svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

ชะตากรรม “ศูนย์ฝึกอาชีพสวนลุมพินี” หลังถูกตัดงบ 13 ล้านบาท ( ตอนที่ 2 )

ทีมข่าวเนชั่นยังเกาะติดปัญหาของการตัดงบประมาณ 13 ล้านบาท ศูนย์ฝึกอาชีพ สวนลุมพินี  เขตปทุมวัน ที่ถูก สภา กรุงเทพมหานคร  ตัดออกจากการพิจารณางบประมาณกรุงเทพมหานคร  ที่พิจารณาผ่านงบประมาณ ทั้งหมด 9 หมื่นล้านบาท  ไปเมื่อวันที่ 6 กันยายน ที่ผ่านมา 

ซึ่งหลังจากทราบข่าวผู้บริหารของกรุงเทพมหานคร นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร สั่งการให้สำนักพัฒนาสังคม เข้าไปช่วยดูแลในเรื่องนี้  โดยจะใช้งบประมาณของสำนักพัฒนาสังคมในการดูแล แต่ยังต้องดูว่าจะสามารถจัดสรรงบจากส่วนไหน อย่างไรมาได้บ้าง

อ่านข่าวเก่า : ชะตากรรม “ศูนย์ฝึกอาชีพสวนลุมพินี” หลังถูกตัดงบ 13 ล้านบาท ( ตอนที่ 1 )

เมื่อทีมข่าวตรวจสอบไปยังนางสาวสุขวิชญาณ์ นสมทรง ผู้อำนวยการเขตปทุมวัน เปิดเผยกับทีมข่าวเนชั่น ว่าการตัดงบครั้งนี้ทางเขตได้รับทราบข้อมูลเพียงแค่ว่า สภา กรุงเทพมหานคร มีการตัดงบประมาณ แต่ยังไม่มีหนังสือแจ้งรายละเอียดมาอย่างเป็นทางการ  โดยยืนยันว่าทางสำนักงานเขตได้พยายามอย่างเต็มที่แล้ว ที่จะดำนินการทำเรื่องขอจัดสรรงบประมาณให้ทางศูนย์ ไม่ได้ทอดทิ้ง เพราะไม่เช่นนั้นงบ 13 ล้าน สำหรับศูนย์แห่งนี้ จะไม่เข้าไปถึงร่างข้อบัญญัติที่จะนำเข้าพิจารณางบประมาณปี 2567 ในสภากรุงเทพมหานคร  

ตอนนี้สำนักงานเขตฯ ได้ทำหนังสือขอจัดสรรงบประมาณไปยัง 2 หน่วยงาน ของกรุงเทพมหานคร คือ สำนักพัฒนาสังคม กทม. และสำนักงบประมาณ  เพื่อนำมาใช้ดำเนินงานในศูนย์ฝึกอาชีพสวนลุมพินี  อยู่ระหว่างรอการตอบกลับมา หากได้รับงบประมาณไม่ว่าจะจากหน่วยงานใด จะให้มีการเปิดรับสมัครนักเรียนทันที  แต่ก็ยอมรับว่าอาจจะไม่ทันการเปิดเรียนรอบถัดไปของศูนย์ฝึกอาชีพสวนลุมพินี

"อาจจะไม่ทันวันที่ 2 ตุลาคม คือหลักการของเรา เมื่อได้งบฯมาแล้ว เราจึงจะเปิดเรียน ถ้ายังไม่ได้รับงบ ก็ยังเปิดเรียนยังไม่ได้ เพราะเราจะไม่มีเงินจ่ายค่าวิทยากร เนื่องจากที่นี่ไม่ใช่โรงเรียน แต่เราเปิดเป็นคอร์ส  ซึ่งจริงๆแล้วสามารถกำหนดเรื่องของการเปิดเรียนได้  ไม่จำเป็นต้องต่อเนื่องตลอดเหมือนกับโรงเรียน  เร่งติดตามความคืบหน้าอยู่ แต่ไม่รู้ว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะใช้ระยะเวลาในการพิจารณากี่ขั้นตอน ถ้าไม่ทันวันที่ 2 ตุลาคม เขตก็ได้ทำหนังสือขอแนวทางในการปฏิบัติจากฝ่ายบริหารไปแล้วเช่นกัน ว่าจะให้ดำเนินการอย่างไร"

"คงไม่ถึงขั้นปิดศูนย์  เพราะผู้บริหาร กทม.น่าจะเข้าใจ  แต่หลังจากนี้กระบวนการทางงบประมาณของที่นี่ อาจจะไม่ได้ใช้รูปแบบเดิม ที่ผ่านมามีปัญหาร้องเรียนกันไปมา แต่เราดูที่ผลงานมากกว่า ผอ.เคยลงพื้นที่ไปดูบางจุดที่มีปัญหายังไม่พร้อม หารือกับศูนย์ว่าจะทำยังไง ปรับปรุงยังไงให้ที่เรียนสภาพดีๆ แต่เขาก็บอกว่าทนกันได้  ซึ่งตรงนั้นพื้นที่ก็ไม่ใช่ของเราด้วย ...แนวโน้มปีหน้าจะเป็นอย่างไร เขตก็คงทำเรื่องของบเข้าไปในสภาเหมือนเดิม ถ้า สภา กทม.ไม่อนุมัติ ก็อาจจะต้องใช้วิธีของบกลางเหมือนเช่นปีนี้ "

สุขวิชญาณ์ นสมทรง ผู้อำนวยการเขตปทุมวัน 

 

ขณะที่หน่วยงานที่ได้รับมอบหมายให้เข้ามาช่วยดูแลเรื่องนี้ อย่างสำนักพัฒนาสังคม กรุงเทพมหานคร  นายแสนยากร อุ่นมีศรี ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาสังคม กรุงเทพมหานคร  เปิดเผยว่า งบประมาณปี 2566 จะสามารถใช้ได้จนถึงสิ้นเดือนกันยายนนี้  ส่วนงบปี 2567 หลังถูกตัดงบประมาณจาก สภา กรุงเทพมหานคร  เบื้องต้น กทม. จะใช้วิธีการจัดสรรงบประมาณจากงบกลางของ กทม.  มาให้กับศูนย์ฝึกอาชีพสวนลุมพินี  ซึ่งงบกลางนี้สามารถนำมาใช้ได้ เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในกรณีฉุกเฉิน เร่งด่วน  คาดว่าสัปดาห์นี้จะได้ความคืบหน้าและข้อสรุป  

“ เราได้รับหนังสือจากเขตปทุมวันแล้ว และได้มีหนังสือไปถึงผู้บริหารเพื่อขอรับนโยบายและขอจัดสรรงบประมาณ 13 ล้าน จากงบกลางของ กทม.  แต่ยังต้องรอนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณาการจัดสรรงบกลางก่อน  คาดว่าสัปดาห์นี้จะมีความคืบหน้า  แต่ยืนยันว่าจะไม่มีการยุบ หรือปิดศูนย์อย่างแน่นอน  เพราะการสร้างอาชีพ เป็นนโยบายเส้นเลือดฝอยของ ผู้ว่าฯ กทม. ”  

ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาสังคม กรุงเทพมหานคร ยังชี้แจงเพิ่มเติมถึงหลักการในการเรียนและตามระเบียบ ว่า กทม.ไม่มีการห้ามการเรียนว่าคนหนึ่งจะเรียนที่ศูนย์ได้กี่ครั้ง หากเรียนจบแล้ว รู้สึกยังไม่ชำนาญพอ อยากจะเรียนเพิ่ม เรียนซ้ำ ก็ทำได้  และไม่ได้มีการจำกัดว่าต้องเป็นคนกรุงเทพเท่านั้นที่จะมาเรียนได้  เพราะเปิดกว้างและให้โอกาสกับทุกคน

“ปัจจุบันอายุของผู้เรียนของศูนย์ฝึกอาชีพ ใน กทม. มีผู้สูงอายุมาเรียนเพิ่มมากขึ้น เพราะกรุงเทพมหานคร เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุแล้ว มีผู้สูงอายุ 1 ล้าน 2 แสน จากประชากร 5 ล้านกว่าคน  หรือพูดง่าย 20 %  ของประชากรใน กทม. และคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะปี 2565  กทม. มีประชากรเกิดแค่ 5.5 หมื่นคน  สังคมเมืองตอนนี้จึงน่าเป็นห่วง"  

"ผมต้องฝากทำความเข้าใจเรื่องของวัตถุประสงค์ของคนที่มาเรียนกับเรา ว่ามีทั้งคนที่รายได้จำกัด ต้องการเติบโต และคนที่เรียนเพื่อไปทำงานมีรายได้ แต่จริงๆ แล้ว คนที่มาเรียนเพื่อเอาไปใช้ในชีวิตประจำวัน ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน เช่น เขาเรียนตัดเย็บ แล้วเอาความรู้ไปใช้ซ่อมแซมเสื้อผ้าให้คนในครอบครัว ลดค่าใช้จ่าย ตรงนี้ก็ตรงตามวัตถุประสงค์ของเราด้วยเช่นกัน”

แสนยากร อุ่นมีศรี ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาสังคม กรุงเทพมหานคร 

 

แม้หน่วยงานฝ่ายบริหารของกรุงเทพมหานคร จะประสานเสียงสอดคล้องกัน ยืนยันไม่มีการปิดศูนย์ แต่การตัดงบครั้งนี้ ทำให้เกิดคำถามว่า หากเหตุผลคือความคุ้มค่าในการจัดการเรียนการสอน ที่กรุงเทพมหานคร และสภา กทม. ตีความและมองต่างกัน แล้วจะสามารถสร้างความมั่นใจได้อย่างไร ว่าในปีงบประมาณต่อๆไป ศูนย์ฝึกอาชีพแห่งนี้จะไม่ถูกตัดงบอีก

นางสาวนฤนันมนต์ ห่วงทรัพย์ สก.เขตคลองสามวา ในฐานะโฆษกสภา กรุงเทพมหานคร   ชี้แจงผ่านทีมข่าวเนชั่นเรื่องของการตัดงบศูนย์ฝึกอาชีพสวนลุมพินี  ว่างบดังกล่าวถูกตัดออก ตั้งแต่ชั้นของคณะกรรมการวิสามัญ   ยังไม่ได้เข้าสู่การพิจารณางบประมาณปี 2567 ของสภา กรุงเทพมหานคร อย่างที่มีข่าวออกไป

สาเหตุที่ตัดงบ เพราะคณะกรรมการวิสามัญมองว่า กระบวนการงบประมาณ ของศูนย์ฝึกอาชีพสวนลุมพินี  ไม่ถูกต้อง  เนื่องจากมีความทับซ้อนของหน่วยงานที่ดูแล  ถึง 3 หน่วย  คือ

  1. สถานที่ ตั้งอยู่ในพื้นที่ของ สำนักสิ่งแวดล้อม
  2. หน่วยงานที่ดูแลจัดสรรงบประมาณ คือ สำนักงานเขตปทุมวัน
  3. หลักสูตรการเรียน หน่วยงานที่ดูแล คือ สำนักพัฒนาชุมชน

ซึ่งก่อนหน้านี้มีการร้องเรียนมาว่าสถานที่ของศูนย์ฯ ไม่เหมาะที่จะใช้จัดการเรียนการสอน เพราะตั้งอยู่บริเวณแปลงเพาะชำของสวนลุมพินี แต่สำนักงานเขตไม่มีอำนาจที่จะนำงบไปใช้พัฒนาพื้นที่ได้  เพราะไม่ใช่เจ้าของพื้นที่

เรื่องนี้จึงถูกนำเข้าคณะกรรมการวิสามัญเพื่อพิจารณา โดยมีทั้งฝ่ายนิติบัญญัติ คือ สภา กรุงเทพมหานคร และ ฝ่ายบริหาร คือ กทม.  หารือร่วมกัน ว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร  สุดท้ายเสียงส่วนใหญ่มองว่า ควรตัดงบออกไปก่อน จนกว่าสำนักงานเขตปทุมวัน จะสร้างอาคารของสำนักงานเขตหลังใหม่เสร็จ  แล้วจะย้ายศูนย์ฝึกอาชีพฯ  ไปอยู่ที่อาคารหลังใหม่  จากนั้นจึงค่อยบรรจุเรื่องงบฯ ก้อนนี้เข้าไปให้สภา กรงเทพมหานคร พิจารณาใหม่  และหากปีหน้าอาคารของสำนักงานเขตปทุมวัน ยังไม่เสร็จ  ก็จะใช้รูปแบบวิธีเดียวกับรอบนี้  คือต้องไปของบกลาง จาก กทม.มาให้กับศูนย์ฝึกอาชีพแทน

“ยอมรับว่ากระแสข่าวที่ออกมา จนทำให้ครูและผู้เรียนกังวล  ส่วนหนึ่งเพราะไม่ได้มีการสื่อสารให้ชัดเจน  แต่หลังทราบความเดือดร้อนของศูนย์ฯ ทาง สภา กรุงเทพมหานคร  ได้ประสานไปยังสำนักพัฒนาสังคม เพื่อของบกลางเพิ่มอีกก้อนหนึ่ง  มาช่วยในการสนับสนุนการจัดการเรียนการสอนให้กับศูนย์ด้วยเช่นกัน  นอกเหนือจากงบกลางที่ทางเขต กำลังดำเนินการให้กับทางศูนย์อยู่ในตอนนี้” 

นฤนันมนต์ ห่วงทรัพย์  โฆษกสภา กรุงเทพมหานคร 

แม้สภา กรุงเทพมหานคร จะยืนยันว่าไม่ได้เป็นผู้ตัดงบประมาณของศูนย์ฯ เพราะถูกตัดมาตั้งแต่ชั้นของคณะกรรมการวิสามัญแล้ว และหากมีการก่อสร้างอาคารสำนักงานเขตปทุมวันหลังใหม่เสร็จสิ้น จะมีการย้ายศูนย์ฝึกอาชีพสวนลุมพินี ไปอยู่ที่อาคารหลังใหม่ เพื่อให้สามารถใช้งบได้อย่างถูกต้อง

แต่จากการตรวจสอบพบว่าของทีมข่าวเนชั่นพบว่า ปัจจุบันอาคารหลังใหม่ ของสำนักงานเขตปทุมวัน ยังไม่ได้มีการเริ่มก่อสร้างเลยแม้แต่น้อย  หลังจากที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณการก่อสร้างกว่า 300 ล้านบาท ไปตั้งแต่ปี 2564  โดยยังคงอยู่ในขั้นตอนการทำแบบและทำประเมินรายการ เพื่อหาผู้รับจ้าง ซึ่งคาดว่าภายในเดือนมีนาคม 2567 จะได้ผู้รับจ้าง  และน่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จ ปี 2568  

นั่นหมายความว่า หากสภา กรุงเทพมหานคร ยังยืนยันที่จะตัดงบประมาณด้วยเหตุผลเดิม และใช้รูปแบบวิธีการดำเนินการตามที่ใช้ในปีนี้  ศูนย์ฝึกอาชีพสวนลุมพินี ก็จะยังคงต้องอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่มีความชัดเจนกับการได้รับงบประมาณต่อไป....