svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"นายกฯ" ประสานสายการบินเอกชน เพิ่ม 4 ลำ รับกังวลสถานการณ์อิสราเอลเลวร้ายลง

11 ตุลาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

นายกฯ อัพเดทสถานการณ์ ช่วยคนไทยในอิสราเอล ล่าสุดประสานสายการบินเอกชนเพิ่ม 4 ลำ หลังตัวเลขคนพร้อมกลับพุ่งสูง 5,000 คน กังวลสถานการณ์เลวร้ายลง ยอมรับปัญหาลำเลียงคนมายังสถานทูตยากลำบาก

11 ตุลาคม 2566 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ที่ประเทศมาเลเซีย ถึงความคืบหน้าการช่วยเหลือคนไทยในอิสราเอล ว่า ล่าสุดเวลา 3 ทุ่ม ตามเวลาท้องถิ่น หลังคนไทยในอิสราเอล และพื้นที่ใกล้เคียงประสงค์จะเดินทางกลับประเทศไทยกว่า 5,000 คน ซึ่งขนาดนี้ต้องยอมรับว่าสถานการณ์แย่ลง และเลวร้ายลงไป มีจรวดยิงกันตลอดเวลา

โดยเครื่องบินของไทยที่จะออกในวันพรุ่งนี้เพื่อรับคนไทย 15 คนนั้น ก็ยังไม่พร้อม เนื่องจากอีก 11 คน กำลังเดินเข้ามาที่สถานทูต ซึ่งขณะนี้มีแค่ 4 คน และได้รับบาดเจ็บ แต่อยู่ในสถานทูต ปลอดภัยแล้ว

ส่วนการจราจรในประเทศอิสราเอลถนนก็ปิดหลายสาย ดังนั้นทางเดียวที่สามารถเดินทางได้ต้องอาศัยรถทหาร โดยพล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ก็ได้ประสาน กองทัพอิสราเอลเพื่อขอให้ช่วยใช้รถลำเลียงคนของเราเข้ามายังสถานทูต แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือ ขณะนี้สถานการณ์เร็วร้ายลงไป ดังนั้นเราต้องคิดว่าจะทำอย่างไรที่จะอพยพคน 5,000 คน ให้ได้ในระยะเวลาที่เร็วที่สุด

นายเศรษฐา ระบุอีกว่า แต่มีปัญหาอยู่สองถึงสามปัญหาใหญ่ คือ ต้องมีเครื่องบินเพียงพอ โดยเราได้ประสานแอร์เอเชีย ซึ่งอาจจะได้ 2 ลำ หรือมากกว่า และทางนกแอร์ ก็จะมีอย่างน้อย 2 ลำ และการบินไทยก็อยู่ระหว่างการพิจารณา ตอนนี้เราพยายามนำเครื่องบินมาให้ได้เร็วที่สุด เพื่อบินเข้าและรับออกจากอิสราเอลเพื่อไปจอดยังประเทศข้างเคียง และกลับไปรับใหม่ เพื่อเอาคนออกจากประเทศอิสราเอลให้เร็วที่สุด

ซึ่งพรุ่งนี้ก็สามารถออกได้เลย แต่ทั้งนี้ต้องให้มั่นใจว่าเมื่อไปถึงแล้วคนไทยพร้อมพี่จะออกมา เพราะการเดินทางในอิสราเอลนั้น สามารถใช้ได้เฉพาะรถทหารเท่านั้น

ส่วนเครื่องบินของรัฐนั้นมีอยู่ 5 ลำ ดังนั้นจะหาเตรียมไว้ 9 ลำหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า อาจจะมีมากกว่านั้น เพราะขณะนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมยังเจรจาอยู่ และยืนยันว่าเรื่องค่าใช้จ่ายนั้นเป็นเรื่องเล็ก เท่าไหร่ก็จ่ายเท่าไหร่ก็ต้องออกไปให้ได้ เพื่อความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนสำคัญที่สุด

แต่ทั้งนี้ปัญหาที่ตามมาคือไม่แน่ใจว่าน่านฟ้าจะเปิดนานเท่าไหร่ และอีกปัญหาคือการลำเลียงคนเข้ามายังสนามบินได้มากเท่าไหร่ เพราะหากนำเครื่องบินมาจอดทิ้งไว้ และไม่สามารถลำเลียงคนมาได้ก็จะเปล่าประโยชน์

แต่อย่างไรก็ตามหากเราไม่ได้เตรียมพร้อม และไม่เตรียมเครื่องบินไว้ก็จะเสียโอกาสไป เพราะก็มีโอกาสที่น่านฟ้าจะปิดในเร็ววันนี้ ดังนั้นการปฎิบัติการเราต้องคำนึงถึงหลายปัจจัย ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะต้องเตรียมพร้อมและอาจจะต้องบินเข้าไปก่อน และเข้าไปเสี่ยงว่าจะสามารถนำประชาชนคนไทยออกมาได้หรือไม่

นายเศรษฐา ย้ำว่า รัฐบาลนี้ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของประชาชนที่อยู่ในอิสราเอลสูงที่สุด ซึ่งไม่ได้นิ่งนอนใจและประสานงานอยู่ตลอดต่อเนื่อง ของทุกภาคส่วนและพรุ่งนี้เช้าน่าจะมีการอัพเดทสถานการณ์อีกครั้ง ขอให้ติดตามฟังข่าวต่อไป

"หากน่านฟ้าเปิดตลอดและสถานการณ์ลดความรุนแรงลง ก็ยังมีความหวัง แต่ถ้าเราเสี่ยงไม่ได้ ตรงนี้อาจจะต้องเตรียมเครื่องบินให้เยอะกว่านั้น จะได้อพยพคนไทยกลับมาปลอดภัยได้เร็วที่สุด"

ส่วนสื่อของอิสราเอลรายงานว่าพบคนไทย จำนวน 14 คน ในเขตพื้นที่ฉนวนกาซา นั้นนายกฯได้รับรายงานหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ยังไม่ได้รับรายงาน จากเอกอัครราชทูต  ณ กรุง เทลอาวีฟ แต่หวังว่าจะเป็นเรื่องจริง และหวังว่าทุกคนจะปลอดภัย เพราะก็มีความเป็นไปได้ ตนได้สั่งการไปว่าเรื่องของเอกสารขอให้เป็นเรื่องรอง ความปลอดภัยของประชาชนเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด

นอกจากนี้ ตนได้รับรายงานว่าตอนนี้พบคนไทยเสียชีวิต 20 ราย และหวังว่าจะเป็นตัวเลขที่จบแล้ว เราจึงพยายามอพยพคนไทยให้ได้เร็วที่สุด เท่าที่สามารถทำได้ทุกวิถีทาง ขอขอบคุณพระเอกชนที่มีส่วนร่วมในการช่วยนำคนไทยออกมา และเท่าที่ดูจากตัวเลขผู้เสียชีวิตนั้น ต้องยอมรับว่าของไทยเป็นประเทศที่มีการสูญเสียสูงที่สุดประเทศหนึ่ง ก็หวังว่ารัฐบาลอิสราเอล คงจะเห็นใจและจะช่วยอำนวยความสะดวกนำรถทหารมาส่งประชาชนคนไทยกลับบ้านโดยเร็วที่สุด

logoline