คปท. ปักหลักชุมนุมค้างหน้าทำเนียบฯ เรียกร้องส่ง "ทักษิณ" กลับเรือนจำ

12 มกราคม 2567 เมื่อเวลา 15.20 น. กลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย หรือ คปท. นำโดย นายพิชิต ไชยมงคล , นายนัสเซอร์ ยีหมะ รวมทั้ง นายแพทย์ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ แกนนำกลุ่มคนเสื้อหลากสี ได้ร่วมกันแถลงการณ์ถึงจุดยืนการทำกิจกรรมชุมนุม ที่ใช้ชื่อว่า "ทวงคืนความยุติธรรม" กรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจเกิน 120 วัน 

โดย นายพิชิต ระบุว่า วันนี้ถือเป็นวันแรกของการมาส่งเสียงของประชาชน เพื่อสื่อสารไปยังรัฐบาล กรณีของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่อยู่นอกเรือนจำเป็นวันที่ 141 และอยากให้สังคมร่วมกันจับตามองการรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ

และชัดเจนว่าวันนี้ กรมราชทัณฑ์ ได้ประกาศให้ นายทักษิณรักษาตัวต่อหลังเกิน 120 วัน โดยไม่มีคำตอบให้สังคม และให้เฝ้าระวังอาการเป็นพิเศษ ที่ผ่านมา ไม่เคยมีนักโทษคนไหนเคยได้รับการเฝ้าระวังเป็นพิเศษ และที่ผ่านมา มีการถามมาตลอดว่านายทักษิณ ป่วยด้วยโรคอะไร แต่วันนี้คำตอบที่ได้คือ ให้นายทักษิณ นอนรักษาตัวต่อ 

ทำให้วันนี้ทางกลุ่ม คปท. จึงต้องมาแสดงพลัง เพื่อบอกว่า ทางกลุ่มไม่เห็นด้วยกับการที่กรมราชทัณฑ์ ขยายเวลาการรักษาตัวให้นายทักษิณเกิน 120 วัน และจะล่ารายชื่อให้ครบ 20,000 รายชื่อ เพื่อยื่นต่อสภาผู้แทนราษฎร เพื่อส่งให้ประธานศาลฎีกา ให้นำไปสู่การไต่สวนการทำงานกับปปช.

นายพิชิต ระบุอีกว่า ในวันที่ 16 ม.ค.นี้ ทางกลุ่ม คปท. จะเดินทางไปยัง สำนักงาน ป.ป.ช. เพื่อติดตามความคืบหน้า หลังจากยื่นคำร้องให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบว่าให้สอบข้าราชการ ทั้งอธิบดีกรมราชทัณฑ์ นายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ ปลัดกระทรวงยุติธรรม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงที่ทำปฎิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ ด้วยไม่เชื่อว่าอาการของนายทักษิณป่วยขั้นวิกฤต ขอย้ำว่า ทางกลุ่มไม่ได้เชื่อว่านายทักษิณ อยู่ในอาการวิกฤตแน่นอน โดยหลังจากการชุมนุมรอบนี้ หากยังไม่มีความชัดเจน จะมีการประเมินยกระดับการชุมนุมอีกครั้ง

ด้าน นายแพทย์ตุลย์ กล่าวว่า ตั้งแต่นายทักษิณกลับสู่เมืองไทย 22 ส.ค.2566 ทุกคนได้เห็นแล้วว่า อาการก็ปกติดี และเมื่อพอเข้าคุกแล้วนักโทษคนหนึ่งจะออกจากเรือนจำไปรักษาตัวต้องมีอาการหนักตามกฎของกระทรวงยุติธรรม ซึ่งหากเทียบอาการตอนเช้าของวันที่ 22 ส.ค.2566 กับช่วงกลางคืน 22 ต่อเนื่อง 23 ส.ค.2566 อาจจะต้องมีการสร้างสตอรี่ขึ้นหรือไม่ จริงๆอาการไม่หนักแต่บอกหนัก ทางการแพทย์เรียกว่า "ผิดวิชาชีพเวชกรรม"

อีกทั้ง การส่งนายทักษิณตรงไปห้องพิเศษ ก็มองว่า ผิดหลักการแพทย์ และผิดหลักกฎหมายโดยสิ้นเชิง ตามหลักนั้น ต้องถูกส่งไปตรวจที่ห้องฉุกเฉินก่อน และหากอาการไม่หนัก ก็จะต้องถูกส่งตัวหลับไปที่เรือนจำ และหากจะรักษาตัวต่อต้องอยู่ในไอซียูไม่ใช่ห้องพิเศษ ซึ่งตามกฎกระทรวง ระบุว่าต้องไม่บรรจุผู้ต้องขังในห้องพิเศษ

โดยหลังจากนี้ จะยื่นฟ้องในฐานละเว้นการปฎิบัติหน้าที่มาตรา 157  และจะมีการยื่นร้องต่อแพทยสภาต่อไป เพราะเข้าข่ายผิดวิชาชีพเวชกรรม เพราะวิชาชีพเวชกรรม ต้องไม่ให้การที่เป็นเท็จในการประกอบวิชาชีพ ดังนั้น จึงเป็นที่สงสัยว่า มีผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมช่วยเหลือให้อยู่โรงพยาบาลตำรวจไม่ได้อยู่ในคุกด้วย

ส่วนเรื่องอยู่ในโรงพยาบาลตำรวจจริงหรือไม่ รักษาด้วยโรคอะไร นายแพทย์ตุลย์ ระบุว่า ข้อมูลนี้เป็นข้อมูลส่วนบุคคล และยืนยันว่า การที่นายทักษิณอยู่หรือไม่อยู่ในโรงพยาบาล ไม่ได้เป็นความลับเพราะเป็นการตรวจสอบตามกฎหมาย  โดยวันนี้ ตนมาในฐานะผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม จึงมองว่า การแพทย์ของโรงพยาบาลตำรวจ กำลังทำลายระบบทางการแพทย์ด้วย

นอกจากนี้ นายแพทย์ตุลย์ ขอมาแฉ นายแพทย์ที่ส่องกล้องที่ไหล่ ทำให้ช่วยเหลือนายทักษิณให้อยู่โรงพยาบาลตำรวจโดยไม่ต้องอยู่ในคุก การที่นายทักษิณเป็นนักโทษเทวดา เพราะมีแพทย์บางคนสร้างสตอรี่อันเป็นเท็จให้มีอาการหนักเกินจริง เพื่อไม่ต้องกลับเข้าไปรับโทษในคุก ดังนั้นเพื่อคืนความยุติธรรม ทางกลุ่มจึงเรียกร้องให้ส่งตัวนายทักษิณกลับไปรับโทษในคุกโดยทันที

นายแพทย์ตุลย์ ยอมรับว่า หลักฐานการรักษาเป็นข้อมูลส่วนตัว ที่เปิดเผยไม่ได้ แต่ตัวแพทย์ที่รักษาไม่เป็นความลับ และการที่ตัวของนายทักษิณอยู่โรงพยาบาลตำรวจนั้นก็เปิดเผยได้ เพราะนายทักษิณไม่ใช่คนปกติ แต่เป็นนักโทษ ดังนั้นจะต้องมีการยืนยันได้ว่า นายทักษิณอยู่ในเรือนจำหรือไม่ และการที่จะอยู่โรงพยาบาลตำรวจได้จะต้องมีอาการหนัก 

แต่เราทราบว่า ในการให้ข้อมูลจากคนในโรงพยาบาลตำรวจ ที่ให้ข้อมูลจนเองมานั้น ทีมแพทย์ที่เกี่ยวข้องที่รับตัวคือ "หมอทางสมอง"  และไม่ได้ปรากฎหลักฐานว่า นายทักษิณเข้าห้องฉุกเฉินและห้องไอซียู ซึ่งข้อมูลนี้สามารถตรวจสอบได้  และโรคต่างๆของนายทักษิณ 4 โรคในวันแรกๆ ตามที่ปรากฎ สามารถรักษาด้วยยาฉีดและผ่าตัดได้ และหากโรคหัวใจเส้นเลือดตีบตัน สามารถทำได้อยู่แล้วโดยที่ไม่ต้องนอนในโรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งหากเป็นแบบนั้นก็ควรจะออกข่าวมาเลย แต่การออกมาแบบนี้ไม่เนียน

รวมถึง คนไข้ที่อยู่ห้องพิเศษ แล้วอาการหนักควรจะต้องย้ายไปอยู่ไอซียู แต่กรณีนี้ไม่ได้ไปอยู่ ซึ่งแพทย์ทุกคนเมื่อเห็นสอตรี่แบบนี้เป็นความไม่ถูกต้อง ดังนั้นแพทย์บุคคลที่สร้างสตอรี่ ก็ควรจะต้องร่วมรับผิดชอบในเรื่องนี้ 

ขณะที่ นายนัสเซอร์ กล่าวว่า วันนี้เป็นวันที่ 141 ที่กระบวนการยุติธรรมถูกนักการเมือง และข้าราชการบางคนช่วยเหลือนายทักษิณไม่ให้ถูกจองจำในเรือนจำพิเศษกรุงเทพ และที่ผ่านมามีการถามมาตลอดว่านายทักษิณ ป่วยด้วยโรคอะไร แต่ได้รับคำตอบว่า ป่วยด้วยอาการวิกฤต ซึ่งคำว่าวิกฤต คือสิ่งที่ช่วยให้ไม่ต้องนอนเรือนจำหรือไม่ 

"ดังนั้น ประชาชนที่รักความยุติธรรม ก็อยากจะเชิญชวนให้มาร่วมชุมนุมกับกลุ่มคปท. และยืนยันว่า คปท.จะไม่ยอมให้ท่านมาหลอกพวกเราอีกแล้ว และวันนี้ต้องเอาข้อมูลที่เป็นจริงมาบอกกับประชาชน และจะรอความจริงที่ทำเนียบรัฐบาลใน 3 วันนี้"  นายนัสเซอร์ กล่าวทิ้งท้าย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วนบรรยากาศการชุมนุมยังเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ผู้ชุมนุมได้ใช้พื้นที่การชุมนุม ภายในลานของศาลกรมหลวงชุมพร และบนทางเท้า โดยไม่ได้ลงไปทำกิจกรรมบนถนน เพื่อกีดขวางการจราจร และมีการตั้งเวทีปราศรัยอยู่บริเวณถนนพระรามที่ 5 ใกล้กับสะพานชมัยมรุเชษฐ์ด้วย โดยจะทำกิจกรรมชุมนุมในวันแรกไปจนถึงเวลา 24.00น. และจะปักหลักค้างคืน ไปจนถึงวันที่ 14 ม.ค.2567

"บิ๊กโจ๊ก" ลงพื้นที่ตรวจความเรียบร้อย ม็อบ คปท. ยัน ไม่มีอะไรน่ากังวล

ต่อมา เวลา 17.30 น. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ลงพื้นที่มายังบริเวณสะพานชมัยมรุเชษฐ์ ทำเนียบรัฐบาล เพื่อตรวจดูความเรียบร้อยในการชุมนุมของกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) เพื่อพูดคุยกับแกนนำในการดูแลความสงบเรียบร้อย โดยได้ขอความร่วมมือทางแกนนำของกลุ่มว่า ในวันพรุ่งนี้ที่จะมีการจัดกิจกรรมวันเด็กที่ทำเนียบรัฐบาล ขอให้งดใช้เครื่องขยายเสียงเพื่อไม่ให้กระทบกับการทำกิจกรรม รวมถึง ให้ความมั่นใจว่า ตำรวจมีการวางกำลังดูแลความปลอดภัยให้กับผู้ชุมนุม

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า ได้มีการประสานกับแกนนำส่วนหนึ่งอยู่แล้ว เพราะการชุมนุมครั้งนี้มีการขออนุญาตใช้พื้นที่อย่างถูกต้อง เป็นไปตามกฎหมาย และได้พูดคุยกับแกนนำว่า จะต้องไม่กีดขวางการจราจร และเส้นทางขบวนเสด็จ โดยเบื้องต้นการชุมนุมวันนี้ ผู้ชุมนุมยังมาไม่มากนัก และยังไม่เกิน 100 คน คงต้องดูวันเสาร์-อาทิตย์ อีกครั้ง

ส่วนการดูแลความปลอดภัยวันนี้ ตำรวจวางกำลังทั้งหมดให้มีความปลอดภัยกับประชาชน และบรรยากาศยังเป็นไปด้วยความเรียบร้อย รวมถึงมีการดูแลอำนวยความสะดวก ทั้งห้องน้ำ และต่างๆ ด้วย

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยืนยันว่า วันนี้ไม่มีอะไรที่หนักใจ ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ส่วนวันพรุ่งนี้ ที่จะมีการจัดกิจกรรมวันเด็ก จึงมองว่ากลุ่มผู้ชุมนุมจะเข้าใจ ว่าจะไม่ให้ใช้เสียงให้มากระทบกัน และเท่าที่ดู จะยังไม่อนุญาตให้ใช้พื้นที่การชุมนุมบนพื้นผิวการจราจรที่จะกระทบสิทธิของประชาชน 

"จากการประเมินสถานการณ์วันนี้ยังไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แต่ก็ไม่ได้ประมาท ส่วนที่ผู้ชุมนุมมีการปักหลักพักค้าง ก็ไม่มีอะไรที่หนักใจในเรื่องความปลอดภัย เพราะมีแผนการดูแลความปลอดภัยชัดเจนอยู่แล้ว จะดูแลไม่ให้มีการมาก่อกวนเพื่อให้เกิดมือที่ 3 อย่างแน่นอน จึงขอให้ประชาชนเกิดความมั่นใจว่า ตำรวจมีการรักษาความปลอดภัยอยู่แล้ว  ส่วนการทำกิจกรรมยังอยู่ในกรอบของกฎหมายและยังไม่มีอะไรสุ่มเสี่ยงเช่นกัน" รอบ ผบ.ตร. ระบุ