
8 มิถุนายน 2567 ที่ลานเทศบาลตำบลธัญบุรี (คลองเจ็ด) ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางมาร่วมเป็นประธานงานอุปสมบท นายสมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ ลูกชายคนสุดท้อง ของนายกฤษฎา หลีนวรัตน์ (นายเบี้ยว) นายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ร่วมเดินทางไปด้วย โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างยิ่งใหญ่ มีการจัดโต๊ะจีนกว่า 2,000 โต๊ะ โดยผู้ร่วมงานส่วนใหญ่ต่างพร้อมใจกันใส่เสื้อแดงมาร่วมงาน ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่นายทักษิณได้พบกับมวลชน จำนวนมาก
และทันทีที่นายทักษิณ และน.ส.แพทองธาร มาถึงผู้มาร่วมงานต่างเข้าไป ขอถ่ายภาพเป็นที่ระลึก และต่างตะโกน เรารักทักษิณ ขอให้กำลังใจท่านนายกฯทักษิณ และมีการชูป้าย "ให้กำลังใจท่านนายกฯทักษิณครับ" "ท่านนายกฯทักษิณสู้" บางคน นำเสื้อที่สกรีนกาตูนย์ โทนี่ FC มาขอลายเซ็นต์ ก่อนที่อดีตนายกฯ ทักษิณ จะเดินทักทายประชาชน
โดย นายทักษิณ ระบุว่า วันนี้ก็มาทำหน้าที่เพราะนาคเป็นน้องชายของ สส.เขาเชิญหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และเชิญตนเองด้วย ตนเองก็เลยมา
ซึ่งภายในงานดังกล่าวยังมี นายเกรียง กังป์ตินัน รมช.มหาดไทย นายไชยา พรหมา สส.หนองบัวลำภู นายพงษ์ศักดิ์ รักพงไพศาล อดีตรมว.พลังงาน นายมนัสนันท์ หลีนวรัตน์ สส.ปทุมธานีพรรคเพื่อไทย นายศุภชัย นพขำ เลขานุการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และสส.พรรคเพื่อไทย รอให้การต้อนรับ
สำหรับการปรากฏตัวในวันนี้ ถูกเชื่อมโยง กับนัยยะทางการเมือง ถึงการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ที่จะมาถึงเร็วๆ นี้ด้วย
ส่วนการสู้คดีนั้นมองว่า ไม่เห็นมีอะไรเลยคดีนี้จะเป็นตัวอย่างให้คนเห็นว่า ตอนปฏิวัติแล้วยัดข้อหาอย่างไร เพราะคดีนี้ไม่มีมูลเลยแม้แต่นิดเดียว แต่พยายามไปตีความให้มีมูล แล้วพอคนหนึ่งสั่งฟ้องคนอื่นก็ไม่กล้าสั่งไม่ฟ้อง ก็เลยสั่งฟ้องๆ ทั้งๆที่ไม่ใช้หลักกฎหมาย เรื่องนี้มันไม่มีอะไรเลย
ส่วนกังวลเรื่องการได้รับการประกันตัวหรือไม่ในวันที่ 18 มิ.ย. นั้น นายทักษิณ ระบุว่า "โอ้ยไม่มีอะไรหรอก คดีแทบจะไม่มีมูล" พร้อมมองว่า คดีนี้ เรียกว่าเป็นผลไม้เป็นพิษ ที่เกิดจากต้นไม้เป็นพิษ การทำคดีตั้งแต่ต้นที่มีการข่มขู่พนักงานสอบสวนโดยผู้บังคับบัญชา และในไลน์กลุ่มพวกนี้ก็ออกมาพูดความจริงหมด และคดีไม่ควรจะเป็นคดี
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีไม่ได้ไปศาลมีการพูดถึงดีลต่างๆ นายทักษิณ ยืนยันว่า ไม่มีตนเองไม่ได้ดีลกับใคร มีแต่ดีลกับหัวหน้าพรรคเพื่อไทย
เมื่อถามต่อว่า เป็นการดีลไม่ได้เลยไม่ไปใช่หรือไม่ นายทักษิณ บอกว่า "ไม่เกี่ยวเลย ไม่เกี่ยวจริงๆ ถ้าจะมีคนวุ่นวายก็แถวบ้านในป่า ไม่เกี่ยวกับผม เกี่ยวกับรัฐบาล"
ผู้สื่อข่วาถามอีกว่า ที่พูดถึงบ้านในป่า ไม่ได้เป็นการส่งสัญญานอะไรใช่หรือไม่ นายทักษิณ ตอบว่า ไม่รู้อยู่ๆก็พูดขึ้นมา
นักข่าวถามอีกว่า บ้านในป่าคือ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายทักษิณ ตอบว่า "ไม่รู้มีใครบ้างอยู่ในป่า ผมไม่รู้" ผู้สื่อข่าวถามต่ออีกว่า มี 2 ลุง? นายทักษิณ เลยถอนหายใจ แล้วบอกว่า ตนว่าบ้านเมืองถึงเวลาสงบได้แล้ว และสื่อมวลชนเรื่องการเมืองก็ต้องเบาๆลงบ้านเมืองจะได้เดินหน้า เพราะปัญหาบ้านเมืองวันนี้ยากกว่าตอนตนเองเป็นนายกฯ เพราะมันเละมานาน ระบบราชการก็เปลี่ยนไปเยอะ จึงอยากให้ช่วยกันยึดกติกา และให้มองการเมืองอย่างสร้างสรรค์ เพราะวันนี้หลายคนคิดว่า ใครก็เป็นได้ แต่ไม่ใช่ใครอยากจะเป็น ต้องมีกติกา
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าว นายทักษิณ ออกนอกประเทศไทยแล้ว นั้น นายทักษิณ ระบุว่า จินตนาการเยอะไป หาว่านางสาวแพทองธาร พาตนเองออกไปจากสิงคโปร์
ผู้สื่อข่าวถามต่อช่วงท้ายอีกว่า ได้เจอกับ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และพลเอกประวิตร หรือไม่ นายทักษิณ ระบุว่า "ไม่ได้เจอเลย"
เมื่อถามถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญ รับคำร้องของ 40 สว.ที่ยื่นถอดถอน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี นายทักษิณ มองว่า เมื่อส่งเรื่องไป ท่านก็รับแต่เรื่องนี้ต้องไปดูตั้งแต่เริ่มต้นว่า 40 คนเป็นคนของใคร เคลื่อนไหวเรื่องอะไร และมองว่าไม่น่ามีปัญหากับรัฐบาล เพราะรัฐบาลน่าจะตอบได้ เนื่องจากหลักการของกฎหมายต้องดูเจตนา ถ้าไม่บริสุทธิ์ต้องถูกลงโทษ ซึ่งการมีเจตนาที่บริสุทธิโดยหลักกฎหมายแล้วก็ไม่มีปัญหา