svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"ปกรณ์วุฒิ"นัดคุยฝ่ายค้านพรุ่งนี้แบ่งคิวอภิปรายงบ 67

01 มกราคม 2567
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"วิปฝ่ายค้าน" นัดประชุมพรุ่งนี้เพื่อวางคิวอภิปรายงบประมาณปี 67 หลังได้เวลารวม 20 ชั่วโมง ขณะที่ "เอกนัฏ" ย้ำต้องเร่งคลอดเพื่อเอาเงินมากระตุ้นเศรษฐกิจ ยันไร้องครักษ์พิทักษ์รัฐมนตรี

1 มกราคม 2566 "นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล" สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน หรือ วิปฝ่ายค้าน เปิดเผยว่า วิปฝ่ายค้านได้นัดพรรคร่วมฝ่ายค้าน เพื่อหารือสรุปการทำงานร่วมกันในการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ตามที่สภาฯ นัดประชุมระหว่างวันที่ 3-5 ม.ค. ในวันที่ 2 ม.ค. เวลา 10.00 น. ที่รัฐสภา

ทั้งนี้ ในการจัดสรรเวลาที่ฝ่ายค้านได้รับเวลา รวม 20 ชั่วโมง ได้แบ่งเวลาให้พรรคการเมืองต่างๆ ดังนี้

  • พรรคก้าวไกล 830 นาที
  • พรรคประชาธิปัตย์ 200 นาที
  • พรรคไทยสร้างไทย 60 นาที
  • พรรคเป็นธรรม 20 นาที
  • พรรคประชาธิปไตยใหม่ พรรคครูไทยเพื่อประชาชน และพรรคใหม่ ได้รับพรรคละ 10 นาที

สำหรับเนื้อหาการอภิปรายได้พิจารณาเบื้องต้น คือ จะจัดกลุ่มตามประเด็น เช่น เศรษฐกิจปากท้อง, ทรัพยากรมนุษย์, สิ่งแวดล้อม และจะจัดกลุ่มผู้อภิปรายให้อภิปรายเป็นกลุ่มๆ ซึ่งในวันหยุดยาวช่วงปีใหม่ พรรคก้าวไกล ไม่หยุดการทำงานเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการอภิปราย เพราะมีเวลาเตรียมตัวน้อยเพียง 7-8 วันเท่านั้น จากเดิมในการเตรียมงานของสภาฯ ที่ผ่านมามีระยเวลาเตรียมพร้อมไม่ต่ำกว่า 12 วัน

 

"ผมขอเรียกร้องไปยังรัฐบาล ในการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณปีถัดไป ขอให้หารือกับสภา เพื่อกำหนดวันที่มีความพร้อมร่วมกัน ไม่ใช่มัดมือชกล็อควันให้สภาพิจารณา เพราะการพิจารณางบประมาณเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญกับสภา" นายปกรณ์วุฒิ กล่าว 

อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวไม่มีความกังวลที่อาจจะมีอุปสรรคหรือการขัดขวางการอภิปราย เนื่องจากการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณ 67 นั้น เป็นการตรวจสอบปกติระหว่างสภา และรัฐบาล พร้อมกับเป็นการให้ข้อเสนอแนะกับรัฐบาลในการจัดสรรงบประมาณที่เหมาะสม

รัฐไร้การตั้งทีมป้องถกงบประมาณ

ด้าน "นายศรัณย์ ทิมสุวรรณ" สส.เลย พรรคเพื่อไทย ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ เวลา 13.00 น. ได้นัดหารือพรรคร่วมรัฐบาล ในการประชุมสภา เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ. งบประมาณ 2567 รวมถึงเรื่องทั่วๆ ไป ทั้งนี้ฝั่งรัฐบาลได้เตรียมความพร้อมในการอภิปราย จากเวลาที่ได้รับรวม 20 ชั่วโมง ได้แบ่งให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) 5 ชั่วโมงและ อีก 15 ชั่วโมง ได้จัดสรรให้พรรคร่วมรัฐบาลในกรอบกว้างๆ แล้วเพื่อให้แต่ละพรรคได้จัด สส. ที่จะอภิปราย

ส่วนการตั้งทีมรับการอภิปรายที่คาดว่าพรรคฝ่ายค้านตั้งประเด็นโจมตีว่าเป็นการจัดงบที่ไม่แก้ปัญหาวิกฤตนั้น ไม่ถือว่าเป็นการตั้งรับ เพราะทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านสามารถอภิปรายถึงความเหมาะสมของการจัดสรรงบประมาณได้ ไม่ใช่ว่าอยู่ฝ่ายรัฐบาลต้องสนับสนุนหรือว่าเห็นดีด้วย และตนเชื่อว่า สส.ในพื้นที่จะเห็นถึงรายละเอียดและความเหมาะสมในการจัดงบประมาณ เพื่อให้การจัดงบประมาณออกมาดีที่สุด

 

"การจัดงบประมาณปี 67 ถือว่าทำมาก่อนที่จะมีรัฐบาลปัจจุบัน และนายเศรษฐา เข้ามาบริหารประเทศ ดังนั้น ถือว่าเป็นงบประมาณที่รัฐบาลนี้ไม่ได้กำหนด และมีข้อจำกัด ดังนั้นในการอภิปรายรายละเอียดของ สส. จึงเป็นผู้ที่จะเสนอแนะเพื่อให้ร่างกฎหมายงบประมาณออกมาดีที่สุด" นายศรัณย์ กล่าว



ขณะที่ "นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์" เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่า เรื่องของงบประมาณกระทรวงที่รัฐมนตรีของพรรคดูแลอยู่ ให้เป็นหน้าที่ของรัฐมนตรี แต่การพิจารณางบประมาณเป็นหน้าที่ สส.ทุกคน ซึ่งในที่สุดคิดว่าคงต้องผ่าน เพราะตอนนี้ตกอยู่ในสถานะเข้าเกียร์ว่างมากว่า 3 เดือนแล้ว กว่าจะพิจารณาเสร็จขั้นตอน เชื่อว่าคงล่วงเลยไปครึ่งหนี่งของปีงบประมาณ

 

"ต้องรีบดันออกมา เพื่อรัฐบาลจะได้มีเงินใช้จ่ายขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เพราะฉะนั้น ไม่มีความกังวลใดๆ รัฐมนตรีจะตอบในสถานะเจ้ากระทรวง ส่วน สส.ของเราทุกคนไม่มีหน้าที่ปกป้องรัฐมนตรี แต่มีหน้าที่ร่วมพิจารณางบประมาณ" นายเอกนัฏ กล่าว

 

อย่างไรก็ตาม จากที่ดูรายละเอียดงบประมาณที่ให้มาแล้วจะพูดในที่ประชุมใหญ่ เพราะกำลังจะพิจารณาวาระ 1 ส่วนวาระ 2 สามารถไปปรับแก้ได้ ซึ่งภาพใหญ่ต้องปรับมายเซ็ทวิธีการใช้งบประมาณ เพราะงบส่วนหนึ่งเป็นงบลงทุน ที่จะนำไปใช้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ที่ต้องคุ้มค่ามากๆ จะไปมองเป็นเม็ดเงินเอาไปซื้อนู่นซื้อนี่ไม่ได้ แต่ต้องคิดว่าเอาเงินก้อนนี้ไปลงทุนควบคู่กับอะไร แล้วจะเป็นประโยชน์กับประเทศอย่างไร

อย่างไรก็ดี ยกตัวอย่างเช่น การใช้งบประมาณการลงทุน ต้องมีความต่อเนื่อง ส่วนคำว่าบูรณาการเป็นแค่ข้ออ้าง ในการที่จะทำอะไรแล้วแยกกัน มันต้องมีลักษณะการรวมศูนย์ที่จะทำโปรเจกต์ใหญ่ๆ แรงๆ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ต้องใช้อย่างสุจริต และทำควบคู่ปรับแก้กฎหมายให้ทันสมัยด้วย

นายเอกนัฏ กล่าวต่อว่า ข้อสังเกตเหล่านี้เป็นสิ่งที่ สส.ของพรรค จะได้อภิปรายในสภา ซึ่งพรรคได้เวลา 90 นาที โดยตนจะอภิปรายเป็นคนแรก และแบ่งให้ สส.คนอื่น ไปขยายความในแต่ละเรื่อง เช่น พัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การลงทุนกับโครงสร้างพื้นฐาน เทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อรองรับสิ่งที่เกิดขึ้นทั่วโลก 

 

"ผมมองว่า เราดำเนินการงบขาดดุลมา 20 ปี ถ้าทำแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ไม่ปรับวิธีคิด วิธีการใช้งบประมาณ จะเป็นภาระกับประเทศ เพราะตอนนี้หนี้สาธารณะขยับไปจนแถบจะติดเพดานแล้ว" นายเอกนัฏ กล่าว

 

"อนุสรณ์"แนะฝ่ายค้านอภิปรายงบตรงไปตรงมา 

ด้าน "นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด" สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขณะนี้สส.พรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมรัฐบาล พร้อมแล้วกับการประชุมสภาเพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณ 2567 ซึ่งความจริงการอภิปรายงบประมาณประจำปี ถือเป็นระเบียบวิธีปฏิบัติประจำ ทุกฝ่ายย่อมรู้หน้าที่ของตัวเองดีอยู่แล้ว ใครอภิปรายเกินเลยจากกรอบงบประมาณจนทำให้เกิดความล่าช้า ประชาชนจับตาดูอยู่ ฝ่ายการเมืองไม่ควรทำให้ประชาชนเสียโอกาส

อย่างไรก็ตาม ควรทำหน้าที่ของตนเองอย่างตรงไปตรงมา เชื่อมั่นว่ารัฐบาลสามารถชี้แจงได้ทุกเรื่อง ไม่จำเป็นต้องมีองครักษ์พิทักษ์นายกรัฐมนตรี หรือองครักษ์พิทักษ์รัฐมนตรีแต่อย่างใด

ส่วนการที่ "นายชัยธวัช ตุลาธน" สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ออกมายอมรับว่า ฝ่ายค้านไม่เป็นเอกภาพ 100 เปอร์เซ็น ก็ถือเป็นปัญหาของฝ่ายค้านที่ต้องปรับแก้กันไป ซึ่งไม่ควรทำให้กระทบกับการทำหน้าที่อภิปรายงบประมาณประจำปี

 

"งบประมาณประจำปี 2567 จะตอบโจทย์แก้ปัญหา หลังจากประเทศเผชิญกับวิกฤต ให้โอกาสประเทศชาติและประชาชนได้เดินหน้า ไม่คิดการเมืองจนทำให้ประชาชนเสียโอกาส ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างตรงไปตรงมา" นายอนุสรณ์ กล่าว

logoline