16 มิถุนายน 2567 ที่ จ.นครพนม พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (รมว.ยุติธรรม) พร้อมคณะ ตรวจเยี่ยมมินิธัญญารักษ์ โรงพยาบาลนาหว้า อำเภอนาหว้า พร้อมรับฟังการบรรยายสรุป รายงาน การดำเนินงานปัญหาและข้อเสนอแนะในการให้บริการ
จากนั้นใน เวลา 10.30 น. ได้เดินทางมามอบนโยบายแก่ส่วนราชการ และสร้างการรับรู้การแก้ไขกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) หนี้นอกระบบและการแก้ไขปัญหายาเสพติด แก่มวลชนในพื้นที่ ณ หอประชุมอำเภอนาหว้า จังหวัดนครพนม โดยมี นายภูมิพัฒน์ พชรทรัพย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครพนม เขต 1 พรรคเพื่อไทย , นายวิรัช พิมพะนิตย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดกาฬสินธุ์ เขต 1 พรรคเพื่อไทย, นายนิพนธ์ คนขยัน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดบึงกาฬ พรรคเพื่อไทย และอดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดบึงกาฬ และ นายกัมปนาทจักรวาล วิเวศ ศรีพุทธา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมร่วมให้การต้อนรับ
พันตำรวจเอก ทวี กล่าวกับนายภูมิพัฒน์ พชรทรัพย์ สส.นครพนม เขต 1 ว่า ได้เชิญตนมาหลายวันแล้ว แต่ตนและคณะติดภารกิจศึกษาดูงานที่ประเทศโปรตุเกส, เยอรมัน ซึ่งวันนี้มีโอกาสมาเยือน จึงขอเยี่ยมเขตเลือกตั้งของท่าน เพราะจากความตั้งใจของท่านที่จริงจังกับการต่อต้านยาเสพติด เป็นที่รู้จักกันทั้งประเทศ ถึงขนาดเคยร้องไห้กลางสภา เพราะทนไม่ได้ที่จะเห็นสังคมหรือชุมชนของตัวเองต้องอ่อนแอเพราะยาเสพติด
"อยากเรียนว่า ในระบอบประชาธิปไตย ประชาชนไม่ใช่คนที่จะรับใช้รัฐบาล จำเป็นรัฐบาลที่จะต้องรับใช้ประชาชน เราจะหาผู้นำที่ห่วงประชาชนแบบท่านภูมิพัฒน์ เป็นเรื่องยาก ตอนนี้ทุกข์ของประชาชน คือ เรื่องยาเสพติด วันนี้เราจึงต้องสนใจเรื่องซึ่งเป็นทุกข์ของประชาชน โดยเฉพาะในภาคอีสานตอนบน ในภาคเหนือ มียาบ้าแพร่ระบาดเข้ามาในประเทศจำนวนมากนับล้านเม็ด แต่มีผู้ติดยาเสพติดน้อย เพราะยาเสพติดถูกลำเลียงไปยังภาคกลาง, ภาคใต้ ก่อนลำเลียงออกนอกประเทศ
ขณะที่ภาคอีสาน เช่น จังหวัดนครพนมที่มีการตรวจยึดได้หลายครั้ง ครั้งละแสนเม็ด ที่จำนวนไม่ถึงล้านเพราะจำนวนยาบ้าต้องการนำมาขายจำหน่ายในจังหวัดนครพนม เข้ามาทำลายลูกหลานในพื้นที่ เป็นเหตุให้มีผู้เสพและผู้ติดจำนวนมาก วันนี้เป็นวาระที่สำคัญ ที่เราจะมาแก้ปัญหายาเสพติด" รมว.ยุติธรรม กล่าว
พันตำรวจเอก ทวี กล่าวอีกว่า ไม่ใช่แค่ยาเสพติดเรื่องเดียวที่จะพูด แต่จะทำอย่างไรให้อนาคตของเราดีขึ้น ชีวิตดีขึ้น รัฐบาลประกาศแก้ปัญหา หนึ่งในเรื่องใหญ่ คือ การแก้ปัญหาหนี้สิน ซึ่งเมื่อต้องพูดเรื่องนี้ในต่างประเทศแล้วถือเป็นเรื่องน่าอับอาย คือ หนี้ กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา(หนี้ กยศ.) ทั้งๆ ที่การศึกษา เป็นสิ่งที่จะทำให้คนเรามีชีวิตที่ดีขึ้น หรือประเทศไทยมีงบประมาณด้านการศึกษามากที่สุดในอาเซียน หรืออาจเป็นอันดับ 2 ของโลก ที่เฉลี่ยต่อหัวประมาณ 6 หมื่นบาท แต่นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด กว่าร้อยละ 80% เป็นหนี้ กยศ. ที่น่าเสียใจ คือ ในเรือนจำจังหวัดนครพนมกว่า 77% หรือในบางเรือนจำมีมากถึง 80% มีการศึกษาต่ำกว่าภาคบังคับหรือที่รัฐจัดให้เรียนฟรี
หลังแก้ไขกฎหมายหนี้ กยศ.ให้มีผลย้อนหลัง ตนมีแผนแก้ปัญหาลูกหนี้กยศ. ที่จังหวัดนครพนมว่า ให้ผู้จัดการ กยศ. ส่งรายชื่อลูกหนี้กยศ.จังหวัดนครพนม มอบให้ผู้ว่าฯ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านและยุติธรรมชุมชน ไปบอกกับพวกเขาที่มีกว่า 3 หมื่นคน ได้ทราบว่าการบังคับคดีครั้งต่อไป จะมีการปลดผู้ค้ำกับผู้ที่อยู่ระหว่างการบังคับคดีต้องไปดำเนินการเซ็นสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ และยังสามารถลดดอกเบี้ยและเบี้ยปรับได้เกือบ 400 ล้านบาท เป็นจำนวนมากมายสำหรับคนจน คนอดมื้อกินมื้อ วันนี้ ประเทศไทยจึงยังไม่มีความก้าวหน้า เพราะยังมีหนี้ครัวเรือนจำนวนมาก โดยเฉพาะหนี้ กยศ.
จากนั้น ในเวลา 11.15 น. พันตำรวจเอก ทวี พร้อมคณะ เดินทางมามอบนโยบาย และรับฟังแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ณ ที่ว่าการอำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม พร้อมกับ ตรวจเยี่ยมและรับฟังความคิดเห็น ณ ศูนย์มินิธัญญารักษ์ โรงพยาบาลศรีสงคราม โดยมี นางสาวกรณ์กาญจน์ แก้วดี นายอำเภอศรีสงคราม, พ.ต.อ.ศรีนคร นัยวัฒน์ ผกก.สภ.ศรีสงคราม, นายแพทย์วรกาล ธิปกะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศรีสงคราม และนายมานพ ยะภักดี สาธารณสุขอำเภอศรีสงคราม ร่วมให้การต้อนรับ ทั้งนี้ พันตำรวจเอก ทวี ยังกล่าวให้กำลังใจผู้ที่เข้ามาบำบัดฟื้นฟู และเยี่ยมชมเรือนนอนภายในโรงพยาบาลด้วย
จากนั้น ในเวลา 14.00 น. รมว.ยุติธรรม เดินทางมามอบนโยบาย และรับฟังความคิดเห็น ณ อาคารโดม โรงเรียนอนุบาลบ้านแพง อำเภอบ้านแพง ก่อนตรวจพื้นที่ริมแม่น้ำโขง จุดสกัดเส้นทางลำเลียงยาเสพติด กัญชา และสินค้าหนีภาษี ที่บ้านดอนแพง อำเภอบ้านแพง ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร ในเวลา 19.45 น.