"กองทัพเรือ" โต้ข่าว "เรือประมงเวียดนาม" ยึดอ่าวไทย ชี้ข่าวคลาดเคลื่อน

15 พฤศจิกายน 2566 พล.ร.ต.วีรุดม ม่วงจีน โฆษกกองทัพเรือ ชี้แจงถึงกระแสข่าว เรือประมงเวียดนาม เข้ามาลักลอบทำการประมงบริเวณหน้าอ่าวนครศรีธรรมราชเป็นจำนวนมาก โดยไม่มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของไทยเข้าไปตรวจสอบ หรือเฝ้าระวังตามแนวน่านน้ำว่า ข่าวคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง ที่ผ่านมา “กองทัพเรือ” โดยทัพเรือภาคที่ 2 ร่วมกับศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล หรือ ศรชล. ภาค 2

ได้จัดเรือและอากาศยาน ออกลาดตระเวนที่รับผิดชอบอย่างต่อเนื่อง พร้อมเฝ้าสังเกตการณ์และติดตามพฤติกรรมของกลุ่มเรือประมง ที่ลักลอบเข้ามาทำการประมงในเขตเศรษฐกิจจำเพาะของไทยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากมีการตรวจพบ จะจับกุมตามอำนาจหน้าที่ โดยได้บูรณาการความร่วมมือระหว่าง ทัพเรือภาคที่ 2, ศรชล. และเครือข่ายเรือประมงไทย ในการแจ้งข้อมูลข่าวสารและเบาะแสต่างๆ

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2566 ทัพเรือภาคที่ 2 ได้รับแจ้งว่า มีการตรวจพบเรือประมงเวียดนามในพื้นที่รับผิดชอบ จึงจัดส่งเรือหลวงคลองใหญ่ เข้าตรวจสอบ แต่ไม่พบว่ามีเรือประมงต่างชาติเข้ามาทำการประมงในพื้นที่ ที่ผ่านมาจะได้รับแจ้งว่า ตรวจพบเรือประมงต่างชาติเข้ามาทำประมงในเขตเศรษฐกิจจำเพาะของไทย 1-2 ลำเท่านั้น ไม่ได้มีจำนวนเป็นร้อยลำดังที่เป็นข่าว และปัจจุบันได้มีการจัดเรือหลวงเทพา และเรือ ต.112 เฝ้าลาดตระเวนอยู่ในพื้นที่บริเวณเกาะกระ จังหวัดนครศรีธรรมราช และเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี

สำหรับการจับกุมเรือประมงต่างชาติ ที่มีพฤติกรรมเข้ามาทำประมงบริเวณเขตเศรษฐกิจจำเพาะของประเทศไทย ที่ โดยในปีงบประมาณ 2566 ทัพเรือภาคที่ 2 ได้จัดเรือและอากาศยานเฝ้าตรวจ สามารถจับกุมเรือประมงเวียดนาม 3 ครั้ง ประกอบด้วย เรือประมง 3 ลำ และลูกเรือ 15 คน ซึ่งฝ่ายไทยได้มีการแจ้งเตือนเรือประมงต่างชาติ ไม่ให้รุกล้ำเข้ามาทำการประมงในเขตน่านน้ำของไทย แต่ก็ยังคงมีการฝ่าฝืน และลักลอบเข้ามาทำการประมงอยู่บ่อยครั้ง โดยการจับกุมแต่ละครั้ง เจ้าหน้าที่ไม่ได้มีการใช้ความรุนแรงแต่อย่างใด และเป็นการดำเนินการเพื่อปกป้องและรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ซึ่งเป็นหนึ่งในภารกิจที่สำคัญของกองทัพเรือ