“เครือข่ายแรงงานฯ” บุกสภา ปักหลักจับตา พิจารณาร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน

28 กุมภาพันธ์ 2567  ที่รัฐสภา เครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน นัดหมายทำกิจกรรมเพื่อเรียกร้องให้ สส.โหวตรับหลักการวาระที่ 1 ของ ร่าง พระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)คุ้มครองแรงงาน ฉบับที่...พรรคก้าวไกลเป็นผู้เสนอ โดยในเวลา 10.00 น. มีการปราศรัยสนับสนุนร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว รวมถึงวิพากษ์วิจารย์การทำงานของรัฐบาล โดยเดิมทางกลุ่มนัดหมายทำกิจกรรมทบริเวณด้านรัฐสภา ฝั่งถ.ทหาร แต่ด้วยสภาพอากาศที่ร้อน จึงได้ยุติกิจกรรม

ต่อมาเวลา 12.00 น. ทางกลุ่มเครือข่ายแรงงานฯเข้าให้กำลังใจสส.พรรคก้าวไกล โดยมีนายเซีย จำปาทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.) การแรงงาน และ สส.ของพรรคก้าวไกลรอต้อนรับ 

อ่านแถลงการณ์ เรียกร้องค่าจ้างที่เป็นธรรม

จากนั้น น.ส.ธนพร วิจันทร์ แกนนำเครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน อ่านคำแถลงการณ์ มีใจความว่า กฎหมายแรงงานไม่เพียงแต่มีบทบาทเป็นระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการจ้างงานเท่านั้น แต่ยังถือเป็นหลักประกันคุณภาพชีวิตขั้นต่ำของผู้ใช้แรงงานและครอบครัว ว่าเมื่อจบจากการทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อยในแต่ละวันแล้ว เราในฐานะแรงงานที่สร้างชาติสมควรได้รับค่าจ้าง สวัสดิการ และสภาพการจ้างงานที่เป็นธรรมแต่ตลอดระยะเวลาที่มีการบังคับใช้ พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงานฉบับปัจจุบัน สิ่งที่พวกเราผู้ใช้แรงงาน พบเจอในแต่ละวัน คือ ค่าตอบแทนที่ไม่เป็นธรรม สวัสดิการทำงานที่ไม่เป็นธรรม สัญญาจ้างที่เอาเปรียบ ไม่มีความปลอดภัยในการทำงาน นอกจากนี้กฎหมายแรงงานปัจจุบันยังตามไม่ทันสภาพการจ้างงานที่หลากหลาย

เปิดสาระสำคัญร่างกฎหมายคุ้มครองแรงงาน ฉบับก้าวไกล

ซึ่ง ทางพรรคก้าวไกล จะมีวาระนำเสนอ ร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน เข้าสู่สภาฯ เพื่อเปลี่ยนชีวิต คนทำงานโดยมีเนื้อหาดังนี้

1. เปลี่ยนนิยาม "ลูกจ้าง" ให้ครอบคลุมทุกรูปแบบการง้างงาน รวมถึงอาชีพไรเดอร์ ฟรีแลนซ์ และ
แรงงานอิสระ เพื่อให้แรงงานทุกคนได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายแรงงาน

2. ในสถานที่ทำงานที่มีทั้งการจ้างงานรายวันและรายเดือน ผู้จ้างจะต้องจ้างเป็นรายเดือนทั้งหมด โดยไม่เลือกปฏิบัติ การจ้างงานรายเดือนหมายถึง 30 วัน

3. กำหนดหลักเกณฑ์การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำรายปี โดยต้องไม่ต่ำกว่าอัตราค่าเงินเฟ้อ หรือ GDP

4. ทำงาน 40 ชั่วโมง / 5 วันต่อสัปดาห์ หากเกินต้องได้เงินค่าทำงานนอกเวลา (OT) และนายจ้างต้องจัดให้มีวันหยุดประจำสัปดาห์ไม่น้อยกว่า 2 วัน

5. ลาพักผ่อนประจำปี 10 วันต่อปี สะสมได้

6. ลาไปดูแล มีสิทธิลาไปดูแลบุคคลในครอบครัว หรือบุคคลที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดปีละไม่เกิน 15 วัน

7. พื้นที่ปั๊มนมในที่ทำงาน ต้องมีพื้นที่ที่เหมาะสมและอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่จำเป็นในการบีบเก็บน้ำนมในที่ทำงาน

8. ห้ามเลือกปฏิบัติในที่ทำงาน ไม่กีดกัน แบ่งแยก จำกัดสิทธิ ทั้งจากความแตกต่างทางถิ่นกำเนิดเชื้อชาติ ความพิการ หรือความเห็นทางการเมือง

เครือข่ายสหภาพแรงงาน จึงขอประกาศเจตนารมณ์สนับสนุน ร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน ฉบับพรรคก้าวไกล และขอเรียกร้องต่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ให้รับหลักการและเห็นด้วยต่อ ร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน ฉบับนี้ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของพวกเราคนทำงานทุกคน

จากนั้น ตัวแทนสหภาพแรงงาน มอบดอกกุหลาบสีแดงมาให้กับตัวแทน สส.เพื่อส่งกำลังใจในการผลักดันร่างกฎหมายดังกล่าว และยืนพูดคุยสอบถามปัญหากลุ่งแรงงาน