"เสรี" ดักคอ "เศรษฐา" 25 มี.ค.นี้ ต้องมาแจงสว.เองในการอภิปราย ม.153

19 มีนาคม 2567 นอกจากประเด็นการอภิปรายทั่วไป ตามมาตรา 152 ของสส. แล้ว ก็ยังมีการอภิปรายทั่วไป ตามมาตรา 153 ที่สมาชิกวุฒิสภา กำหนดให้เป็นวันที่ 25 มี.ค. โดยเตรียมไว้ 7 ประเด็น เพื่อชำแหละรัฐบาล

โดย "นายเสรี สุวรรณภานนท์" สมาชิกวุฒิสภา พร้อมด้วยสมาชิก ซึ่งเป็นกรรมาธิการกพัฒนาการเมือง ประกอบด้วย

• นายเฉลิมชัย เฟื่องคอน
• นายเฉลา พวงมาลัย
• รศ.ประเสริฐ ปิ่นปฐมรัฐ

ร่วมกันแถลง ถึงแนวทางการจัดอภิปรายทั่วไปของ สว. ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 153 ในวันที่ 25 มี.ค.นี้ โดยใช้เวลาประมาณ 11 ชั่วโมง เพื่อเสนอแนะปัญหาในการบริหารราชการแผ่นดินต่อรัฐบาล เพื่อรับทราบและนำไปพิจารณาแก้ไข 

นายเสรี กล่าวว่า สว. แสดงความจำนงในการอภิปรายกว่า 30 คน แต่ได้จัดสรรเวลาการอภิปรายได้ 27 คน ภายใต้การอภิปราย 7 ประเด็น ซึ่งเห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญที่วุฒิสภาเห็นว่า รัฐบาลจะต้องเร่งรัดนำปัญหานำไปสู่การแก้ไข

นอกจากนี้ เห็นว่ารัฐบาลพยายามดึงเวลายืดเยื้อถึง 2 เดือน สะท้อนถึงการเห็นถึงความเร่งด่วนที่รัฐบาลจะใส่ใจ แม้รัฐบาลจะอ้างว่าติดภารกิจ แต่เท่าที่ได้เห็นมีแต่การไปราชการในต่างประเทศ ของนายกรัฐมนตรี 

"กลับมาแล้วยังมีเวลาไปเชียงใหม่ และไปรับประทานอาหารที่เชียงใหม่ ก็ยังมีเวลาเยอะแยะ แต่พอเวลาจะประชุมร่วมกันในเรื่องสำคัญ กลับกลายเป็นบอกว่า ไม่มีเวลา อันนี้กราบเรียนทักท้วง-ท้วงติงไว้ และมีข้อสำคัญอย่างหนึ่งที่ต้องการกราบเรียนเพื่อให้นายกรัฐมนตรีได้รับทราบว่าในวันที่ 25 มี.ค. มีคนจากฝ่ายรัฐบาลบอกว่านายกฯ จะไม่มาร่วมประชุม จึงหวังว่าจะไม่เป็นเช่นนั้น" นายเสรี กล่าว

ทั้งนี้ เพราะถือว่าเป็นเรื่องที่รัฐบาลจะต้องนำประเด็นปัญหา ของการบริหารราชการแผ่นดินมารับฟังพูดคุยกับวุฒิสภา ถ้านายกฯไม่มาก็อาจจะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไม่สำเร็จผล และการมาของรัฐบาลตามรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ว่า จะต้องมาเป็นคณะ ไม่ใช่เพียงมาแค่คนหรือสองคน แบบขอไปทีให้ผ่าน 

นอกจากนี้ หากนายกฯ ไม่มาชี้แจงวุฒิสภา อาจจะทำให้ภาพลักษณ์เสียหาย และย้ำว่าเรื่องสำคัญรัฐบาลจะต้องมาชี้แจง และหวังว่านายกฯจะพิจารณาและตัดสินใจมาร่วมตอบข้อซักถามในเวทีอภิปรายของวุฒิสภา หากไม่มาก็จะทักท้วงในที่ประชุม แต่ก็ไม่ผิดหวังอะไร เพราะถือเป็นภารกิจที่จะต้องรับผิดชอบที่วุฒิสภาได้แจ้งต่อคณะ ซึ่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่จะมาชี้แจงต้องมีนายกฯ เป็นผู้นำ 

"ก็ประหลาด และมองได้หลายอย่าง จะด้วยเหตุใดก็ตาม ก็ต้องชัดเจนด้วยเหตุผลใด ไม่เช่นนั้นคนจะมองว่าท่านนายกฯหลบจะเสียไม่ควร" นายเสรีกล่าว

ส่วนประเด็นเศรษฐกิจมีผู้อภิปรายจำนวนมาก เรื่องกระบวนการยุติธรรมยุติ เรื่องเกี่ยวกับพลังงานพลังงาน การศึกษา รวมถึงการแก้รัฐธรรมนูญ การปฏิรูปประเทศ และยอมรับว่าอาจจะมีการอภิปรายที่เกี่ยวเนื่องกับ "นายทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกฯ ซึ่งเกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรม ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญของประเทศ

นายเสรี กล่าวย้ำว่า เพราะฝ่ายรัฐบาลพยายามพูดอยู่ตลอดว่า ทำตามกฎหมาย แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ใช่ว่าทำตามกฎหมายหรือไม่ แต่อยู่ที่ว่ากฎหมายที่นำมาใช้ ถูกต้องเป็นธรรมหรือไม่ หากยังเห็นแก่คนบางคน แก่พวกพ้อง ไม่ยึดหลักกระบวนการยุติธรรมที่ต้องใช้กับบุคคลทั่วไป อาจจะทำให้มีการแก้ไข ซึ่งรัฐบาลจะต้องรับฟังเรื่องเหล่านี้