
แม้ข่าวสะพัดออกมาก่อนวันศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัย 40 สว. ยื่นคำร้อง ปมนายกฯแต่งตั้ง"นายพิชิต ชื่นบาน" เป็นรมต. ให้ความเป็นรมต.ของนายกฯเศรษฐา สิ้นสุดลงเฉพาะตัว ปรากฎออกมาด้วยมติ 6:3 บ้าง หรือ7:2 บ้าง ให้นายกฯรอดพ้นบ่วงคดี
บางกระแส ถึงกับนำเสนอองค์คณะตุลาการศาลรธน. ว่าใครลงมติเสียงข้างมากหรือเสียงข้างน้อยกันเลยทีเดียว
4 ประเด็นสำคัญหักล้างคำร้อง 40สว.
แต่อย่างไรก็ตาม "เนชั่นทีวี"ได้ตรวจสอบข้อมูลจากแหล่งข่าวระดับสูง ถึงมูลเหตุที่จะทำให้นายกฯส่อรอดคดี มาจากคำแถลงปิดคดี 32 หน้า ที่ยังไม่เปิดเผยที่ใดมาก่อน และนี่เป็นเนื้อหาสำคัญก่อนศาลรธน.นัดประชุมช่วงเช้าของวันพุธที่ 14 ส.ค. เพื่อทำคำวินิจฉัยกลางและอ่านคำวินิจฉัยในเวลา 15.00 น.
สรุปได้ 4 ประเด็นสำคัญที่มีนัยสำคัญต่อการลงมติของศาลรธน. ไปในทิศทางบวกต่อนายกรัฐมนตรี?
เผยโฉมหน้า 2 พยาน คีย์แมนสำคัญ
1. นายกรัฐมนตรีได้อ้างพยานบุคคลสำคัญ 2 รายขึ้นต่อสู้คดี 40 สว.
ประกอบด้วย "นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช" เลขาธิการนายกฯ ที่มีส่วนร่วมเสนอชื่อ "นายพิชิต ชื่นบาน" ให้ดำรงตำแหน่งรมต.สำนักนายกรัฐมนตรี โดยได้ตรวจทานรายชื่อคนในพรรคเพื่อไทยมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ คำบรรยายสำนวน ระบุว่า เนื่องจาก "นายเศรษฐา ทวีสิน" นายกรัฐมนตรี ประสงค์ให้มีตำแหน่งรมต.สำนักนายกรัฐมนตรี โดยอยากได้นักกฎหมาย เพื่อมารับผิดชอบงานด้านกฎหมายของรัฐบาล ซึ่ง"นพ.พรหมมินทร์" ได้มีการตรวจสอบและเสนอชื่อให้นายกฯ
ในคำบรรยายข้อต่อสู้ ยังได้อ้างถึงคำพูดนายกฯเศรษฐาว่า. ได้เห็นถึงความรู้ความสามารถ จำเป็นต้องหานักกฎหมายมาดำรงตำแหน่งรมต.
"ถ้าผมด่วนตัดสิทธินายพิชิต ข้อครหาต่างๆเท่ากับเป็นการประหารชีวิตทางการเมืองไม่ให้เป็นรมต. ซึ่งจะไม่เป็นธรรมกับนายพิชิต"
-ส่วนพยานบุคคลท่านที่สอง คือ "นายธงทอง จันทรางศุ" ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ได้อ้างถึงความไม่เป็นสัดส่วน เนื่องจากเหตุการณ์ กรณีนายพิชิต เกิดขึ้นเมื่อ 15 ปีที่แล้ว ขณะที่ถูกศาลฎีกาคำสั่งจำคุกเป็นเวลา 6 เดือน ซึ่งระยะเวลาเกิน 10 ปีมาแล้ว
3. สำนักเลขาธิการครม. อ้างว่า บุคคลที่กระทำการอันไม่ซื่อสัตย์สุจริตและมีพฤติกรรมอันเป็นเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงตามรธน. มาตรา 160 ( 4 ) และ ( 5 ) เป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัว
โดยเฉพาะความผิดจริยธรรมร้ายแรงมาตรา 160 ( 4 ) และ ( 5 ) เป็นนามธรรมไม่ควรมีใครมาชี้ขาดจริยธรรม
"สลค.ยื่นหนังสือเป็นทางการต่อศาล รธน.ว่า. ความผิดจริยธรรมร้ายแรง ตาม รธน.มาตรา 160( 4 ) ( 5 ) เป็นขอบเขตอำนาจของ ป.ป.ช. ที่ใช้กับ บุคคลที่ดำรงตำแหน่งทางการเมือง"
**ซึ่งประเด็นชี้แจงนี้ อาจมีผลทำให้ศาลรธน.จำหน่ายคดีหรือไม่***
ประการต่อมา นายกฯและสลค.ไม่ได้มีการหมกเม็ด เพราะมีการหารือกันภายในแล้ว ว่าเป็นการผิดจริยธรรมหรือไม่ ซึ่งมีการสอบถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ไม่สามารถตอบได้
"สลค." ยังได้ชี้แจงต่อศาลรธน. ด้วยว่า. เมื่อครั้งแต่งตั้งรมต. นายพิชิต ยังได้ทำเครื่องหมายเหตุ ไว้ด้วยว่า คำสั่งศาลฎีกา ในฐานความผิดละเมิดอำนาจศาล ให้จำคุกเป็นเวลา 6 เดือน ได้ล่วงเลยเป็นเวลาเกิน 10 ปีแล้ว ซึ่งคำสั่งนี้เป็นมาตรการทางแพ่งไม่ใช่คำสั่งทางคดีอาญา
"การต้องคำสั่งทางแพ่ง เป็นมาตรการเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณศาล ไม่ถือเป็นการกระทำผิดทางอาญา ตามคำพิพากษาในคดีอาญา ที่รธน.บัญญัติไว้และไม่เป็นคำพิพากษาหรือคำสั่งใดก็ตามเกิน 10 ปีแล้ว"
"สลค. จึงส่ง เนื้อหา หมายเหตุของนายพิชิต ให้คณะกรรมการกฤษฎีกาวินิจฉัยแล้วเห็นว่าไม่เป็นประเด็นที่ให้เกิดปัญหาแต่งตั้งรัฐมนตรี. ทำให้นายกรัฐมนตรี แต่งตั้งนายพิชิต เป็นรมต.ซึ่งยังรวมไปถึงคำวินิจฉัยกฤษฎีกา ต่อกรณีของนายไผ่ ลิกค์ มีความแตกต่างจากกรณีนายพิชิต ไม่สามารถแต่งตั้งเป็นรมต.ได้ เพราะต้องคดีอาญา ขัดต่อคุณสมบัติความเป็นรมต.ตามรธน. แต่นายพิชิต ต้องคดีทางแพ่ง
ไม่ใช่แค่ "พิชิต" เปิดชื่อรมต.ถูกร้องตรวจคุณสมบัติ
คำชี้แจง สำนักเลขาธิการครม. ที่อ้างถึงการตรวจสอบคุณสมบัติรัฐมนตรี. ไม่ได้แค่ตรวจสอบ นายพิชิต หรือ นายไผ่ ลิกค์ เท่านั้น" หากแต่ปรากฎชื่อชนิดอึ้งกันไปทั่ว. คือมีการร้องให้ตรวจสอบบุคคลเหล่านี้อาจเข้าข่ายขัดคุณสมบัติการดำรงตำแหน่งรมต. ได้แก่
นายอนุทิน ชาญวีรกูล
ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า
พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน
จากการตรวจสอบคุณสมบัติ ตามที่มีการร้องเรียนบุคคลข้างต้น สลค.ได้ดำเนินการครบถ้วนกระบวนความ แสดงให้เห็นว่า สลค.ได้ตรวจสอบไม่เลือกปฏิบัติ
"เมื่อมีบทบัญญัติ เกี่ยวกับคุณสมบัติรมต.ตามรธน.ปี2560 จากการตรวจสอบคุณสมบัติรมต.สมัยรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์เป็นอย่างไร. ก็ยังคงนำมาใช้ตรวจสอบคุณสมบัติรมต.ในรัฐบาล "นายกฯเศรษฐา " เช่นเดียวกัน"
4. คำร้อง 40 สว. อ้างถึงการแต่งตั้ง "นายพิชิต" เป็นรมต.มาจากการรับคำสั่งจากอดีตนายกฯทักษิณ ไม่เป็นความจริง ไม่ทราบนำข่าวนี้มาจากที่ใดหรือไปจินตนาการกันเอาเอง
คำบรรยาย ระบุตอนหนึ่งว่า "ก่อนที่จะแต่งตั้งนายพิชิต เป็นรมต. นายพิชิต เป็นที่ปรึกษานายกฯเพียงคนเดียวที่ได้เข้าร่วมประชุมครม. ได้ติดตามตรวจวาระการประชุมครม.ผมจึงอยากให้นายพิชิตมาเป็นรมต. ตนวจสอบกฎหมายให้รัฐบาล ซึ่งรัฐบาลยังขาดส่วนนี้อยู่ ไม่มีคำสั่งใดจากนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ"