ที่ทำการพรรคเพื่อไทยชั่วคราว ว่าที่ร้อยตรีอาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร อัญเชิญพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้ง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีคนที่ 31
โดยเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้อ่านพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี คนที่ 31
จากนั้น นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวหลังรับสนองพระบรมราชโองการว่า
“เนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้งให้ดิฉัน ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี นับเป็นเกียรติยศและเป็นความภาคภูมิใจสูงสุดแก่ชีวิต
ดิฉัน ครอบครัว และพรรคเพื่อไทย สํานึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นล้นพ้น ทั้งจะมุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังด้วยความจงรักภักดี ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติ และประชาชน สนองพระราชปณิธานตามพระปฐมบรมราชโองการและตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญทุกประการ
ดิฉันขอขอบคุณสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ผู้มาจากการเลือกตั้งของประชาชนที่ได้มอบความเชื่อมั่นและความไว้วางใจ ให้ดิฉันได้มีโอกาสทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ของประเทศไทย
ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี มีความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่ ที่จะนำพาประเทศไทยเดินหน้า ฝ่าฟันทุกอุปสรรค แก้ไขปัญหาความเดือดร้อน แก้ไขปัญหาปากท้องเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชน
3 ปีที่เหลือตามวาระของรัฐสภา ดิชั้นในฐานะหัวหน้าฝ่ายบริหาร จะขอทำหน้าที่ร่วมกับฝ่ายนิติบัญญัติ ด้วยหัวใจที่เปิดกว้าง เปิดพื้นที่ในการรับฟังทุกความเห็น เพื่อร่วมกันพัฒนาประเทศให้ก้าวไปข้างหน้าด้วยกันอย่างมั่นคง
พี่น้องประชาชนคนไทยที่รักทุกท่านคะ ภารกิจที่ยิ่งใหญ่นี้ ไม่อาจสำเร็จได้ด้วยการทำงานของนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว ดิฉันมีความมุ่งหวังที่จะประสานพลังของคนทุกรุ่น ประสานพลังของบุคคลที่มีความสามารถในประเทศไทยจากทุกภาคส่วน ทั้งคณะรัฐมนตรี พรรคร่วมรัฐบาล ข้าราชการ เอกชน และพี่น้องประชาชน
ดิฉันจะส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพและทักษะของคนไทยทุกคน และทำให้ทุกตารางนิ้วบนแผ่นดินไทย เป็นพื้นที่ให้คนไทยได้กล้าฝัน กล้าสร้างสรรค์ และกล้ากำหนดอนาคตของตัวเอง
ดิฉัน แพทองธาร ชินวัตร ในฐานะนายกรัฐมนตรี จะรับผิดชอบหน้าที่นี้ให้ดีที่สุด ทำให้ประเทศไทย เป็นประเทศแห่งโอกาส เป็นประเทศแห่งความหวัง เป็นประเทศแห่งความสุข ของคนไทยทุกคนอย่างเท่าเทียม
ขอบคุณค่ะ“
จากนั้นนางสาวแพทองธารได้เข้าไปไหว้ขอบคุณบรรดารัฐมนตรี รวมถึงนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี และ สส. จากนั้นได้เข้าไปสวมกอดคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ มารดาและนายทักษิณ ชินวัตร บิดา
โดยคุณหญิงพจมานถึงกับหลั่งน้ำตาร้องไห้ด้วยความยินดี ก่อนที่จะไปกอดพี่ชายพี่สาว แล้วมาสวมกอดกับนายปิฎกสุขสวัสดิ์ สามี ซึ่งทุกคนในครอบครัว พร้อมทั้งนางสาวแพทองธารเองถึงกับหลั่งน้ำตาด้วยความตื้นตันและยินดี
สำหรับประวัติ "แพทองธาร" เกิดเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2529 ปัจจุบันอายุ 37 ปี เป็นบุตรของ "ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรี และ "คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์"
นับได้ว่าเป็นนายกฯหญิงคนที่สองของประเทศไทย ถัดจาก "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" อดีตนายกฯน้องสาวทักษิณ
"แพทองธาร" ยังเป็นนายกฯที่อายุน้อยที่สุดของประเทศไทย และเป็นผู้นำหญิงอายุน้อยที่สุดอันดับ 3 ของโลก (แต่หากนับรวมผู้นำชาย จะอยู่ที่ประมาณอันดับ 13)
สำหรับอันดับ 1 และ 2 ของผู้นำหญิงที่อายุน้อยที่สุดในโลกเป็นของ "จาซินดา อาร์เดิร์น" อดีตนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ และ "ซานนา มาริน" อดีตนายกรัฐมนตรีฟินแลนด์
ประวัติการศึกษา
จบมัธยมศึกษาจากโรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนเวนต์ และโรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย , ปริญญาตรีรัฐศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปี พ.ศ. 2551 จากนั้นศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษ สาขาวิชา Msc International Hotel Management ที่มหาวิทยาลัยเซอร์เรย์
ด้านประสบการณ์การเมือง
รับตำแหน่งประธานที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมพรรคเพื่อไทย 28 ตุลาคม 2564 , หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย 20 มีนาคม 2565 , แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย การเลือกตั้ง 2566 , รองประธานกรรมการคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ 13 กันยายน 2566 , หัวหน้าพรรคเพื่อไทย 27 ตุลาคม 2566