นักวิชาการอิสระ รวบรวมมุมมองชาวต่างชาติอัศจรรย์ใจ “การเมืองไทยสารพัดดีล”

1 มิถุนายน 2567 แม้ประเทศไทยจะมีการปกครองในระบอบประชาธิปไตย เหมือนในหลาย ๆ ชาติ แต่เป็นประชาธิปไตยแบบไทย ๆ ที่ไม่เหมือนใครในโลก ทำให้การเมืองของประเทศไทยนั้น เป็นที่สนใจของนานาชาติ โดย เฉพาะสารพัดดีลทางการเมือง “แบบไทยๆ” ที่ถูกจับตามองด้วยความ "พิศวงงงงวย" จากนานาชาติ และผู้สังเกตการณ์ทางการเมืองรอบโลก 

อาจารย์กฤษฎา บุญเรือง นักวิชาการอิสระชาวไทย ซึ่งพำนักอยู่ที่รัฐจอร์เจีย สหรัฐอเมริกา และตั้งกลุ่มรับฟังความคิดเห็น ทั้งแบบพบเจอและแบบออนไลน์ กับนักวิชาการต่างชาติ นักศึกษา ผู้สังเกตการณ์ และชุมชนคนไทยในอเมริกา ได้มีการสรุปความเห็นของฝ่ายต่าง ๆ ที่เพ่งมองการเมืองไทยอย่างรู้สึกอัศจรรย์ ความเห็นทั้งหมดนี้ ณ วันที่ 30 พ.ค. 67
 
 

1.คณะรัฐมนตรีของไทยมีความเปราะบาง อาจมีการปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลา รวมถึงเปลี่ยนนายกฯ และยุบสภา 

-ภาพลักษณ์ของ ครม.เศรษฐา 1/1 หรือ 1/2 แล้วแต่จะเรียก แสดงถึงความขัดแย้งต่อเนื่อง และไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น อาจนำมาสู่การปรับ ครม.อีกครั้ง หรือเลวร้ายสุด ยุบสภาได้ภายในปีนี้ 

-นายกฯ เศรษฐา เผชิญกับปัญหาหลายด้าน ถึงแม้ว่าจะทุ่มเททำงานอย่างหนัก ทั้งในและนอกประเทศ แต่ไม่สามารถบรรลุผลที่ตัวเองต้องการได้ เพราะมีผู้เสียประโยชน์ และการแย่งชิงอำนาจ

-จุดเด่นของนายกฯ เศรษฐา คือ เป็นนักธุรกิจระดับนำที่ประสบความสำเร็จ ได้รับความเชื่อถือจากภาคเอกชน ใช้ภาษาอังกฤษได้ดี แต่จุดอ่อนคือ ขาดฐานทางการเมืองในสภา ไม่มี สส.ในมือ ต้องพึ่งพาบารมีของตระกูลชินวัตร 

-นายกฯ เศรษฐา ไม่สามารถที่จะสร้างเครือข่ายและพันธมิตรเชิงลึกกับกลุ่มอำนาจเก่า  โดยเฉพาะอดีตทหารชั้นผู้ใหญ่ และกลุ่มนายทุนขนาดใหญ่ได้ จึงมีโอกาสถูกกดดันให้พ้นจากตำแหน่ง ซึ่ง นายกฯ เศรษฐา อาจตอบโต้ด้วยการยุบสภา เพราะมีอำนาจเต็มในเรื่องนี้ 

 

2.พรรคเพื่อไทยมีความเปราะบาง 

-การที่เพื่อไทยร่วมกับอำนาจเก่า ตั้งรัฐบาลข้ามขั้ว ทำให้ความนิยมลดลงอย่างรุนแรง 

-เพื่อไทยยังเผชิญปัญหาเรื่องโครงการใหญ่ยังทำไม่สำเร็จ 

-ซ้ำเติมด้วยข้อหาจากสังคมที่กล่าวโทษว่า อดีตนายกฯ ทักษิณ ได้สิทธิพิเศษในกระบวนยุติธรรม แถมยังเคลื่อนไหวเลยธง ทั้งเรื่องการเมือง และการต่างประเทศ ทำให้นายกฯ เศรษฐา ทำงานยาก 

-การเปลี่ยนหัวหน้าพรรคเป็น "คุณอุ๊งอิ๊งค์" กลายเป็นการตอกย้ำว่า พรรคเพื่อไทยมีความคิดแบบเก่า ศูนย์รวมอำนาจอยู่ในครอบครัวของผู้ก่อตั้งพรรค และนายทุนของพรรค 


3.ก้าวไกลได้ความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ 

-พรรคก้าวไกลเก็บคะแนนได้ทุกมิติ จากสภาพการเมืองปัจจุบัน สอดคล้องกับผลโพลทุกโพล โดยเฉพาะโพลพระปกเกล้าล่าสุด 

-ข้อกล่าวหาคอร์รัปชั่น และการแย่งชิงอำนาจของการเมืองแบบเก่า กลายเป็นข้อได้เปรียบของก้าวไกลมากขึ้น เนื่องจากยังไม่เคยด่างพร้อย เพราะยังไม่เคยมีอำนาจ ไม่เคยเป็นผู้บริหารประเทศ ส่งผลให้ประชาชนตั้งความหวัง