svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"นิด้าโพล" เปิดผลสำรวจคะแนนนิยมการเมือง "พิธา-ก้าวไกล" ครองอันดับ 1

24 มีนาคม 2567
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"นิด้าโพล" เปิดเผยผลสำรวจคะแนนนิยมทางการเมืองอยากให้ใครเป็นนายกฯ พบ "พิธา" ครองอันดับ 1 ส่วน "เศรษฐา" มาเป็นอันดับ 3 ขณะที่ "บิ๊กป้อม" ติดอันดับ 8 สำหรับพรรคการเมืองคนอยากสนับสนุนเป็นอันดับ 1 "ก้าวไกล" รองลงมา "เพื่อไทย"

KEY

POINTS

  • "นิด้าโพล" เปิดผลสำรวจ "คะแนนนิยมทางการเมือง" จากกลุ่มตัวอย่างอายุ 18 ปีขึ้นไป พบ "พิธา-ก้าวไกล" มาเป็นอันดับหนึ่ง ทั้งอยากให้เป็นนายกฯ พร้อมสนับสนุนพรรค
  • "เศรษฐา" ติดอันดับ 3 ส่วน "อุ๊งอิ๊งค์" มาอันดับ 4 ขณะที่ "บิ๊กป้อม" อยู่ในลิสต์อันดับ 8 อยากให้เป็นนายกฯ  
  • "ภาคอีสาน" ตอบแบบสำรวจมากที่สุด ส่วน "ภาคตะวันออก" อยู่ท้ายตาราง

24 มีนาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์สำรวจความคิดเห็น "นิด้าโพล" หรือ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ได้เปิดเผยผลการสำรวจของประชาชน เรื่อง "การสำรวจคะแนนนิยมทางการเมือง รายไตรมาส ครั้งที่ 1/2567"

โดยทำการสำรวจระหว่างวันที่ 11-13 มี.ค. 2567 จาก 2,000 กลุ่มตัวอย่าง กระจายทุกกลุ่มสาขาอาชีพทั่วภูมิภาค ตั้งแต่อายุ 18 ปีขึ้นไป เกี่ยวกับคะแนนนิยมทางการเมือง โดยใช้ความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ "นิด้าโพล" สุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multi-stage Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่น ร้อยละ 97.0

"นิด้าโพล" เปิดผลสำรวจคะแนนนิยมการเมือง "พิธา-ก้าวไกล" ครองอันดับ 1

ทั้งนี้ เมื่อถามถึงบุคคลที่ประชาชนจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีในวันนี้ (24มี.ค.) พบว่า

  • อันดับ 1 ร้อยละ 42.75 "นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์" พรรคก้าวไกล เพราะมีความกล้าหาญ ตรงไปตรงมา บุคลิกเป็นผู้นำ และเป็นคนรุ่นใหม่
  • อันดับ 2 ร้อยละ 20.05 ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้ 
  • อันดับ 3 ร้อยละ 17.75 "นายเศรษฐา ทวีสิน" พรรคเพื่อไทย เพราะ เป็นคนเก่ง มีความรู้ความสามารถ และมีประสบการณ์ด้านเศรษฐกิจ
  • อันดับ 4 ร้อยละ 6.00 "น.ส.แพทองธาร (อุ๊งอิ๊งค์) ชินวัตร" พรรคเพื่อไทย เพราะเป็นคนรุ่นใหม่ มีทัศนคติที่ดี และมีความเป็นผู้นำ
  • อันดับ 5 ร้อยละ 3.55 นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค พรรครวมไทยสร้างชาติ เพราะมีวิสัยทัศน์ดี ซื่อสัตย์ มีความรู้ความสามารถ และมีประสบการณ์ในการทำงาน
  • อันดับ 6 ร้อยละ 2.90 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ พรรคไทยสร้างไทย เพราะเป็นบุคคลที่มีความน่าเชื่อถือ ทำงานด้วยความโปร่งใส และมีประสบการณ์ในการทำงาน
     
  • อันดับ 7 ร้อยละ 1.45 "นายอนุทิน ชาญวีรกูล" พรรคภูมิใจไทย เพราะมีความมุ่งมั่นในการทำงาน ซื่อสัตย์ และมีความเด็ดขาดในการตัดสินใจ
  • อันดับ 8 ร้อยละ 1.05 "พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ" พรรคพลังประชารัฐ เพราะมีประสบการณ์ในการทำงาน และมีผลงานทางการเมือง

ส่วนร้อยละ 2.45 ระบุอื่น ๆ ได้แก่

  • นายชัยธวัช ตุลาธน พรรคก้าวไกล
  • นายวราวุธ ศิลปอาชา พรรคชาติไทยพัฒนา
  • นายชวน หลีกภัย พรรคประชาธิปัตย์
  • นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน พรรคประชาธิปัตย์
  • นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา พรรคประชาชาติ
  • นายกรณ์ จาติกวณิช
  • นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
  • พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส พรรคเสรีรวมไทย
  • พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง พรรคประชาชาติ

ขณะที่ ร้อยละ 2.05 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

"นิด้าโพล" เปิดผลสำรวจคะแนนนิยมการเมือง "พิธา-ก้าวไกล" ครองอันดับ 1

ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงพรรคการเมืองที่ประชาชนจะสนับสนุนในวันนี้ พบว่า

  • อันดับ 1 ร้อยละ 48.45 พรรคก้าวไกล
  • อันดับ 2 ร้อยละ 22.10 พรรคเพื่อไทย
  • อันดับ 3 ร้อยละ 12.75 ยังหาพรรคการเมืองที่เหมาะสมไม่ได้
  • อันดับ 4 ร้อยละ 5.10 พรรครวมไทยสร้างชาติ
  • อันดับ 5 ร้อยละ 3.50 พรรคประชาธิปัตย์
  • อันดับ 6 ร้อยละ 2.30 พรรคพลังประชารัฐ
  • อันดับ 7 ร้อยละ 1.70 พรรคภูมิใจไทย
  • อันดับ 8 ร้อยละ 1.30 พรรคไทยสร้างไทย

ส่วนร้อยละ 1.40 ระบุอื่น ๆ ได้แก่

  • พรรคชาติไทยพัฒนา
  • พรรคชาติพัฒนากล้า
  • พรรคเสรีรวมไทย
  • พรรคประชาชาติ
  • พรรคเพื่อไทยรวมพลัง
  • พรรคท้องถิ่นไทย
  • ไม่ตอบ/ไม่สนใจ ในสัดส่วนที่เท่ากัน

อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาลักษณะทั่วไปของตัวอย่าง พบว่า

  • ร้อยละ 33.45 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
  • ร้อยละ 18.55 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคกลาง
  • ร้อยละ 17.95 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคเหนือ
  • ร้อยละ 13.75 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคใต้
  • ร้อยละ 8.60 มีภูมิลำเนาอยู่กรุงเทพ
  • ร้อยละ 7.70 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคตะวันออก


โดยกลุ่มตัวอย่าง ร้อยละ 48.10 เป็นเพศชาย และร้อยละ 51.90 เป็นเพศหญิง

นอกจากนี้ กลุ่มตัวอย่างตัวอย่างที่ตอบแบบสำรวจ พบว่า

  • ร้อยละ 26.65 อายุ 46-59 ปี
  • ร้อยละ 23.70 อายุ 60 ปีขึ้นไป
  • ร้อยละ 18.95 อายุ 36-45 ปี
  • ร้อยละ 17.80 อายุ 26-35 ปี
  • ร้อยละ 12.90 อายุ 18-25 ปี  

"เศรษฐา​" ย้ำต้องฟังเสียงโพลเพื่อสะท้อนการทำงาน   

ขณะที่ นายเศรษฐา​ กล่าวว่า ผลสำรวจความนิยมล่าสุดพบว่า อันดับ 1 ประชาชนอยากให้นายพิธา เป็นนายกฯ​ และตนอยู่ในลำดับที่ 3 นั้น ก็ต้องรับฟัง เพราะผลโพลสะท้อนความคิดของประชาชน แต่การทำโพลมีหลายแบบ เช่น ในพื้นที่ต่างๆ มีความไม่แน่นอน พร้อมยกกลุ่มตัวอย่างที่มีความคลาดเคลื่อนได้ หรืออาจจะไม่ได้เป็นกระจกสะท้อนความเป็นจริง แต่ก็ถือเป็นโพลโพลหนึ่ง​

 

"เราก็ต้องรับฟังและมีหน้าที่ที่ต้องทำต่อไป ถึงแม้จะทำงาน​ 6-7 เดือนแล้วก็ตาม อีกทั้ง งบประมาณปี​ 2567 ก็เพิ่งผ่านการพิจารณาสภาผู้แทนราษฎร​ เมื่อวันศุกร์นี้เอง​ ซึ่งก็จะใช้ระยะเวลาอีกเดือนหนึ่ง กว่าจะใช้งบประมาณได้ อย่างในวันนี้ อสม.ก็เพิ่งทราบว่า​งบประมาณเพิ่งผ่าน​ ก็จะได้เงินค่าตอบแทนเพิ่ม​ ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งที่ไม่พอใจรัฐบาลก็ได้​ แต่หารู้ไม่ว่าที่จริงแล้วมีขั้นตอน ทางสภาฯ เรื่องการอนุมัติงบประมาณ ผมก็ยอมรับว่าต้องตั้งใจทำงาน และรับฟังเสียงของประชาชนเป็นหลัก" นายเศรษฐา ระบุ


ผมไม่เคยพอใจการทำงานตัวเอง-รัฐมนตรี

ส่วนที่ผ่านมาพอใจการทำงานของรัฐมนตรี แต่ละกระทรวงหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า "ไม่ ผมไม่พอใจการทำงานของตัวเอง ไม่พอใจการทำงานของรัฐมนตรีทุกท่าน เพราะทุกอย่างทำให้ดีขึ้นได้อีก เพราะอันนี้คือชีวิตจริง เราต้องไม่พอใจเรื่องพวกนี้ เพราะความเดือดร้อนของประชาชนยังมีอยู่ ในทุกเรื่องตัวเราเองต้องพยายามทำต่อ ถึงได้ลงมาในพื้นที่รับฟังความคิดเห็นของประชาชน จะได้นำไปปรับวิธีการทำงาน"

รัฐต้องปรับกลยุทธ์ทำงานเพื่อประชาชน-ไม่ใช่หวังกระแส

นายเศรษฐา ยังยืนยันว่า มั่นใจหลังงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ผ่านการพิจารณาที่ประชุมสภาฯ การทำงานจะเปรี้ยงขึ้นกว่าเดิม ส่วนจะต้องเปลี่ยนกลยุทธ์ เพื่อทำให้เกิดกระแสขึ้นหรือไม่นั้น ตนไม่อยากใช้คำว่าอิงกับกระแส​ ตนว่าเรื่องเสียงสะท้อนทุกอันต้องรับฟัง และต้องมีการปรับกลยุทธ์ แต่ไม่ใช่ปรับเพื่อให้กระแสดีขึ้น เป็นการปรับกลยุทธ์ เพื่อให้ความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้น ปรับกลยุทธ์ให้เศรษฐกิจดีขึ้น ปรับกลยุทธ์เพื่อให้เกิดความเสมอภาคและเท่าเทียมดีขึ้น มีการปรับตลอด

สำหรับจะต้องเน้นเรื่องการประชาสัมพันธ์หรือไม่นั้น เนื่องจากที่ผ่านมาทำงานแทบทุกวัน ไม่มีวันหยุดแต่หลายผลงานประชาชนอาจไม่เห็น ทำให้ผลสำรวจออกมาเป็นเช่นนี้ อาจจะเป็นอีกเหตุผลหนึ่ง

 

"ซึ่งทีมโฆษกประจำสำนักนายกฯ ทีมสื่อสาร คงเอาข้อมูลมาวิเคราะห์กันอีกที ว่าตรงไหนเราพูดน้อยเกินไปหรือไม่ เราทำเรื่องเยอะเกินไปหรือเปล่า เราเปิดงานเยอะเกินไปหรือเปล่า เราต้องโฟกัสบางเรื่องให้เยอะขึ้นหรือไม่ ทำเรื่องที่จะโดนใจประชาชน และการที่รัฐมนตรี 5-6 คนมาลงพื้นที่ ก็พยายามที่จะผลักดัน วิธีการแก้ไขปัญหาของประชาชน และเชื่อว่ามาโคราชอีกครั้ง ช่วงเดือนมิ.ย. ซึ่งคาดการณ์ว่าจะเป็นการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ น่าจะมีผลงานคืบหน้าได้ เพราะงบประมาณแล้วออกแล้ว" นายกฯ กล่าว 

             

logoline