วันที่ 29 ตุลาคม 2566 เวลา 12.00 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เดินทางลงพื้นที่ตรวจราชการ ที่ จ.อุดรธานี พร้อมร่วมพิธีเปิดงานประเพณีออกพรรษาและบั้งไฟพญานาคโลก ประจำปี 2566 รวมถึงร่วมชมปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาค ที่ จ.หนองคาย
โดยมี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ข้าราชการการในพื้นที่ มารอต้อนรับ ที่ท่าอากาศยานทหารกองบิน 23 อ.เมืองอุดรธานี จ.อุดรธานี มีข้าราชการการในพื้นที่มารอต้อนรับ สำหรับการลงพื้นที่ของ นายกรัฐมนตรี ใช้รถยนต์อัลพาร์ด สีดำ หมายเลขทะเบียน กล 5558 อุดรธานี ในการลงพื้นที่
โดยจุดแรก นายกฯ พร้อมคณะ ได้ไปตรวจเยี่ยมติดตามความคืบหน้าโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยปากแบ่ง พร้อมระบบส่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยปากแบ่งพร้อมระบบส่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในพื้นที่ ต.หมากหญ้า อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลได้เข้ามาบริหารจัดการเรื่องเศรษฐกิจ ปากท้องความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนในช่วงยังไม่ถึง 2 เดือนที่ผ่านมา ทุกคนคงเห็นว่านายกฯ ได้เดินทางไปต่างประเทศ ไปดูโครงการใหญ่ ๆ รถไฟความเร็วสูง แลนด์บริดจ์ เรื่องที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมของประเทศ มามากมาย เรื่องนี้เป็นที่ทราบกันดีว่ารัฐบาลให้ความสำคัญ
แต่ก็ไม่อยากให้ทุกคนเข้าใจผิดคิดว่ารัฐบาลนี้มัวแต่ดูแลเรื่องการลงทุน เรื่องไฮเทค เรื่องอุตสาหกรรมใหญ่ พี่น้องประชาชนหลายสิบล้านคนต้องพึ่งภาคเกษตรกรรม เรื่องไม่ท่วมไม่แล้ง ล้วนเป็นเรื่องที่รัฐบาลนี้ให้ความสำคัญสูงสุด การที่รัฐบาลลงพื้นที่มาวันนี้ น่าจะเป็นที่ประจักษ์ดีว่าเราให้ความสำคัญเรื่องนี้ โครงการพระราชดำริ ซึ่งบริหารจัดการเรื่องไม่ท่วมไม่แล้ง
โดยถือว่าเป็นโครงการที่รัฐบาลนี้ให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่อง ปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาในแต่ละปี เราสามารถเก็บกักได้แค่ 1 ใน 3 ที่เหลือถูกปล่อยลงไปหมด ตรงนี้ถือว่าเรายังสามารถปรับปรุงได้ โครงการเก็บกักน้ำที่นี่และอีกหลาย ๆ ที่ถือว่าเป็นโครงการที่รัฐบาลให้ความสำคัญ และอยากให้เกิดขึ้นเร็ว ๆ โดยไม่มีการล่าช้า ถ้าเราทำให้ไม่ท่วมไม่แล้ง ประกอบกับนโยบายรัฐบาลนี้ เปิดตลาดให้กับเกษตรกรไทย ตนเชื่อว่ารายได้ของเกษตรกรไทยจะเพิ่มขึ้นไปอีกหลายเท่าตัวภายในเวลา 4 ปีข้างหน้า
สำหรับโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยปากแบ่ง พร้อมระบบส่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตามที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีได้พระราชทานอ่างเก็บน้ำห้วยปากแบ่ง เพื่อช่วยเหลือราษฎรซึ่งขาดแคลนน้ำ เพื่อการอุปโภค บริโภค และการเกษตรให้แก่ประชาชนในพื้นที่
และทรงรับโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยปากแบ่งพร้อมระบบส่งน้ำ ไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งพื้นที่รับประโยชน์ 1,600 ไร่ สำรองน้ำอุปโภค-บริโภค 798 ครัวเรือน คิดเป็นประชากร 3,740 คน บรรเทาปัญหาอุทกภัย โดยตัดยอดน้ำได้ 1,594,000 ลูกบาศก์เมตร หรือประมาณ 600 ไร่ โครงการดังกล่าวก่อสร้างตั้งแต่ปี 2565 - 2568 จากผลการดำเนินงาน ณ ปัจจุบันคิดเป็นร้อยละ 24 ซึ่งเป็นไปตามแผนที่วางไว้
จากนั้น นายกฯ จะไปประชุมติดตามประเด็นปัญหาการส่งออก ขั้นตอนพิธีการศุลกากร การค้าชายแดนและการพัฒนา One Stop Service ระหว่างราชอาณาจักรไทย กับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป. ลาว) และสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่สำนักงานศุลกากรหนองคาย อ.เมืองหนองคาย จ.หนองคาย
และในช่วงเย็น 17.00 น. นายกฯ ไปเป็นประธานพิธีเปิดงานประเพณีออกพรรษาและบั้งไฟพญานาคโลก ประจำปี 2566 (Naga Fire Miracle of Faith) ที่ลานนาคาเบิกฟ้า และเป็นประธานพิธีเจริญพระพุทธมนต์ เนื่องในงานประเพณีออกพรรษา ต.จุมพล อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย
ก่อนไปร่วมชมปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาค บริเวณพุทธอุทยานนานาชาติ (ปทุมรัตน์ธรรมเจดีย์) ต.กุดบง อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย
ขณะที่ ในวันพรุ่งนี้ 30 ต.ค. นายกฯ จะเดินทางไปเยือนสปป.ลาว อย่างเป็นทางการ ตามคำเชิญของ นายสอนไซ สีพันดอน นายกรัฐมนตรี สปป. ลาว เพื่อสานต่อการเสริมสร้างความสัมพันธ์และความร่วมมือของสองประเทศ และร่วมพิธีเปิดสถานีรถไฟเวียงจันทน์ (คําสะหวาด)
ซึ่งเป็นโครงการภายใต้ความร่วมมือระหว่างรัฐบาลสองประเทศ รวมถึงพบกับนายทองลุน สีสุลิด ประธานประเทศ สปป. ลาว และเลขาธิการใหญ่คณะบริหารงานศูนย์กลางพรรคประชาชนปฏิวัติลาว กับนายไซสมพอน พมวิหาน ประธานสภาแห่งชาติ สปป.ลาว ด้วย ก่อนเดินทางกับประเทศไทย