ด่วน! "ศักดิ์สยาม" ไม่รอดปมซุกหุ้นหลังศาลรธน.ฟันขาดคุณสมบัติ

17 มกราคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลรัฐธรรมนูญได้อ่านคำวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 8/2566 คดีกล่าวหา "นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ"  อดีต รมว.คมนาคม ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนายศักดิ์สยาม สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (5) ประกอบมาตรา 187 หรือไม่ กรณียังคงไว้ซึ่งหุ้นส่วนและยังคงเป็นผู้ถือหุ้นและเจ้าของห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น อย่างแท้จริง ซึ่งจะทำให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการหุ้นหรือกิจการของห้างหุ้นส่วน เป็นการกระทำอันเป็นการต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญนั้น

ทั้งนี้ ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 7 ต่อ 1 เห็นว่าการกระทำของนายศักดิ์สยาม กระทำการถือหุ้นโดยมิชอบ เป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัว ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง ( 5 ) นับแต่วันศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่นับแต่วันที่ 3 มี.ค. 2566 

"ศักดิ์สยาม"เคารพคำวินิจฉัย-ไม่รู้สึกอะไร

ทั้งนี้ ภายหลังที่นายศักดิ์สยาม เข้ารับฟังคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ โดยได้เดินออกมาจากศาลรัฐธรรมนูญ ด้วยสีหน้าเรียบเฉย พร้อมระบุว่า รอคัดคำวินิจฉัยของศาลฉบับเต็มก่อน ภายใน 15 วัน เพื่อดูว่าศาลจะให้ปฏิบัติอย่างไร

เมื่อผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า รู้สึกอย่างไร นายศักดิ์สยาม ส่ายหน้า พร้อมกล่าวว่า "ไม่ได้รู้สึกอะไร เราเคารพคำวินิจฉัย"

เมื่อถามย้ำว่า มีผลต่ออนาคตทางการเมืองหรือไม่ เพราะเป็นการถูกตัดสินว่าตั้งนอมินีมาถือหุ้นแทน นายศักดิ์สยาม ย้ำว่าขอคัดคำวินิจฉัยของศาลก่อน แล้วเดินออกจากวงสัมภาษณ์ทันที

เมื่อถามต่อว่าเรื่องนี้เรื่องนี้กังวลหรือไม่ นายศักดิ์สยามกล่าวว่า ไม่มี 

เมื่อถามว่า "นายอนุทิน ชาญวีรกูล" รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้กำชับอะไรมาหรือไม่นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ไม่มี

เปิด 1 เสียงตุลาการมองไม่ขาดคุณสมบัติ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนอ่านคำวินิจฉัย เจ้าหน้าที่ได้แจ้งว่า ฝ่ายผู้ร้อง คือ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้มอบฉันทะให้ผู้แทนมาฟังคำวินิจฉัย ส่วนฝ่ายผู้ถูกร้อง คือ นายศักดิ์สยาม ได้เดินทางมารับฟังคำวินิจฉัยด้วยตัวเอง 

ทั้งนี้ ศาลได้แจ้งว่า "นายวิรุฬห์ แสงเทียน" ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ แจ้งลาป่วย ซึ่งตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ บัญญัติว่าองค์คณะของศาลในการพิจารณาคดีและทำคำวินิจฉัยต้องประกอบด้วยตุลาการไม่น้อยกว่า 7 คน ดังนั้น วันนี้จึงสามารถพิจารณาคดีและทำคำวินิจฉัยได้

โดยศาลได้มอบหมายให้ นายอุดม สิทธิวิรัชธรรม นายจิรนิติ หะวานนท์ นายนภดล เทพพิทักษ์ และ นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เป็นผู้อ่านคำวินิจฉัย

อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า ตุลาการเสียงข้างน้อยจำนวน 1 คน คือ นายอุดม สิทธิวิรัชธรรม ที่เห็นว่า ความเป็นรัฐมนตรี ของผู้ถูกร้อง ไม่สิ้นสุดลงเฉพาะตัว ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรค 1 (5)

"อนุทิน"มองปมซุกหุ้นไม่ถึงขั้นทำภูมิใจไทยถูกยุบ

ด้าน นายอนุทิน กล่าวภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่า ส่วนตัวเพิ่งทราบผล ซึ่งต้องน้อมรับคำตัดสินของศาล หลังจากนี้ก็จะมีขั้นตอนต่อไป ทั้งเรื่องของการดำรงตำแหน่ง แต่ตนยังไม่ได้อ่านคำพิพากษาอย่างละเอียด ทราบเพียงผลพร้อมผู้สื่อข่าวเท่านั้น จึงขอสอบถามรายละเอียดก่อนว่าจะทำอย่างไรต่อไป

"หากมีผลกระทบ นายศักดิ์สยาม​ คงดำรงตำแหน่งใดๆทางการเมืองไม่ได้ ทั้ง สส. เลขาธิการพรรค ซึ่งก็ต้องคัดสรรเลขาธิการพรรคคนใหม่มาทำหน้าที่ และขณะนี้ยังไม่ได้พูดคุยกับนายศักดิ์สยาม" นายอนุทิน กล่าว

ส่วนจะส่งผลไปจนถึงขั้นยุบพรรคหรือไม่นั้น โดยประเด็นนี้เป็นเรื่องการจัดการทรัพย์สินส่วนบุคคล แต่ละคนมีหน้าที่รับผิดชอบการแจ้งทรัพย์สินให้ทางรัฐรับทราบ นี่จึงเป็นเจตนารมย์ในการแจ้งทรัพย์สิน หากแจ้งไม่ถูก มีคนมาตรวจสอบก็ต้องแก้ไขให้ได้ หากแก้ไขไม่ได้ก็นำไปสู่การดำเนินคดี การร้องเรียนต่างๆ พร้อมย้ำว่า เป็นเรื่องส่วนบุคคล แต่พรรคก็ยังเป็นพรรคดำเนินกิจกรรมทางการเมืองต่อไป

"มาดามเดียร์"โพสต์ยืนหยัดบนความถูกต้อง

ด้าน "น.ส.วทันยา บุนนาค" สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำตัดสิน โดยระบุว่า … เมื่ออุดมการณ์ยืนหยัดในความถูกต้องมากกว่าความถูกใจ ย่อมทำให้เวลาอยู่ข้างเราเสมอ 

"แม้ในอดีตเดียร์จะต้องรับแรงเสียดทาน แต่สุดท้ายความจริงก็จะปรากฎ และยิ่งทำให้มั่นใจว่าเดียร์ทำสิ่งที่ถูกต้องเพื่อประชาชนแล้ว" น.ส.วทันยา กล่าว  

อนึ่ง สำหรับคดีดังกล่าวสืบเนื่องจาก สส.พรรคฝ่ายค้าน จำนวน 54 คน ได้ยื่นคำร้องต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 7 ก.พ. 2566 เพื่อร้องนายศักดิ์สยาม ในฐานะ รมว.คมนาคม เวลานั้น ว่าคงไว้ซึ่งหุ้นส่วนและยังคงเป็นผู้ถือหุ้นและเจ้าของหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญคอนสครัคชั่น 

ก่อนที่ต่อมาศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้องดังกล่าว พร้อมมีคำสั่งเมื่อวันที่ 3 มี.ค. 2566 ให้นายศักดิ์สยาม ในฐานะผู้ถูกร้อง หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย และมีการยื่นหนังสือชี้แจงแก้ข้อกล่าวหามาแล้วหลายครั้ง กระทั่งศาลรัฐธรรมนูญ ได้นัดวันนี้ (17 ม.ค.) เพื่อฟังคำวินิจฉัย

"เสี่ยโอ๋"ลาออกสส.-เลขาฯภูมิใจไทยแล้ว

อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้คุณสมบัติความเป็นรัฐมนตรีของนายศักดิ์สยาม สิ้นสุดลงนั้น ล่าสุด นายอนุทิน ระบุว่า ได้รับหนังสือลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ของนายศักดิ์สยาม ซึ่งมีผลตั้งแต่วันนี้ (17ม.ค.) เป็นต้นไป โดยพรรคภูมิใจไทย จะได้แจ้งต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง ต่อไป

นอกจากนี้ นายศักดิ์สยาม ยังได้ทำหนังสือลาออกจากการเป็น สส.บัญชีรายชื่อ ต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปด้วย ซึ่งการลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการพรรค และ สส. เป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ แม้ว่าจะไม่มีผลต่อตำแหน่งเลขาธิการพรรค และ สส. ก็ตาม แต่นายศักดิ์สยาม ยินดีที่จะลาออก