svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

อิสราเอล vs ฮามาส! อาจนำไปสู่วิกฤตการเมืองในเวทีโลก

12 ตุลาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ผลพวงจากการเปิดการโจมตีอิสราเอลของกลุ่มฮามาสในวันที่ 7 ตุลาคม ที่ผ่านมานั้น ทำให้คาดการณ์ได้ว่า เหตุการณ์ครั้งนี้มีแนวโน้มที่จะขยายตัวไปสู่ความขัดแย้งใหญ่

โดยเราอาจเทียบเคียงได้กับการโจมตีสหรัฐอเมริกาในวันที่ 11 กันยายน 2001 อันนำไปสู่การเสียชีวิตของผู้คนเป็นจำนวนมาก และการเป็นการโจมตีในแบบที่ “ไม่คาดคิด” คือมีลักษณะเป็น “surprise attack” ซึ่งในทั้งสองกรณีนี้ เห็นได้ชัดว่า รัฐเป้าหมาย (สหรัฐและอิสราเอล) ไม่ทันเตรียมรับมือกับการโจมตีที่เกิดขึ้นได้แต่อย่างใด

หากย้อนกลับไปเมื่อ 22 ปีที่แล้วจากเหตุการณ์ 9/11 จะเห็นได้ว่า หลังจากการโจมตีเกิดขึ้นแล้ว ผลที่ตามมาคือ “สงครามใหญ่” ชุดหนึ่งในเวทีโลกในรูปของ “สงครามต่อต้านการก่อการร้าย” และส่งผลสืบเนื่องกับการเมืองทั้งในระดับโลกและระดับภูมิภาคอย่างมาก โดยเฉพาะกับปัญหา “สงครามก่อการร้าย” ที่ขยายตัวไปสู่พื้นที่ต่างๆ ของโลกด้วย

  • ผลกระทบของสงครามในเชิงมหภาค

ผลจากการโจมตีของฮามาส และการขยายตัวของความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ทำให้เราอาจคาดคะเนถึงแนวโน้มของสถานการณ์ในอนาคตได้บ้าง อย่างไรก็ตาม ข้อสังเกตที่จะตั้งเป็นประเด็นนั้น อาจกล่าวเป็นสังเขปได้ดังต่อไปนี้

     1) ยังไม่ชัดเจนว่าการก่อเหตุร้ายของฮามาสครั้งนี้ จะทำให้ปัญหาถูกยกระดับขึ้นกลายเป็น “สงครามใหญ่ในตะวันออกกลางครั้งใหม่” หรือจะถูกควบคุมปัญหาให้เป็นเพียง “สงครามจำกัดอิสราเอล-ฮามาส” และจำกัดพื้นที่อย่างสำคัญอยู่กับฉนวนกาซาเป็นส่วนหลัก

     2) ปัญหาความขัดแย้งชุดนี้ เป็นปัญหายืดเยื้อในตัวเอง เพราะด้านหนึ่งความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส มีมานาน และอิสราเอลกับชาวปาเลสไตน์ก็มีปัญหาในกาซากันมานานเช่นกัน ปัญหาครั้งนี้จึงน่าจะทอดยาวออกไป และส่งผลกระทบในระยะยาวต่อภูมิภาคตะวันออกกลาง

     3) ความขัดแย้งครั้งนี้ ทำให้การเมืองโลกต้องให้ความสนใจกับปัญหาชาวปาเลสไตน์ในกาซามากขึ้น โดยเฉพาะความสูญเสียของประชาชน ที่ต้องอยู่ในพื้นที่เป้าหมายการโจมตีของอิสราเอล

     4) ปัญหาความรุนแรงและ/หรือสงครามในตะวันออกกลาง จะทำให้เกิดการทับซ้อนของความรุนแรง 2 ชุด คือ ปัญหาสงครามยูเครน กับปัญหาสงครามกับฮามาสในกาซา ซึ่งจะส่งผลกับการเมืองโลกในปีหน้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

     5) ไม่ว่าความรุนแรงจะขยับตัวเป็นสงครามหรือไม่ก็ตาม ผลที่ตามมาเช่นที่เกิดขึ้นในทุกครั้งในตะวันออกกลางก็คือ ปัญหาราคาพลังงาน ซึ่งอาจขยายตัวเป็น “วิกฤตพลังงาน” ได้ด้วย

     6) ความรุนแรงที่คาดเดาไม่ได้เช่นนี้ ย่อมส่งผลกระทบภาวะเศรษฐกิจโลกอย่างแน่นอน ดังจะเห็นถึงความผันผวนของราคาทองคำ และตลาดหุ้น

     7) ปัญหาที่เกิดขึ้น ทำให้ต้องจับตามมองบทบาทของอิหร่าน โดยเฉพาะการเป็นผู้สนับสนุนหลัก ของการต่อต้านตะวันตกและอิสราเอล และความขัดแย้งจะขยายตัว จนอิหร่านต้องเข้าร่วมอย่างเปิดเผยหรือไม่

     8) การต่อสู้ของฮามาส จะทำให้อิสราเอลใช้กำลังทหารเข้าปราบปรามมากขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่กาซา และอาจนำไปสู่การก่อการร้ายระลอกใหม่ในอนาคต ดังเช่นที่เห็นจากปฏิบัติการทางทหารครั้งนี้

     9) ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับฮามาสและชาวปาเลสไตน์ มีโอกาสขยายตัวได้จากปฏิบัติการทหารของทั้ง 2 ฝ่าย และอาจนำพาชาติอาหรับอื่นๆ เข้าสู่การต่อสู้ ซึ่งหากปัญหาขยายตัวมากขึ้นแล้ว จะเป็นปัจจัยที่พารัฐมหาอำนาจอื่นๆ เข้าสู่การต่อสู้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐฯ รัสเซีย จีน และสหภาพยุโรป กล่าวคือ ภูมิภาคตะวันออกกลางจะยังคงเป็นพื้นที่สำคัญทางภูมิรัฐศาสตร์

     10) ปัญหาที่เกิดขึ้น ทำให้ความหวังที่จะขยายความสัมพันธ์ ระหว่างรัฐอาหรับกับอิสราเอล เป็นไปได้ยากขึ้น จนอาจเป็นการหยุดยั้ง “การเจรจาอับราฮัม” (The Abraham Accords) ที่เริ่มในปี 2020 และปีนี้เป็นความหวังว่าซาอุดีอาระเบียจะเข้าร่วมด้วยนั้น อาจต้องยุติลง

  • ปัญหาและความท้าทายในอนาคต

     11) ปัญหาที่เกิดขึ้น จะยิ่งทำให้ทัศนะของคู่ขัดแย้ง ระหว่างชาวยิวกับชาวปาเลสไตน์ จะยิ่งมีเพิ่มมากขึ้น และจะทำให้การประสานรอยร้าวในอนาคต เป็นไปได้ยากมากขึ้น อันเป็นผลจากการสูญเสียขนาดใหญ่ของทั้งสองฝ่าย อันจะทำให้ความบาดหมางของประชาชนสองฝ่ายมีมากขึ้น

     12) ปัญหาเฉพาะหน้าที่สำคัญคือ นอกจากการตอบโต้ด้วยการโจมตีทางอากาศอย่างหนักหน่วง ต่อเป้าหมายในกาซาแล้ว การรุกภาคพื้นดินของอิสราเอลที่ตามมา จะทำให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวปาเลสไตน์อย่างมาก อันอาจเป็นปัจจัยที่จะทำให้สงคราม กลายเป็นสิ่งที่ควบคุมได้ยากขึ้นในอนาคตหรือไม่ และปัญหาที่ท้าทายอีกประการคือ รัฐบาลอิสราเอลจะดำเนินการอย่างไร เพื่อแก้ไขปัญหาตัวประกันชาวยิวและบุคคลสัญชาติอื่นๆ ที่ถูกฮามาสจับกุมในครั้งนี้

อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้เป็นการประเมินในเบื้องต้น และเป็นการประเมินในวันพุธที่ 11 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันที่ 5 ของสงคราม และทั้งหมดนี้ชี้ชัดว่า เรายังต้องติดตามสถานการณ์ชุดนี้ต่อไป เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นอาจนำไปสู่วิกฤตการเมืองใหญ่ในเวทีโลกได้ไม่ยากนัก!

logoline