ปมร้อน "ทักษิณ" กลับไทย สู่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ จับตาหลังปีใหม่ กมธ.บุกเยี่ยม

หมุนเข็มนาฬิกา ย้อนกลับไปเมื่อเวลา 09.00 น. ของวันที่ 22 ส.ค.2566 นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางกลับไทยในรอบ 17 ปี ด้วยเครื่องบินเจ็ทส่วนตัว โดยมีรถยนต์ของทางเจ้าหน้าที่สนามบิน และตำรวจมารอรับ

ผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมง นายทักษิณได้เดินออกมาหน้าอาคารพร้อมครอบครัว ก่อนถวายความเคารพพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี จากนั้น เข้าไปทักทายมวลชนที่มารอ แล้วเดินกลับเข้าไปในอาคาร

ศาลพิพากษาสั่งจำคุก "ทักษิณ" รวม 8 ปี


ต่อมา เวลาประมาณ 10.40 น. ตำรวจได้นำตัวนายทักษิณส่งศาลฎีกา (สนามหลวง) แผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง เพื่อแสดงตนต่อศาล จากนั้น ศาลจึงแจ้งและอ่านคดีความให้รับทราบ ก่อนออกหมายจำคุก

สรุป 3 คดี ที่นายทักษิณจะได้รับโทษจำคุก ประกอบด้วย 

1. คดีสั่งการให้ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (Exim Bank) อนุมัติเงินกู้สินเชื่อ 4,000 ล้านบาท แก่รัฐบาลเมียนมา โทษจำคุก 3 ปี
2. คดีออกสลากหวยบนดิน โทษจำคุก 2 ปี
3. คดีแก้สัมปทานเอื้อประโยชน์ให้ชินคอร์ป โทษจำคุก 5 ปี 

โดยคดีการปล่อยกู้ของ Exim Bank  ให้นับโทษคดีหวยบนดิน ไปด้วย เหลือโทษจำคุก ในคดีที่ 1 และ คดีที่ 2 เพียง 3 ปี ส่วนคดีแก้สัมปทานเอื้อ "ชินคอร์ป" ให้นับต่อจาก 3 ปีใน 2 คดีแรก รวมแล้ว จำคุก 3 คดี เป็นระยะเวลา 8 ปี 

หลังฟังคำพิพากษา เจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ทันที

อดีตนายกฯ "ทักษิณ" จัดเป็นกลุ่มเปราะบาง มีโรคประจำตัวต้องเฝ้าระวัง 

เวลา 12.45 น. กรมราชทัณฑ์ แถลงรายละเอียดขั้นตอนรับตัวนายทักษิณ เข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ดำเนินการตามมาตรการรับตัวคนเข้าใหม่ โดยจัดทำทะเบียนประวัติ ตรวจสุขภาพจากแพทย์ของ รพ.ราชทัณฑ์ 

พบว่า นายทักษิณ เป็นกลุ่มเปราะบาง อายุเกิน 60 ปี และมีโรคประจำตัวที่ต้องเฝ้าระวังและรักษาอย่างต่อเนื่อง โดยเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ได้แยกคุมขังไว้ที่แดน 7 ซึ่งเป็นสถานพยาบาลของเรือนจำ เพื่อความปลอดภัย พร้อมจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวัง 24 ชั่วโมง

เวลา 00.30 น. วันที่ 23 ส.ค.2566 เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ นำตัวนายทักษิณส่ง รพ.ตำรวจ หลังมีอาการนอนไม่หลับ แน่นหน้าอก วัดความดันโลหิตสูง ระดับออกซิเจนปลายนิ้วต่ำ ตลอดจนพิจารณาจากรายงานประวัติการรักษาของผู้ป่วย โดยแพทย์จากโรงพยาบาลต่างประเทศ (สิงคโปร์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) พบมีโรคประจำตัวหลายโรคที่อยู่ระหว่างการรักษาติดตามอาการ 

เช่น 

• กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด 
• ความดันโลหิตสูง 
• พังผืดในปอด 
• กระดูกสันหลังเสื่อม 

ส่วนโรคที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ คือ โรคหัวใจ เนื่องจากทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ยังขาดเครื่องมือทางการแพทย์ จึงมีความเห็นว่า เพื่อป้องกันความเสี่ยงอันตรายที่อาจจะส่งผลต่อชีวิต เห็นควรส่งตัวไปโรงพยาบาลตำรวจที่มีความพร้อม มีเครื่องมือทางการแพทย์ที่มีศักยภาพสูงกว่า 

ต่อมา พล.ต.ท.โสภณรัชต์ สิงหจารุ นายแพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ เปิดเผยว่า นายทักษิณถูกนำตัวมาที่ รพ.ตำรวจ ด้วยรถราชทัณฑ์ เนื่องจากมีความดันโลหิตสูงถึง 170 มิลลิเมตรปรอท และนำตัวไปชั้นที่ 14 ทันที ซึ่งภายในห้องใช้งานเครื่องปรับอากาศไม่ได้ ต้องใช้พัดลม 2 ตัว ระบายอากาศแทน

โดยแพทย์ได้ทำการรักษาด้วยการให้น้ำเกลือ พร้อมระดมทีมแพทย์ ตั้งเป็นคณะรักษา รวม 6 คน มีหมอเชี่ยวชาญด้านหัวใจ ปอด และ โควิด-19 อยู่ในทีม

"อุ๊งอิ๊งค์" พร้อมครอบครัว เข้าเยี่ยม "ทักษิณ" 

28 ส.ค.2566 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย บุตรสาว ได้เข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่ชั้น 14 อาคารมหาภูมิพลราชานุสรณ์ รพ.ตำรวจ หลังมีการเปิดให้ญาติเข้าเยี่ยมได้

ในวันต่อมา น.ส.แพทองธาร เข้าเยี่ยมนายทักษิณอีกครั้ง ก่อนเปิดเผยภายหลังว่า นายทักษิณ ยังมีอาการอ่อนเพลีย ซึ่งเข้าใจว่า 17 ปีที่ผ่านมา ท่านไม่ได้อยู่เมืองไทย เมื่อกลับมาท่านก็มีอาการเครียด ซึ่งทางครอบครัวได้ทราบพร้อมกับสื่อว่านายทักษิณถูกย้ายตัวไปที่รพ.ตำรวจ 

น.ส.แพทองธาร บอกด้วยว่า นายทักษิณดีใจที่ได้เจอเธอและครอบครัว และใจท่านยังสู้มาก แต่ยอมรับว่า มีความเครียดและเหนื่อย เพราะมีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นมาก ไม่ต้องอายุถึง 74 ปี แต่ใครที่ต้องเจอความเปลี่ยนแปลง หรือเปลี่ยนที่อยู่ การเปลี่ยนแปลงทำให้กระทบความรู้สึกบ้าง พร้อมยืนยัน ไม่มีการย้ายไป รพ.เอกชน ตามที่มีกระแสข่าว  

พระราชทานพระมหากรุณาอภัยลดโทษ "ทักษิณ" เหลือจำคุก 1 ปี


31 ส.ค.2566 นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ให้สัมภาษณ์ ยอมรับว่า ได้รับหนังสือการขอพระราชทานอภัยโทษของนายทักษิณแล้ว 

1 ก.ย.2566 ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่พระราชหัตถเลขาพระราชทานอภัยลดโทษ ที่ 1/2566 พระราชทานพระมหากรุณาอภัยลดโทษให้ นักโทษเด็ดขาดชาย ทักษิณ ชินวัตร เหลือจำคุกต่อไป อีก 1 ปี ตามกำหนดโทษตามคำพิพากษา เพื่อจะได้ใช้ความรู้ความสามารถ ประสบการณ์ช่วยเหลือและทำคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติ สังคม และประชาชน สืบไป

ย้ำ "ทักษิณ" ยังจำเป็นต้องรักษาตัวอยู่ รพ.ตำรวจ 

20 ก.ย.2566 กรมราชทัณฑ์ ชี้แจง นายทักษิณ รักษาตัว รพ.ภายนอกครบ 30 วัน แต่การรักษายังไม่สิ้นสุด เพราะได้เข้ารับการผ่าตัดฯ และยังคงต้องรักษาตัวต่อ รพ.ตำรวจ

ต่อมา กรมราชทัณฑ์ ได้รับรายงานจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ว่า ขณะนี้ นายทักษิณ ชินวัตร รักษาตัวที่ รพ.ภายนอกครบ 60 วัน ในวันที่ 21 ต.ค. 2566 ซึ่งความเห็นจากแพทย์ รพ.ตำรวจ ผู้ทำการรักษา เห็นว่ายังมีความจำเป็นต้องรักษาตัวอยู่ ณ รพ.ตำรวจ

21 ธ.ค.2566 ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีการตั้งกระทู้สดเพื่อสอบถาม นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ถึงเกณฑ์การพิจารณาให้สิทธิการรักษาพยาบาลของ อดีตนายกฯ ทักษิณ เพื่อไม่ให้สังคมเกิดความเคลือบแคลงในกระบวนการยุติธรรม หลังรักษาตัวใน รพ.ตำรวจครบ 120 วัน โดยนายกฯ ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เป็นผู้ตอบกระทู้ดังกล่าวแทน 

พ.ต.อ.ทวี ชี้แจงว่า หากนายทักษิณ ต้องพักรักษาเกิน 120 วัน จะต้องมีหนังสือความเห็นของอธิบดีกรมราชทัณฑ์ พร้อมความเห็นแพทย์ผู้รักษา และหลักฐานที่เกี่ยวข้อง รายงานให้รัฐมนตรีทราบ ซึ่งครบ 120 วันแล้ว ตนจึงได้ติดตามจากอธิบดีกรมราชทัณฑ์ แล้วจะได้รับเร็วๆ นี้

ขณะที่ เจ้าหน้าที่เรือนจำ ย้ำว่า นายทักษิณ เป็นหลายโรค ทั้งกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ความดันโลหิตสูง ตามความเห็นของแพทย์ รพ.ราชทัณฑ์ ที่เคยปรากฏ แต่ผลการรักษาที่แท้จริง ไม่สามารถเปิดเผยได้ตามกฎหมายทางการแพทย์

กมธ.ตร. วางคิว 12 ม.ค.2567 ดูงาน รพ.ตำรวจ

วันเดียวกัน นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยภายหลังเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบกรณีพิจารณาอนุมัติให้นายทักษิณ ไปรักษาอาการป่วยที่ รพ.ตำรวจ เพื่อขอความกระจ่างในการวินิจฉัยว่า นายทักษิณ มีอาการป่วยเป็นอย่างไร 

ซึ่งได้รับแจ้งว่า นายทักษิณป่วยเป็นไวรัสตับอักเสบบี และเป็นโรคปอด เมื่อครั้งตอนติดเชื้อโควิด จึงให้ไปรักษาตัวที่ รพ.ตำรวจ

นอกจากนี้ กมธ.มีมติว่า จะเดินทางไปศึกษาดูงานที่ รพ.ตำรวจ ในวันที่ 12 ม.ค.2567 ส่วนระเบียบที่ทางกรมราชทัณฑ์ ตอบไม่ได้ นายชัยชนะ บอกว่าได้ให้ส่งเอกสารตามมาย้อนหลัง เมื่อได้เอกสารทั้งหมดจะได้รับความกระจ่าง

ที่สำคัญ คือ กมธ.ตร. และ นายวัชระ เพชรทอง ในฐานะผู้ร้อง ได้ขอระเบียบและกฎกระทรวงที่ประกาศใช้ 120 วัน ในการคุมขังนอกเรือนจำมีขั้นตอนอย่างไร และมีการพิจารณาหลักเกณฑ์อย่างไร และนักโทษใดบ้างที่เข้าข่ายการการพิจารณาอนุญาต

"ในการศึกษาดูงานวันที่ 12 ม.ค.นี้ จะเป็นการดูงานการรักษาตัวของผู้ป่วย , การปฎิบัติต่อผู้ป่วยที่เป็นผู้ต้องขังที่เข้ารักษาตัวที่ทางโรงพยาบาลตำรวจ ว่า มีการพักรักษาตัวที่ห้องใดบ้าง มีขั้นตอนและมาตรฐานในการควบคุมผู้ต้องขังในโรงพยาบาลตำรวจเป็นอย่างไร ซึ่งจะไปดูทุกชั้น เนื่องจากไปศึกษาดูงาน โดยให้เป็นสิทธิ์โรงพยาบาลตำรวจว่า จะให้กมธ.ตร. ศึกษาดูงานได้มากน้อยแค่ไหน เพื่อคลายข้อสงสัยของประชาชน" - ประธาน กมธ.ตร. ระบุ

นายชัยชนะ กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ดี หาก รพ.ตำรวจไม่อนุญาต ก็จะต้องตอบประชาชนให้ได้ว่า ไม่อนุญาตเพราะอะไร

"สมศักดิ์" เตือน ใครเปิดเผยข้อมูลนักโทษป่วย โดยไม่ได้รับอนุญาตอาจถูกฟ้อง


22 ธ.ค.2566 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายทักษิณ ไม่ใช่ต้องรักษาตัวอยู่นอกเรือนจำไปตลอด แต่ขึ้นอยู่กับคำวินิจฉัยของแพทย์ และสิทธิของผู้ต้องขัง

ซึ่งทุกคนที่ออกไปรักษาตัวนอกเรือนจำ ไม่ได้หมายความว่า ใครจะมีสิทธิเข้าเยี่ยมได้ทุกคน พร้อมยืนยัน ไม่ใช่การปิดกั้น หรือปกปิดข้อมูล แต่เป็นไปตามระเบียบ โดยการเข้าเยี่ยมขึ้นอยู่กับผู้ต้องขังด้วยว่า จะอนุญาตให้ใครเข้าเยี่ยมได้

เช่น ทนายความ ญาติ หรือคนสนิท ซึ่งหากผู้ต้องขังไม่อนุญาต ก็ไม่สามารถเข้าเยี่ยมได้ ไม่ใช่ว่าใครจะเข้าไปสอบถามว่า เจ็บป่วยเป็นโรคอะไรได้ หรือหากกรณีที่กรรมาธิการการตำรวจ ของสภาผู้แทนราษฎร จะขึ้นไปดูที่ชั้น 14 ของโรงพยาบาลตำรวจ จะต้องขออนุญาตก่อน ถ้าทำโดยพลการอาจถูกฟ้องได้

"ถ้าเขาไม่อนุญาตก็ไม่ได้ เป็นเอกสิทธิของผู้ป่วย แล้วหากไปถามเขาว่า เจ็บป่วยอะไร เขาไม่เปิดเผย ถ้าเปิดเผยก็จะถูกฟ้องร้อง ซึ่งหมายถึงทุกคนไม่ใช่เฉพาะรายใดรายหนึ่ง ไม่ใช่สิทธิของแพทย์ที่จะเปิดเผย" - นายสมศักดิ์ กล่าวทิ้งท้าย

คงต้องมาจับตาดูกันต่อว่า 12 ม.ค.นี้ กมธ.ตร. จะได้ไปหาข้อเท็จจริงชั้น 14 รพ.ตำรวจ ตามที่วางคิวไว้หรือไม่ สุดท้ายแล้ว "คำตอบ" ของเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์



ขอบคุณข้อมูล
workpointtoday
pptvhd36