"คปท.-นิพิฏฐ์" จ่อล่ารายชื่อ ยื่นศาลฎีกา ไต่สวน ป.ป.ช. ละเว้นปฏิบัติหน้าที่

9 มกราคม 2567 ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ หลักสี่ กทม. เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย หรือ คปท. โดย นายพิชิต ไชยมงคล, นายนัสเซอร์ ยีหมะ แกนนำ คปท. พร้อมด้วย นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง ได้หารือกันเกี่ยวกับกรณีการรักษาตัวของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี บนชั้น 14 ของโรงพยาบาลตำรวจ นานกว่า 120 วัน

โดยนายพิชิต แถลงภายหลังการหารือว่า การหารือเพื่อทวงคืนความยุติธรรม กรณีนายทักษิณที่เกิน 120 วันมาแล้ว แต่กระบวนการยุติธรรมของไทยยังไม่มีคำตอบให้สังคมไทยว่า นายทักษิณ ป่วยร้ายแรงแค่ไหน ถึงต้องมีการอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจมาถึงทุกวันนี้ การหารือเพื่อสร้างความร่วมมือ ซึ่งมีทิศทาง คือ เราและอีกหลายคน มีการยื่น ป.ป.ช. ในเรื่องนายทักษิณ แต่การทำงานของ ป.ป.ช. ยังไม่มีความคืบหน้า ซึ่งกรณีของนายทักษิณ เป็นกระบวนการทุจริตทางกระบวนการยุติธรรมที่มีความร้ายแรง ต่อมาตรฐานกฎหมายของไทย

จึงเรียกร้อง ป.ป.ช. ตั้งคณะทำงานขึ้นมาไต่สวนกรณีดังกล่าวอย่างเร่งด่วน โดย คปท. จะมีการติดตามและขอเข้าหารือการทำงานของ ป.ป.ช. ในวันที่ 16 มกราคมนี้ เวลา 11.00 น. เพื่อให้ได้ดำเนินการไต่สวนข้าราชการที่เกี่ยวข้อง ทั้งอธิบดีกรมราชทัณฑ์  ปลัดกระทรวงยุติธรรม รวมทั้งนายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ และนายแพทย์ที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ ว่า เหตุใดจึงมีการละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

"ถ้าป.ป.ช. ยังไม่ดำเนินการโดยเร่งด่วน เราจะมีแนวทางในการยื่นเรื่องไปยังสมาชิกรัฐสภา โดยใช้เสียง 1 ใน 5 หรือ 150 คน เสนอประธานรัฐสภา เพื่อให้ประธานฯยื่นเรื่องต่อประธานศาลฎีกา ให้ตั้งคณะทำงานการไต่สวน ป.ป.ช. แต่ถ้าระบบรัฐสภายังไม่สามารถเข้าชื่อได้ถึง 150 คน เราจะมีการเรียกร้องและเชิญชวนให้ประชาชนร่วมลงชื่อให้ครบ 20,000 รายชื่อ เพื่อยื่นต่อประธานรัฐสภา ให้ยื่นต่อประธานศาลฎีกาอีกครั้ง" นายพิชิต กล่าว

ด้าน นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ กล่าวว่า ตนเองไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคการเมืองใดแล้ว ดังนั้นวันนี้การแสดงความเห็นได้อย่างอิสระ ในฐานะเป็นประชาชนเต็มขั้น ขอให้กำลังใจกับน้องๆคปท. ที่ทำเรื่องยิ่งใหญ่ต่อบ้านเมือง โดยรักษาหลักนิติรัฐ นิติธรรมเอาไว้ แม้ว่าขณะนี้ ประชาชนบางส่วนไม่เห็นความสำคัญ แต่ทั้งนี้ในระบอบประชาธิปไตย ซึ่งประกอบด้วย 3 อำนาจ คือ อำนาจนิติบัญญัติ, อำนาจบริหาร, อำนาจตุลาการ แต่ทั้ง 3 อำนาจนี้ จะไม่สามารถยืนอยู่ได้ ถ้าไม่มีความยุติธรรมค้ำยัน ดังนั้น ในทางการเมืองจึงบอกว่า ความยุติธรรมเป็นเสาค้ำยันระบอบประชาธิปไตย ซึ่งหากความยุติธรรมอ่อนแอแล้วระบอบประชาธิปไตยก็ต้องล่มสลายแน่นอน

นอกจากนี้ หากถามตนตรงๆว่า คุณทักษิณป่วยหรือเปล่า ก็ต้องบอกเลยว่า คุณทักษิณป่วยแน่นอน แต่ปัญหาอยู่ที่ว่าป่วยถึงขนาดที่ต้องนอนโรงพยาบาลตำรวจชั้น 14 ตลอดเวลาหรือเปล่า แต่ถ้าหากไม่ใช่นั่นแสดงว่า มีความผิดปกติในการบริหารงาน หมายความว่า เจ้าหน้าที่กำลังปฏิบัติผิดต่อกฎหมายอยู่  ซึ่งเราทั้งหมดและคน 70 ล้านคนในประเทศไม่สามารถจะไปฟ้องเจ้าหน้าที่ได้โดยตรง เพราะเขาจะต้องขึ้นศาลอาญาทุจริต ซึ่งคนที่จะเป็นโจทก์ฟ้องเจ้าหน้าที่ได้ มีอยู่ 3 คน คือ 1.อัยการ 2. ป.ป.ช. และ 3. ผู้เสียหาย ซึ่งเราจะยื่นฟ้องได้ เพื่อเป็นผู้เสียหายและไปยื่นต่อ ป.ป.ช. กล่าวหาเจ้าหน้าที่รัฐทำผิดกฎหมาย จากนั้นป.ป.ช.รับเรื่องและไต่สวนว่า เจ้าหน้าที่รัฐกระทำความผิดกฎหมายจริงหรือไม่ แล้วส่งไปยังอัยการหรือ ป.ป.ช.ฟ้องเอง

"แต่ขณะนี้ที่เรานั่งคุยกันอยู่ ขอฝากไปถึงเลขาฯ ป.ป.ช. ด้วยความเป็นมิตรอย่างยิ่งว่า สิ่งที่คปท.และประชาชนในประเทศนี้ติดใจอยู่ว่า คุณทักษิณป่วยจริงถึงขนาด ต้องนอนชั้น 14 จริงหรือเปล่า นี่คือปัญหา ที่เลขาฯ ป.ป.ช. ควรต้องออกมาแถลงให้ประชาชนได้รับทราบว่า ไต่สวนไปถึงไหนแล้ว ถ้าป.ป.ช.ไม่ขยับอะไรเลย เราต้องมีการดำเนินการกับ ป.ป.ช. คือใช้เสียงสมาชิกรัฐสภา 1 ใน 5 เข้าชื่อเสนอต่อประธานรัฐสภา แล้วส่งไปยังประธานศาลฎีกา เพื่อให้มีการตั้งผู้ไต่สวนอิสระ หรือโดยประชาชน 20,000 คน ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งเข้าชื่อกล่าวหาคณะ ป.ป.ช. โดยยื่นเรื่องต่อประธานรัฐสภา และส่งต่อไปยังประธานศาลฎีกาเพื่อไต่สวนว่า ป.ป.ช. ไม่ได้กระทำตามหน้าที่

นอกจากนี้ เราอยากให้ ป.ป.ช. ประกาศให้ชัด เรื่องกันบุคคลไว้เป็นพยาน ถ้าคณะแพทย์ 4 คน ที่ตรวจรักษาคุณทักษิณ มีบางคนที่คิดว่า ต้องติดคุกหลังเกษียณ ขอให้เดินออกมาพบ ป.ป.ช. เพื่อขอให้กันไว้เป็นพยาน แล้วจะบอกให้หมดว่าป่วยจริงหรือไม่ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ หากไม่อยากมีปัญหาขึ้นศาลหลังเกษียณ ก็เช่นเดียวกัน ขอให้กันเป็นพยาน ไม่ต้องขึ้นศาลถูกดำเนินคดี ซึ่งเราจะพิสูจน์กันว่าคุณทักษิณป่วย ถึงขนาดละเลยหลักนิติรัฐ นิติธรรมหรือไม่ และยินดียืนข้าง คปท. เพื่อพิสูจน์ความจริงตั้งแต่นี้เป็นต้นไป

พร้อมกันนี้ ขอฝากไปถึงพรรคก้าวไกล และประชาธิปัตย์ ว่า "ที่ผ่านมา พรรคก้าวไกลพูดถึงเรื่องความเท่าเทียม คนเท่ากันมาตลอด ถ้าเห็นว่านายทักษิณ สร้างความไม่เท่าเทียมเกิดขึ้น คนไม่เท่ากัน มนุษย์ไม่เท่ากัน ดังนั้น ต้องออกมาร่วมต่อสู้และขอให้ร่วมลงชื่อเพื่อส่งไปยังศาลฎีกา ขณะที่พรรคประชาธิ ปัตย์ ได้บอกว่าเลิกจำศีลแล้ว จึงขอความกรุณาสมาชิก 20 คนไปหาพี่น้องประชาชน คนละ 1,000 คน เพื่อลงรายมือชื่อเข้าร่วมตรวจสอบการทำงานของ ป.ป.ช.  ถ้าพรรคประชาธิปัตย์และพรรคก้าวไกลร่วมมือกัน ตนเชื่อว่า ความจริงจะปรากฏอย่างแน่นอน" นายนิพิฏฐ์ กล่าว

ส่วนนายนัสเซอร์ กล่าวว่า วันพรุ่งนี้ (10 ม.ค.) คปท.จะแถลงข่าวที่อนุสรณ์สถาน ถนนราชดำเนิน กทม. เพื่อที่จะแจ้งรายละเอียดการจัดกิจกรรมที่ทำเนียบรัฐบาล และสะพานชมัยมรุเชฐ ในวันที่ 12-14 ม.ค.2567 โดยจะมีการค้างคืนด้วย ขอเชิญชวนพี่น้อง ที่ต้องการเรียกร้องกระบวนการยุติธรรม ได้มาร่วมกิจกรรม และร่วมลงชื่อ ตั้งแต่เวลา 15.00 น. เป็นต้นไป