ย้อนดู "มีมทักษิณ" หลากหลายเหตุการณ์ บอกเล่าเรื่องราว "การเมืองไทย"

คำว่า "มีม" มีที่มาจากคำว่า "Gene" (พันธุกรรม) ผสมกับภาษากรีก "mɪmetɪsmos" หรือ mimema ที่หมายถึง การลอกเลียนแบบ จนกลายเป็นคำว่า "Meme" ที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบัน

ดังนั้น มีม คือ มุกขำขันล้อเลียนที่สะท้อนถึงความคิดและมุมมองทางวัฒนธรรม ปรากฏอยู่ในรูปแบบของการเขียน รูปภาพ คลิปวิดีโอสั้นๆ มักเป็นการลอกเลียนสถานการณ์ คน สัตว์ สิ่งของต่างๆ สร้างความขบขันในวัฒนธรรมนั้นๆ ปัจจุบันมีมถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายบนโลกออนไลน์ เพราะมีมสามารถสื่อความหมายเชิงสัญลักษณ์ถึงสิ่งที่ต้องการพาดพิงถึงได้ง่ายและรวดเร็ว โดยไม่ต้องใช้เวลาอธิบายให้ยืดยาว

  มีม “กราบแผ่นดิน"  
ถือเป็น มีมดังที่สุด แทบไม่มีใครไม่รู้จัก โดยหลังจาก คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) นำโดย พลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน เข้ารัฐประหารยึดอำนาจ ตั้งแต่ 19 ก.ย. 2549 จากนั้น ทักษิณ ชินวัตร ก็ไม่ได้กลับประเทศไทยนานถึง 1 ปี 5 เดือน

กระทั่ง 28 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา 09.45 น. เครื่องบินของสายการบินไทย เที่ยวบิน TG 603 เดินทางจากฮ่องกง มาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ เกิดเป็นภาพประวัติศาสตร์ “กราบแผ่นดิน"

ในวันนั้นเมื่อ "ทักษิณ" ออกมาจากอาคารผู้โดยสาร สนามบินสุวรรณภูมิ ไม่มีใครคาดคิดว่าเขาจะก้มกราบ ทำให้ภาพที่เกิดขึ้น กลายเป็นภาพหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ เป็นภาพที่ถูกนำไปเป็นข่าวใหญ่ในทีวีทุกช่อง
ภาพกราบแผ่นดิน ถูกนำมาใช้เป็นมีมในจนเป็นกระแสอย่างมากมาย กระทั่งล่าสุดเมื่อวันที่ 22 ส.ค.2566 ในการเดินทางกลับมาประเทศไทยอีกครั้ง ถูกจับตาว่าจะเกิดเหตุการณ์เดิมอีกหรือไม่

ทันทีที่เครื่องบินเจตส่วนตัว ลงจอดที่สนามบินดอนเมือง “ทักษิณ” ปรากฏตัวหน้าอาคารผู้โดยสารที่มีนักการเมือง พรรคเพื่อไทย กลุ่มเสื้อแดงผู้สนับสนุน รออยู่ ทักษิณออกมาโบกมือให้กับผู้ที่มารอรับ จากนั้นวางพวงมาลัย ก้มลงกราบพระฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เกิดมีมใหม่ทางการเมืองก้มกราบ ในการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมของ “ทักษิณ”

  มีม "ทักษิณซิ่งมอเตอร์ไซค์"  
เมื่อปี 2549 ขณะที่ ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ลงพัฒนาเพื่อแก้ปัญหาความยากจน "อาจสามารถโมเดล" ได้ขับขี่มอเตอร์ไซค์ แต่ไม่ใส่หมวกกันน็อก ลุยเยี่ยมชาวบ้านในพื้นที่ อ.อาจสามารถ จ.ร้อยเอ็ด 

การลงพื้นที่ครั้งนั้นเป็นที่จับตามองเป็นอย่างมาก เพราะทักษิณลงพื้นที่เป็นเรียลลิตี้ มีการถ่ายทอดสด 24 ชั่วโมง ตลอดการลงพื้นที่ 5 วัน 5 คืน ถ่ายทอดสดใช้ชีวิต กินนอนร่วมกับชาวบ้าน ผ่านช่อง UBC ของบริษัทยูไนเต็ด บรอดคาสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) 

แต่ภาพที่ถูกหยิบยกมาเป็นประเด็นคือ "ขับขี่มอเตอร์ไซค์ แต่ไม่ใส่หมวกกันน็อก" ถูกโจมตีว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย จนปรากฎเป็นมีมในช่วงเวลานั้น

ภาพของทักษิณ ขับขี่มอเตอร์ไซด์นั้น เป็นการไปเยี่ยมชมฟาร์มเลี้ยงกุ้งของนายบรรจง (สงวนนามสกุล) ซึ่งมีการบริการจัดการน้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยทักษิณ ได้เสนอไอเดียขายกุ้งพ่วงน้ำจิ้มซีฟู้ด เพิ่มมูลค่าทางตลาดให้เกษตรกร 

ขณะที่ต่อมา 3 มี.ค. 2558 มีการนำ มีม "ทักษิณซิ่งมอเตอร์ไซด์" มาเปรียบเทียบกับ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ขับขี่รถจักรยานยนต์ ของเจ้าหน้าที่สำนักโฆษกสำนักนายกรัฐมนตรี ขณะนำรถมารับบริการตรวจเช็ก ต่อหน้าสื่อมวลชน  ที่ทำเนียบรัฐบาล


  มีม “ถูกทักษิณซื้อไปแล้ว”  
มีม “ทักษิณซื้อทุกอย่าง ”  หรือ “ถูกทักษิณซื้อแล้ว” ย้อนไปตั้งแต่ช่วงปี 2549 ซึ่งตอนนั้นเนี่ย “ทักษิณ” ยังไม่ถูกยึดทรัพย์ มีความร่ำรวยติดอันดับต้น ๆ ของโลก

กระทั่งเมื่อเกิดการรัฐประหาร วันที่ 19 ก.ย. 2549 โดนนานาชาติประณามอย่างหนัก ทั้งสำนักข่าว CNN, BBC รวมทั้ง NATO (ตอนนั้นประเทศไทยเป็นเสมือนกับพันธมิตรนอก NATO) UN, และออสเตรเลีย ที่ออกมาแสดงความผิดหวังต่อการรัฐประหารที่เกิดขึ้น 

ฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองของ “ทักษิณ” ตอบโต้ข่าวการถูกประณาม ด้วยการอ้างเหตุผลการเคลื่อนไหว ของสำนักข่าว หรือองค์กรต่าง ๆ ว่า “ถูกทักษิณซื้อไปแล้ว” !! 

ในช่วงนั้น มีคนจำนวนไม่น้อย ประชาชนหลายคนที่เชื่อข่าวลือนี้ รวมไปถึงช่วงรัฐประหาร 2557 ก็มีการเอาประเด็นนี้มาโจมตีทางการเมืองอีก เช่น บอกว่าม็อบเสื้อแดง ทักษิณเป็นคนจ้างมา หรือ สำนักข่าวต่าง ๆ ที่รายงานเกี่ยวกับเรื่องนี้ ก็บอกว่าทักษิณซื้อไปแล้ว

นอกจากนี้ รายการไกลบ้าน  ช่อง FAROSE ในแอปพลิเคชัน ยูทูป ใน EP.37  “ทักษิณ” เป็นแขกรับเชิญที่มาออกรายการ ในเนื้อหายังมีการพูดว่า “เดี๋ยวต้องมีคนพูดว่า ช่องนี้ทักษิณซื้อไปแล้ว” อีกด้วย

  มีม “อะไร ๆ ก็กู”  
สำหรับ มีม “อะไร ๆ ก็กู” เป็นมีมที่ ทักษิณ ถูกโยงไปเกี่ยวข้องด้วยทุกเรื่อง ด้วยไม่ว่าเรื่องใด ปัญหาไหนที่เกิดขึ้นทั้งรถติด เศรษฐกิจทรุด หรือประเด็นการเมืองใหญ่ ทักษิณจะถูกกล่าวโทษเป็นต้นเหตุ หรือมีส่วนเกี่ยวข้องได้ทุกเรื่อง

ทั้งนี้ เพจเฟซบุ๊ก "ดร. ทักษิณ ชินวัตร แฟนคลับ" ยังเคยโพสต์ ไว้ว่า

"อะไรๆก็กู ??? 
(อะไรเหี้ยๆเกิดขึ้นที่เมืองไทย โยนมาให้กูได้เลย ทักษิณ ไม่ได้พูด แอดมินพูดเอง)😁"

  มีม "ช่างแม่มัน" Let It Be  
“ทักษิณ” ขึ้นเวทีปราศรัยที่เวทีลานศูนย์วัฒนธรรมเสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 14 เม.ย.2555 พร้อมทั้งร้องเพลง “Let It Be” เพลงตำนานของวง The Beatles 

ในวันนั้นมีนักการเมืองคนใกล้ชิด แกนนำ นปช. ขึ้นประกบล้นเวที ท่ามกลางคนเสื้อแดงกว่า 5 หมื่นคน ที่ส่งเสียงไชโยโห่ร้องและปรบมือดังกระหึ่ม เมื่อ ทักษิณ ร้องเพลง Let It Be พร้อมปรับเนื้อแปลงท่อนฮุกที่ติดหูตามชื่อเพลงจาก Let It Be เป็นคำว่า "ช่างแม่มัน" จนกลายมาเป็นมีมในเวลาต่อมา

ทักษิณ พูดบนเวทีว่า “มันเหมือนเพลงของคนเก็บกด ต้องอยู่เมืองนอกนาน ก็ไม่รู้ หาคำตอบไม่เจอ ก็เลยต้องบอกว่า Let It Be Let It Be.. จะเป็นจะตายก็ชั่งแม่มัน ชั่งแม่มัน”

ขณะที่ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ได้พยายามพูดให้ดูซอฟล์ เล่นมุขตลกแบบคำพ้องว่า "ชั่งแม่มัน" แสดงว่าในยุคนั้นมีการขายแม่เป็นกิโลกรัม พร้อมกันนี้ยังได้ร้องเพลงต่อเป็นท่อนสุดท้ายว่า.. “ถ้าใครจะขวางปรองดอง ชั่งแม่มัน พรรคไหนขวางแก้รัฐธรรมนูญ ชั่งแม่มัน” อีกด้วย


  มีม “ทำไมดักดานขนาดนี้”  

“เมื่อก่อนบอก ผมมีหุ้นปตท. ถ้าไปหาผมเจอหุ้นหนึ่งนะ เจอว่าผมมีหุ้นในเทมาเส็ก หรือในไฟเซอร์เนี่ย หรือ ปตท.เนี่ย ผมจะให้หุ้นละล้าน ถ้าไม่มีหาไม่เจอ ช่วยเอาผ้าอนามัยปิดปากแทนแมสก์แล้วกัน มันแย่จริงๆ ผมฟังเขานั่งออกรายการ ผมแบบ ตายห่า ทำไมมนุษย์คนหนึ่ง มันดักดานขนาดนี้ เห็นแล้วสมเพชจริงๆ” 

โทนี่ วู้ดซัม เป็นนามแฝงของ ทักษิณ ในการใช้การพูดคุยคลับเฮาส์ กับ กลุ่มการเมือง CARE คิด เคลื่อนไทย ในการเสวนาในครั้งนั้นเป็นตอน “ล็อกดาวน์แล้วยังไงต่อ”

เนื้อหาพูดถึงการประกาศล็อกดาวน์ แนวทางการบริหารจัดการวัคซีนของรัฐบาลไทย โดย โทนี่ วู้ดซัม หรือทักษิณ ได้แสดงความเห็นพร้อมเสนอแนวทางในการแก้ปัญหา แต่จุดพีคกลับไปอยู่ช่วงที่พูดถึงสื่อมวลชนกล่าวหาเขาว่า ถือหุ้นอยู่ในบริษัทผู้ผลิตวัคซีนรายใหญ่ ทั้งที่ไม่ใช่เรื่องจริง

ด้วยสิ่งที่เกิดขึ้น “ทักษิณ” ถึงกับฟาดแรงถึงสื่อฯ ที่ออกมาปล่อยเฟกนิวส์นี้ จนเกิดมีม “ทำไมดักดานขนาดนี้”