26 ธันวาคม 2566 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ห่วงใยสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ โดยเฉพาะจังหวัดนราธิวาส ที่ได้รับรายงานว่า ประสบความเดือดร้อนมากที่สุด โดยในวันนี้ (26 ธ.ค.) หลังจบประชุมคณะรัฐมนตรี เวลา 14.00 น. จะเดินทางไปยังจังหวัดนราธิวาส เพื่อตรวจดูสถานการณ์อุทกภัยและแนวโน้มของสถานการณ์ ความพร้อมในการรับมือของหน่วยงาน แนวทางการบริหารจัดการน้ำ เช่น การระบายน้ำ รวมทั้งหารือปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ เพื่อที่จะแก้ไขและช่วยเหลือได้ตรงและทันสถานการณ์
จากนั้นเวลาประมาณ 18:00 น. นายกรัฐมนตรี มีกำหนดการเดินทางต่อไปยังจังหวัดภูเก็ต เพื่อให้การต้อนรับนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีของมาเลเซีย ซึ่งเดินทางมาเป็นการส่วนตัวและจะมีการหารือวงเล็ก โดยมีนายฉัตรชัย บางชวด รองเลขาธิการ สภาความมั่นคงแห่งชาติ( สมช.) ในฐานะหัวหน้าทีมพูดคุยสันติสุขชายแดนใต้ ร่วมพูดคุยด้วยในประเด็นการตั้งคณะกรรมการชายแดนไทย-มาเลเซีย 4 ด้าน ประกอบด้วย การค้าชายแดน การเกษตร การท่องเที่ยว และความมั่นคง รวมถึง การสร้างสะพานข้ามแม่น้ำสุไหงโก-ลก เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว นอกจากนี้จะมีการพูดคุยถึงสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนภาคใต้
สำหรับการลงพื้นที่ในครั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ไม่ต้องการเพิ่มภาระแก่หน่วยงานและเจ้าหน้าที่ในการต้อนรับใดๆ โดยให้กำลังทั้งหมดมุ่งไปที่การช่วยเหลือประชาชนและแก้ไขสถานการณ์
ขณะที่ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลเร่งให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย 13 อำเภอ ใน จ.นราธิวาส วันนี้หลังประชุม ครม. นายกรัฐมนตรี มีกำหนดบินไปติดตามสถานการณ์ แก้ไขปัญหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัย ขณะที่ตนติดภารกิจ แต่จะเดินทางตามไปวันพรุ่งนี้(27 ธ.ค.) ซึ่งการทำงานมีหน่วยงานหลายภาคส่วนเร่งให้ความช่วยเหลือ อีกทั้งยังมี คณะกรรมการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ที่คอยติดตามสถานการณ์
ด้าน นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมในภาคใต้ว่า หลังได้รับรับรายงานจากกองทัพภาคที่ 4 ได้สั่งการให้ทุกเหล่าทัพเร่งช่วยประชาชนให้เต็มที่ เพราะเป็นนโยบายรัฐบาลที่มอบให้ก่อนหน้านี้ ถ้ามีปัญหาอะไรกองทัพต้องช่วยประชาชน ซึ่งทราบว่าทางกองทัพภาคที่ 4 รวมถึงกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ได้ไปช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่แล้ว ถ้ามีความจำเป็นหากต้องใช้กองทัพอากาศ หรือกองทัพเรือ ก็จะเข้าไปช่วยเหลือเพิ่มเติม
พร้อมฝากถึงประชาชน หากมีความเดือดร้อนอะไรขอให้แจ้งมายังกองทัพ เพราะกองทัพอาจจะยังไม่ทราบปัญหาและความต้องการ หากอยากให้การช่วยเหลือเป็นไปด้วยดี ประชาชนต้องไปแจ้งกับกองทัพ ยืนยัน กองทัพมีความพร้อมในทุกด้าน ทั้งกำลังพลในการขนย้ายสิ่งของ รวมถึงเครื่องมือ เช่น เรือ รถ ซึ่งต้องระดมกำลังไปช่วยเหลือให้เต็มกำลัง
นายสุทิน กล่าวต่อ เบื้องต้นการช่วยเหลือนั้นเป็นไปด้วยดี แต่ยังมีปัญหาอุปสรรคอยู่บ้าง ทั้งเรื่องไฟฟ้า การสัญจร การคมนาคม รวมถึงโรคภัยที่จะซ้ำเติม ดังนั้นต้องเฝ้าระวัง และดูแลให้ทั่วถึง จะต้องเตรียมการฟื้นฟูหลังน้ำลด ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ โดยกองทัพจะทุ่มเทช่วยเหลือฟื้นฟู หลังรับความเสียหายอย่างหนัก
นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) แสดงความเป็นห่วงผู้ประสบภัยน้ำท่วม จ.นราธิวาส โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มเปราะบาง ทั้งเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และคนพิการ และได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ พม. จ.นราธิวาส ช่วยเหลือผู้ประสบภัยร่วมกับหน่วยงานภาครัฐอื่นๆ ในแต่ละพื้นที่
ทั้งนี้ เป็นห่วงกลุ่มคนพิการ และผู้สูงอายุ ที่ผ่านมาได้จัดเตรียมสถานที่ คือ บ้านผู้สูงอายุหรือบ้านพักคนชรา ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อรองรับผู้ประสบภัยเป็นที่พักพิงชั่วคราว อีกทั้งยังได้ขอให้ทุกหน่วยงานเตรียมพร้อมเร่งช่วยเหลือหลังน้ำลด สิ่งแรกที่จะต้องทำคือ การเยียวยา และเร่งซ่อมแซมบ้านเรือนผู้ประสบภัยที่ได้ความเสียหาย
โดย พม. มีงบประมาณซ่อมแซมบ้านเรือนให้ประชาชนผู้ประสบภัย ในส่วนของกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ และสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน ส่วนเรื่องสภาพจิตใจ ก็ได้กำชับให้สหวิชาชีพ ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยเช่นกัน เพราะตอนนี้ผู้ประสบภัยหลายหลังคาเรือนน้ำท่วมเกือบมิด และขณะนี้พบว่าน้ำเริ่มหลากเข้าจังหวัดปัตตานีแล้ว ซึ่งคาดว่าอีกหลายพื้นที่ของจังหวัดปัตตานี จะได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน โดยจะมีมาตรการช่วยเหลือเช่นเดียวกัน หากพบว่าได้รับความเดือดร้อนขอให้ติดต่อสายด่วน พม.1300 และศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน ที่มีความพร้อมให้บริการประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง
นายกฯ ลงพื้นที่เยี่ยมน้ำท่วม จ.นราธิวาส
ต่อมา เวลา 15.40 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เดินทางถึงท่าอากาศยานนราธิวาส โดยมีนายเกรียง กัลป์ตินันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย , ว่าที่ร้อยตรีตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส พร้อมหน่วยงานราชการในพื้นที่ รอต้อนรับ โดยเมื่อนายกรัฐมนตรี ได้ทักทายและถ่ายรูปกับประชาชนที่มารอขึ้นเครื่องภายในสนามบิน
จุดแรก นายกรัฐมนตรี เดินทางมายัง ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ตั้งอยู่ภายในที่ว่าการอำเภอระแงะ เพื่อเยี่ยมเยียนและให้กำลังใจผู้ประสบอุทกภัย ซึ่งภายในศูนย์พักพิงแห่งนี้ ทั้งผู้สูงอายุและเด็กเข้าพักพิงกว่า 200 คน
นายเศรษฐา กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์น้ำในพื้นที่เริ่มลดลง ซึ่งวันนี้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจากกระทรวงมหาดไทยได้ลงมาดูแล ตนเข้าใจว่าน้ำมาเร็ว มาแรง และมาเยอะกว่าปกติ แต่การระบายก็เป็นไปได้ด้วยดี ขณะที่รัฐบาลเองต้องพยายามทำงานให้ดีขึ้นในแง่ของการเตือนภัย เนื่องจากปัญหานี้เกิดขึ้นอยู่บ่อยๆ พร้อมกับกำชับเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องขอให้ดูแลประชาชนที่เดือดร้อนให้ดี
จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้มอบสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ ก่อนที่จะเดินไปทักทายให้กำลังใจกับผู้สูงอายุและผู้ประสบภัย พร้อมพูดคุยกับทีมแพทย์ที่มาตั้งหน่วยบริการสาธารณสุข
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังมอบยาอาหารสัตว์พระราชทาน ที่ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แก่ตัวแทนเกษตรกรในพื้นที่ และได้เยี่ยมโรงครัวของกองทัพบกที่มาตั้งรถให้บริการอาหารกับผู้ประสบภัย
จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้ลงพื้นที่ชุมชนเขตเทศบาลตันหยงมัส อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ซึ่งอยู่ใกล้กับคลองตันหยงมัส และเป็นพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมบ้านเรือนของประชาชน โดยนายกรัฐมนตรี ได้สวมรองเท้าบูทเดินลุยน้ำ เพื่อไปพูดคุยกับประชาชนที่ประสบอุทกภัย
นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการลงพื้นที่ว่า หากย้อนไป 36 ชั่วโมงก่อนหน้านี้ สถานการณ์เลวร้ายกว่านี้ ซึ่งบริเวณที่สูงและที่ต่ำมีความแตกต่างกัน การไหลของน้ำลงสู่ทะเลที่รับน้ำเป็นไปด้วยดี และสถานการณ์ขณะนี้คลี่คลาย แต่น้ำมีการสะสมบริเวณปลายน้ำ ซึ่งนายเกรียง จะอยู่ดูแลภาพรวมทั้งหมด เนื่องจากขณะนี้น้ำมาเร็ว ซึ่งตามพยากรณ์อากาศถือว่าโชคดีเนื่องจากจะไม่มีฝนแล้วแต่ก็ไว้ใจไม่ได้ จึงต้องระมัดระวังให้ดี ซึ่งต่อไปจะต้องดูเรื่องระบบเตือนภัยให้ครบวงจร ทำงานเชิงรุกมากขึ้นในการเตือนภัย
เมื่อถามว่า น้ำท่วมครั้งนี้ถือเป็นน้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ถือว่าเยอะที่สุด ซึ่งหากจะโยงการบริหารจัดการในพื้นที่ 3 จังหวัด ในเรื่องของความสงบดีขึ้นแล้ว การค้าขายชายแดนระหว่างเรากับมาเลเซียก็ดีขึ้นแล้ว ซึ่งเหตุการณ์นี้ก็เป็นเหตุการณ์ที่ไม่อยากให้เกิดขึ้น ซึ่งทุกหน่วยงานพร้อมจัดการแต่ กระทรวงมหาดไทยและสาธารณสุขจะต้องระวังเรื่องโรคระบาดทั้งหลาย
เมื่อถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะมีโครงการแก้ไขปัญหาในระยะยาว เนื่องจากในพื้นที่ อุทกภัยอย่างต่อเนื่อง นายกฯ กล่าวว่า จะต้องดูองค์รวมทั้งหมดว่า สามารถแก้ไขได้แค่ไหน และมีโครงการขนาดใหญ่หรือไม่ แน่นอนว่าเรายังไม่อยากให้เกิดปัญหาซ้ำอีกซ้ำแล้วซ้ำซาก และเกิดการสูญเสียชีวิตเกิดขึ้น จึงต้องฝากพี่น้องประชาชน หากมีการเตือนภัยขอให้เชื่อกันหน่อย
"ต้องระวังต่อไป เพราะตอนนี้ยังไม่ใช่ช่วงเวลาที่ปลอดภัยนัก ขอให้ ระมัดระวังให้ดีฟังการเตือนภัยให้ดี ระหว่างนี้กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงสาธารณสุขจะพยายามช่วยดูแลและเยียวยา ขอขอบคุณหน่วยงานรัฐทุกหน่วยงาน ที่ช่วยสละเวลามา และกองทัพเองก็มาทำครัวเคลื่อนที่ ช่วยบรรเทาไปได้มาก" นายกฯ กล่าว
นายกรัฐมนตรี ยังได้กล่าวกับผู้ว่าฯ นราธิวาส ว่า ตนก็ไม่อยากที่จะมาในเหตุการณ์แบบนี้ อยากจะมาดูแลด้านการค้า เพราะสิ่งต่างๆ กำลังเป็นไปได้ด้วยดีทั้งเรื่องความสงบก็ดีขึ้น ด้านความมั่นคงก็มีการเจรจากับมาเลเซียได้ดีขึ้น พอเราเปิดการค้าชายแดนดีขึ้น ตนก็อยากมาทำกิจกรรมและจัดเทศกาลในพื้นที่ให้มากขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเดินทางลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาส นายกรัฐมนตรี ได้นั่งรถ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ หมายเลขทะเบียน xx 4544 นราธิวาส