"อนุทิน"รอคำสั่งศาลปมกกต.ส่งเรื่องฟันสส.เขต 8 ภูมิใจไทยปมแจกเงิน

13 มกราคม 2567 จากกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช มีมติให้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาแผนคดีเลือกตั้ง เพื่อสั่งให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งหรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง และให้มีการจัดเลือกตั้งใหม่แทน "นางมุกดาวรรณ เลื่องสีนิล" สส.เขต 8 พรรคภูมิใจไทย

ล่าสุด "นายอนุทิน ชาญวีรกูล" รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ส่วนตนยังไม่ทราบรายละเอียดเรื่องดังกล่าว แต่คงจะมีการพูดคุยรายละเอียดในการประชุมพรรควันที่ 16 ม.ค.นี้ ซึ่งตามขั้นตอน จะต้องผ่านการพิจารณาของศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งก่อน ซึ่งพรรคต้องดำเนินการตาม

ส่วนจากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้การเลือกตั้งครั้งต่อไปต้องระวังมากขึ้นหรือไม่นั้น ย้ำว่า ภูมิใจไทยระวังตลอด แต่เชื่อว่าไม่มีใครตั้งใจทำผิด เพราะการจะเป็น สส. ไม่ง่าย แต่อาจจะมีข้อผิดพลาด และถ้าพลาดแล้วแก้ต่างได้ ก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าแก้ต่างไม่ได้ พรรคก็ช่วยไม่ได้

ส่วนหากศาลตัดสินให้ใบแดงจะกระทบกับจำนวน สส.เขตของพรรค ที่จะไม่สามารถส่งผู้สมัครได้อีกในเขตดังกล่าวหรือไม่นั้น นายอนุทิน ระบุว่า ไม่เป็นไร และจะนำเรื่องดังกล่าวไปเป็นกรณีศึกษา และจะต้องระมัดระวังให้มาก เพราะบางครั้งผู้สมัครไม่ได้กระทำผิด แต่บางครั้งความผิดเกิดจากผู้ช่วยหาเสียง แต่พรรคก็ต้องรับผิดชอบในความผิดที่เกิดจากพรรค 

อนึ่ง สำหรับผลการเลือกตั้งทั่วไป เมื่อวันที่ 14 พ.ค. 2566 โดยนางมุกดาวรรณ สามารถเอาชนะ นายสุนทร รักษ์รงค์ ผู้สมัครจากพรรคพลังประชารัฐ ในเขตเลือกตั้งที่ 8 ประกอบด้วย อำเภอนาบอน อำเภอช้างกลาง อำเภอฉวาง และอำเภอพิปูน ไปด้วยคะแนน 23,393 ต่อ 17,448 คะแนน

อย่างไรก็ตาม นางมุกดาวรรณ ถูกร้องเรียนในเรื่องการจ่ายเงินให้กับผู้มีสิทธิเลือกตั้งไปลงคะแนนให้กับตัวเอง และฟังการปราศรัย หัวละ 500 บาท รวมเป็นเงิน 25,000 บาท

พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561

​​​​​​มาตรา 73 ห้ามมิให้ผู้สมัครหรือผู้ใดกระทําการอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ลงคะแนนให้แก่ตนเองหรือผู้สมัครอื่น ให้งดเว้นการลงคะแนนให้แก่ผู้สมัคร หรือการชักชวนให้ไปลงคะแนน ไม่เลือกผู้ใดเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้

(1) จัดทํา ให้ เสนอให้ สัญญาว่าจะให้ หรือจัดเตรียมเพื่อจะให้ ทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์อื่นใด อันอาจคํานวณเป็นเงินได้แก่ผู้ใด
(2) ให้ เสนอให้ หรือสัญญาว่าจะให้เงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดไม่ว่าจะโดยตรงหรือ โดยอ้อมแก่ชุมชน สมาคม มูลนิธิ วัด สถานศึกษา สถานสงเคราะห์หรือสถาบันอื่นใด
(3 ทําการโฆษณาหาเสียงด้วยการจัดให้มีมหรสพหรือการรื่นเริงต่าง ๆ
(4) เลี้ยงหรือรับจะจัดเลี้ยงผู้ใด
(5) หลอกลวง บังคับ ขู่เข็ญ ใช้อิทธิพลคุกคาม ใส่ร้ายด้วยความเท็จ หรือจูงใจให้เข้าใจผิด ในคะแนนนิยมของผู้สมัครหรือพรรคการเมือง

ความใน (3) มิให้ใช้บังคับแก่ผู้สมัครที่ใช้ความรู้ความสามารถทางศิลปะของตน หาเสียง ให้แก่ตนเองโดยไม่ใช้อุปกรณ์ในการแสดงมหรสพ

ความผิดตาม (1) หรือ (2) ให้ถือว่าเป็นความผิดมูลฐานตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และให้คณะกรรมการมีอํานาจส่งเรื่องให้สํานักงานป้องกันและปราบปราม การฟอกเงินดําเนินการตามหน้าที่และอํานาจได