svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"ทักษิณ" สวมบทนักการตลาด-กู้วิกฤตเพื่อไทยขาลงหวังผล สว.

25 มีนาคม 2567
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

จากการขยับของ "ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่กลับบ้านเกิดที่ จ.เชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 14-16 มี.ค. ที่ผ่านมา เพื่อไปกราบไหว้บรรพบุรุษรวมถึงพบปะเครือญาติ แม้ฉากหน้าจะดูเป็นกิจกรรมปกติ สำหรับคนที่จากบ้านเกิดเมืองนอนไปนานกว่า 17 ปี

แต่หลายคนต่างโฟกัสไปยังประเด็นทางการเมือง ยิ่งโดยเฉพาะกับข่าวล่าสุดที่ "ทักษิณ" ออกมาปรากฏตัววานนี้ (24มี.ค.) ย่านสีลม รวมถึงมีกำหนดการเข้าพรรคเพื่อไทย ในวันที่ 26 มี.ค.นี้ เพื่อเปิดโอกาสให้ สส. แต่ละกลุ่มจังหวัดได้เข้าพบแทนบ้านจันทร์ส่องหล้า

จึงกลายเป็นที่จับจ้องพร้อมกับตั้งคำถามนี่หรือคือการพักโทษของคนป่วย

เปิด "ทักษิณ" กับ 2 เหตุผลปรากฏตัวถี่

โดย "รศ.ดร.โอฬาร ถิ่นบางเตียว" อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์และรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ฉายภาพถึงประเด็นดังกล่าวผ่าน "NationSTORY" โดยแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ

  1. "ทักษิณ" มองแล้วว่ากระบวนการยุติธรรมทั้งหมด ที่มองว่าผิดกฎหมายไม่เข้าเงื่อนไขพักโทษ ตัดไปได้ เพราะไม่สามารถทำอะไรได้ ซึ่งด้านหนึ่งแสดงเป็นการนัยอำนาจในสังคมไทย หากได้สิทธิพิเศษทางอำนาจ กฎหมายเป็นอย่างไร ก็ไม่มีความหมาย คือ ใช้อำนาจพิเศษ
  2. เรื่องทางการเมือง ต้องยอมรับเพื่อไทยเวลานี้ถือว่าตกต่ำมาก ทั้งตัว "เศรษฐา ทวีสิน" นายกรัฐมนตรี และ "อุ๊งอิ๊งค์ แพทองธาร ชินวัตร" หัวหน้าพรรคเพื่อไทย อีกทั้ง ปรากฏว่าแกนนำสำคัญของพรรคประสบภาวะล้มละลายทางความน่าเชื่อถือ ทั้ง "ภูมิธรรม เวชยชัย" รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ และ "นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว" รมว.สาธารณสุข ไม่มีตัวเล่นอื่น ที่จะรักษาหรือสร้างกระแส
     

หมดตัวผู้เล่นต้องลงสนามเอง
 

"ตัวเล่นสุดท้าย คือ คุณทักษิณต้องออกมาเอง เพราะคุณทักษิณเป็นนักการตลาด ให้ความสำคัญกับกระแส ทำอะไรเพื่อให้กระแสตีกลับดีขึ้น รวมถึงการไปพบ สส.ที่พรรค แม้ความจริงจะไปพบที่ไหนก็ได้ แต่ไปเพื่อกระตุ้นคะแนนนิยม สร้างความฮึกเหิมคนในพรรค และถ้ามีการปรับ ครม. ก็จะช่วยกระตุ้น เพราะคนไม่เคย ก็อยากขอโอกาส คุณทักษิณจำเป็นต้องทำ เพราะเพื่อไทย ขาลงจริงๆ เห็นได้จากผลโพลที่ออกมา แม้คุณทักษิณจะได้กลับมาจริง แต่นโยบาย อย่าง ดิจิทัลวอลเล็ต ไม่ขยับ ก็ถือว่าไม่เป็นผลดี"


"ขายตัวเอง-ผนึกบ้านใหญ่" รักษาพื้นที่

ส่วนเรื่องการปรากฏตัวของอดีตนายกฯ ช่วงขณะนี้ โดย รศ.ดร.โอฬาร มองว่า ไม่มีผลต่อเรื่องการเมืองท้องถิ่น เพราะยังเชื่อว่าตัวเองขายได้ โดยผนึกกำลังบ้านใหญ่ สองประสานรักษาพื้นที่ไว้ได้ แต่ต้องไม่ลืมว่าการเมืองเวลานี้เปลี่ยนไปมาก เนื่องด้วยคนรุ่นใหม่ คนชนชั้นกลาง ไม่ได้ให้ความสำคัญ และการตั้งรัฐบาลตระบัดสัตย์ หากไปออกตัวสนับสนุนใคร หากปั่นไม่ขึ้น แล้วใครจะรับผิดชอบ
 


"คุณทักษิณต้องลงมา เพื่อแสดงให้คนมีอำนาจเห็นว่าทำเต็มที่แล้ว ได้แค่ไหนแค่นั้น ผมเชื่อว่าอีกระยะเวลาหนึ่งใหญ่ๆ เพื่อไทยอาจเปลี่ยนขั้ว และไปร่วมกับก้าวไกล เพราะนโยบายที่มีทำอะไรไม่ได้ แต่หากไม่ทำอะไรเพื่อไทยก็จะเสี่ยงจากพรรคใหญ่ กลายเป็นพรรคขนาดกลาง และเป็นพรรคเล็กลง เหมือนประชาธิปัตย์ในอนาคต"

เดินเกมเร็วหวังผลลัพธ์หนักหน่วง

ด้าน "ดร.สติธร ธนานิธิโชติ" ผู้อำนวยการสำนักนวัตกรรมเพื่อประชาธิปไตย สถาบันพระปกเกล้า โดยมองว่า "ทักษิณ" ต้องเดินเกมหนักขึ้นเรื่อยๆ เพราะเป็นคนที่มีสไตล์คิดเร็วทำเร็ว ยกตัวอย่าง จังหวะขยับที่ จ.เชียงใหม่ ผลลัพธ์พอหรือยัง หากยังต้องเดินเกมหนักขึ้น 

ส่วนเรื่องกระแสเพื่อไทยตก เชื่อว่า "ทักษิณ" รู้อยู่แล้วตั้งแต่ตั้งรัฐบาล หรือ "อุ๊งอิ๊งค์" กระแสเรื่องซอฟต์พาวเวอร์ก็ไม่ขึ้น ทำให้จำเป็นต้องออกโรงเอง

 

"คงได้เห็นผลที่เชียงใหม่ 3 วัน คือ สเต็ปเร็ว จริงๆ ควรเป็นคนป่วยไปก่อน แต่ท่าไม่ดีต้องถอดแมส ปลอกคอ จะค่อยๆ ขยับไม่ได้ มันต้องรุกเร็วและแผนต่อไปก็เริ่มเลย ไม่ต้องรอถึงเทศกาลหน้าสงกรานต์ ไม่ทันใจ และผลโพลที่ออกมาอีก ไม่ได้แต้มกันง่ายๆ" 


เป้าหมายกอบกู้พรรค-หวังผลสมาชิกวุฒิสภา

อย่างไรก็ตาม การออกมารอบนี้ หวังผลในเรื่องของ สว. เพราะ อบจ. ยังอีกไกล และถ้าไม่ได้ สว.ก่อน ก็ลำบาก เพราะเชื่อว่าเพื่อไทยลึกๆ อยากแก้ รัฐธรรมนูญบางเรื่องรวมถึงกฎหมายประกอบ

ทั้งนี้ มีอุปสรรค คือ สว. ดังนั้น ให้ สว.ปัจจุบันพ้นไปก่อน แล้วรอ สว.รอบหน้า แต่ก็ต้องมีคนของตัวเองเข้าไปด้วย เพื่อได้เดินเกมการเมืองต่อได้ และหากอยากได้ สว. ต้องวางเครือข่าย

 

"แน่นอนว่าคุณทักษิณ ก็มาช่วยรัฐบาลกอบกู้พรรค และชูลูกสาว รวมถึงต้องฟื้นเครือข่ายเพื่อให้ได้ สว. โควตาตัวเอง ซึ่งสองส่วนรวมกันจะทำให้เดินเกมการเมืองได้ยาวๆ และเมื่อได้ สว. ก็ต่อ อบจ. ส่งผลท้องถิ่น หวังผลเฉพาะ" 

 

 
 

logoline