คปท.บุกสภาทนายความฯขอรายละเอียดปมลบชื่อ "พิชิต" พ้นจากการเป็นทนาย

21 พฤษภาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) กองทัพธรรม และศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) ได้เดินทางมาที่ "สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์" เพื่อยื่นหนังสือขอคัดสำเนาเอกสาร ผ่าน "นายชัยวัฒน์ บุญเกื้อ" นายทะเบียนสภาทนายความฯ กรณีที่สภาทนายความฯ มีคำสั่งให้ลบชื่อ "นายพิชิต ชื่นบาน" ออกจากทะเบียนทนายความ

นอกจากนี้ พร้อมรายงานการประชุมของคณะกรรมการมรรยาททนายความที่มีมติให้ลบชื่อนายพิชิต ออกจากทะเบียนทนายความ , คำสั่งให้นายพิชิต จดทะเบียนและรับใบอนุญาตอีกครั้งหลังถูกลบชื่อ และเอกสารหรือหลักฐานที่ได้จากการสอบสวนเพิ่มเติม และรายงานการสอบสวนเพิ่มเติมของคณะกรรมการมรรยาททนายความ 

โดย "นายพิชิต ไชยมงคล" แกนนำ คปท. กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ กลุ่ม คปท. กองทัพธรรม และ ศปปส. ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนและร้องทุกข์กล่าวโทษ เพื่อขอให้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัติต้องห้ามการเป็นรัฐมนตรี ของนายพิชิต ฉบับลงวันที่ 30 เม.ย. 2567 ต่อคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) และยื่นหนังสือขอให้ดำเนินการสอบสวน "นายเศรษฐา ทวีสิน" นายกรัฐมนตรี ว่ากระทำผิดจริยธรรมร้ายแรงและให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ฉบับลงวันที่ 8 พ.ค. 2567

ทั้งนี้ เนื่องจากนายพิชิต เป็นหนึ่งในบุคคลที่ถูกศาลฎีกามีคำพิพากษา หรือมีคำสั่งว่า ได้ร่วมกันกระทำความผิดละเมิดอำนาจศาลกรณีคดีถุงเงิน 2 ล้านบาท โดยศาลสั่งให้จำคุกคนละ 6 เดือน ตามคำพิพากษาของศาลฎีกาที่ 4599/2561 ลงวันที่ 25 มิ.ย. 2551 และต่อมาสภาทนายความฯ ได้พิจารณาลบชื่อของนายพิชิต ออกจากทะเบียนทนายความ  

อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไประยะเวลาหนึ่ง นายพิชิต จึงได้มีการจดทะเบียน และรับใบอนุญาตทนายความใหม่อีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม เพื่อให้เกิดความยุติธรรมในการพิจารณาวินิจฉัยของ กกต. และศาลรัฐธรรมนูญ หรือศาลฎีกา ในเรื่องที่กลุ่ม คปท.ได้ไปยื่นเรื่องไว้

นายพิชิต กล่าวต่อว่า จึงต้องการเอกสารดังกล่าวข้างต้น จากสภาทนายความฯ  ในการนำไปยื่นประกอบการดำเนินการสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัยของ กกต. จำนวน 1 ชุด และยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) จำนวน 1 ชุด  

"เพราะนายพิชิต ซึ่งปัจจุบันได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  และได้ถูกตรวจสอบคุณสมบัติของรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญและได้รับความสนใจจากประชาชนและสังคมวงกว้าง สื่อมวลชน เป็นอย่างมากจึงเกี่ยวแก่ประโยชน์สาธารณะ ขอให้สภาทนายความฯ ซึ่งเป็นองค์กรต้นทางที่จะให้ข้อมูลต่างๆ ที่ถูกต้อง ครบถ้วน อันเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะและประชาชน ได้ออกมาแถลงข้อมูล ข้อเท็จจริงทั้งหมดเกี่ยวกับการลบชื่อนายพิชิต ออกจากการเป็นทนายความ และการมีคำสั่งจดทะเบียนและรับใบอนุญาตทนายความใหม่อีกครั้งหลังถูกลบชื่อ ต่อสาธารณะชนโดยด่วน" นายพิชิต ระบุ