svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

ชะตากรรม “ศูนย์ฝึกอาชีพสวนลุมพินี” หลังถูกตัดงบ 13 ล้านบาท ( ตอนที่ 1 )

เป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์หลังมีกระแสข่าวว่าจะมีการปิดศูนย์ฝึกอาชีพ สวนลุมพินี  เขตปทุมวัน เนื่องจากถูก สภา กรุงเทพมหานคร ตัดงบประมาณ กว่า 13 ล้านบาท สำหรับศูนย์แห่งนี้ ออกจากการพิจารณางบประมาณกรุงเทพมหานคร  ที่พิจารณาผ่านงบประมาณ 9 หมื่นล้านบาท เมื่อ 6 ก.ย. ที่ผ่านมา

การถูกตัดงบประมาณ กว่า 13 ล้านบาท สำหรับศูนย์ฝึกอาชีพ สวนลุมพินี เขตปทุมวัน นั่นเท่ากับว่าจะทำให้ครูที่สอนอยู่ที่ศูนย์นี้กว่า 60 ชีวิต  อาจต้องตกงานแบบกะทันหัน ไม่รวมถึงผลกระทบต่อผู้เรียน จนทำให้คุณครูและนักเรียนของศูนย์ฝึกอาชีพ สวนลุมพินี รวมตัวกันเดินทางไปยื่นหนังสือร้องเรียนกับ สภา กรุงเทพมหานคร  เมื่อวันที่ 7 ก.ย. ทันทีที่ทราบข่าว

ชะตากรรม “ศูนย์ฝึกอาชีพสวนลุมพินี”  หลังถูกตัดงบ 13 ล้านบาท ( ตอนที่ 1 )

งบประมาณที่ถูกตัดของศูนย์ฝึกอาชีพ เขตปทุมวัน 13 ล้านบาท

  • ประกอบด้วยค่าสมนาคุณวิทยากร 12,360,000 บาท ซึ่งก็คือค่าจ้างครูทั้ง 60 คนที่มาสอนอาชีพต่างๆ ในศูนย์แห่งนี้ 
  • และอีกส่วนหนึ่ง คือ ค่าวัสดุศูนย์ฝึกอาชีพฯ 800,000 บาท

ซึ่งครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ศูนย์ฝึกอาชีพสวนลุมพินี ไม่ได้รับงบประมาณ  และ เป็นศูนย์ฝึกอาชีพแห่งเดียวที่ถูกตัดงบ

       ข้อมูลจาก รายงาน คณะกรรมการฯพิจารณางบประมาณ ในการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ระบุว่า ในส่วนงบประมาณของศูนย์ฝึกอาชีพสวนลุมพินี เขตปทุมวัน ได้พิจารณาในรายละเอียดแล้ว พบว่า การดำเนินการของศูนย์ฝึกอาชีพสวนลุมพินี มีผู้ที่มาสมัครเรียนเป็นกลุ่มคนเดิมๆ ที่มาประจำ และไม่ได้มีการนำไปประกอบอาชีพ คนใหม่ๆ ที่สนใจต้องการจะเข้ามาเรียนฝึกอาชีพเพื่อนำไปสร้างอาชีพสร้างรายได้ ไม่สามารถเข้ามาสมัครเรียนได้  ซึ่งไม่ตรงกับวัตถุประสงค์ของการตั้งศูนย์ฝึกอาชีพกรุงเทพมหานครที่เปิดสอนหลักสูตรสาขาต่างๆ เพื่อให้ผู้ที่ว่างงานตกงาน ผู้มีรายได้น้อย ได้มาเรียนเพื่อนำไปประกอบอาชีพเสริมหรืออาชีพหลักสร้างรายได้ให้ครอบครัว ประกอบกับสวนลุมพินีกำลังมีแผนจะปรับปรุง การมีศูนย์ฝึกอาชีพจะเหมาะสมหรือไม่ จึงได้ตัดงบประมาณในส่วนนี้ไป

        โดยผู้ที่ต้องการเรียนฝึกอาชีพสามารถไปสมัครเรียนกับศูนย์ฝึกอื่นๆ ได้ โดยคณะกรรมการวิสามัญฯ รวมถึงคณะอนุกรรมการได้พิจารณางบประมาณโดยยึดหลักความคุ้มค่า เป็นประโยชน์สูงสุดกับประชาชน

ชะตากรรม “ศูนย์ฝึกอาชีพสวนลุมพินี”  หลังถูกตัดงบ 13 ล้านบาท 

แน่นอนว่าผลกระทบในเรื่องนี้ ไม่ได้มีแค่กับครู ที่จะถูกลอยแพโดยไม่ได้รับการแจ้งล่วงหน้า  แต่นักเรียน ที่ตั้งใจมาสมัครเรียนเพื่อนำความรู้ไปประกอบอาชีพ หวังสร้างรายได้ดูแลครอบครัว ก็จะได้รับผลกระทบไปด้วยเช่นกัน 

        ทีมข่าวเนชั่น เดินทางไปที่ศูนย์ฝึกอาชีพสวนลุมพินี  ที่ตั้งอยู่ภายในพื้นที่สวนลุมพินี  ซึ่งวันที่เราเดินทางไปนั้น ( 21 ก.ย.2566 )  ยังคงมีการเปิดการเรียนการสอนในวิชาต่างๆเหมือนเช่นปกติ  รวมกว่า 20 วิชา เช่น วิชาตัดผม ทำอาหาร  ขนมเบเกอรี่ เครื่องดื่ม ศิลปะประดิษฐ์ ช่างซ่อมอิเล็กทรอนิกส์  ช่างซ่อมโทรศัพท์มือถือ  คอมพิวเตอร์  ทำกรอบพระ  ตัดเย็บเสื้อผ้า  ประดิษฐ์กระเป๋าจากเศษผ้า ช่างแต่งหน้า  แต่ละวิชามีนักเรียนมาเรียนกันอย่างคึกคัก ทั้งหนุ่มสาว ที่อยู่ในวัยทำงาน และกลุ่มผู้สูงอายุ 

         แต่ในขณะเดียวกัน ด้านหน้าทางเข้ามีการปิดป้ายประกาศ "ชะลอการรับสมัครจนกว่าจะได้งบประมาณ" ทำให้หลายคนที่ตั้งใจมาสมัครเรียนต้องกลับไปอย่างผิดหวัง ขณะเดียวกันคนที่สมัครเรียนไว้แล้ว พยายามโทรมาสอบถามความชัดเจนถึงการเปิดเรียนรุ่นถัดไป ที่จะต้องเริ่มเรียน 2 ตุลาคมนี้ ว่าจะต้องเลื่อนหรือจะสามารถเปิดเรียนได้หรือไม่ แต่ทางศูนย์ก็ยังไม่สามารถให้คำตอบที่ชัดเจนได้ 

ชะตากรรม “ศูนย์ฝึกอาชีพสวนลุมพินี”  หลังถูกตัดงบ 13 ล้านบาท ( ตอนที่ 1 )

        นักเรียนหลายคนที่นี่ ยอมรับว่าตอนที่ทราบข่าวว่าศูนย์ถูกตัดงบ รู้สึกตกใจ และกังวลว่าจะได้รับผลกระทบ  หากศูนย์ฯ ต้องเลื่อนตารางเรียนออกไป หรือยังไม่รู้ว่าจะกลับมาเปิดได้เมื่อไหร่  เพราะส่วนใหญ่คนที่มาเรียนจะวางแผนชีวิตไว้และหลายคนลงสมัครเรียนต่อเนื่อง  

          ศักดิเดช เธียรสุวรรณ อายุ 77 ปี  มาจาก จ.บุรีรัมย์  เรียนวิชาช่างซ่อมโทรศัพท์มือถือ เล่าว่า สาเหตุที่เลือกมาเรียนที่ศูนย์ฯแห่งนี้  เพราะทราบว่าที่นี่ครูสอนเข้าใจง่าย เรียนแล้วทำได้จริง  โดยตั้งใจว่าจะกลับไปเปิดร้านซ่อมมือถือเล็กๆที่บ้าน  

“ ผมไม่เคยมีความรู้เรื่องนี้มาก่อน แต่พอเรียนแล้ว ก็ชอบ เรียนแล้วซ่อมได้จริงๆ  ผมมาเช่าห้องอยู่ใกล้ๆ  เพราะวางแผนว่าจะเรียนต่อเนื่อง 4 เดือน จบวิชานี้ ก็ลงเรียนวิชาคอมพิวเตอร์ในรุ่นถัดไปไว้ด้วย  และอยากเรียนตัดผมอีกวิชา  แต่ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าทางศูนย์จะต้องเลื่อนออกไปรึเปล่า  ถ้าต้องเลื่อนไป จะกลับมาเปิดสอนอีกได้เมื่อไหร่   ตอนที่ทราบข่าวว่าศูนย์ฯถูกตัดงบ  ไม่รู้จะพูดอย่างไรเหมือนกัน  ผมว่างบ 13 ล้านบาท ถือว่าไม่มาก ถ้าเทียบกับการ “ให้”  ทำให้คนตั้งเท่าไหร่มีอาชีพ  และเขาสามารถไปดูแลครอบครัวต่อได้อีกหลายชีวิต  ”

ศักดิเดช เธียรสุวรรณ

 วัชรี ตรีพันธุพิทักษ์  อายุ 72 ปี   นักเรียนวิชาตัดเย็บเสื้อผ้า บอกกับทีมข่าวว่า รู้จักและมาเรียนที่นี่ครั้งแรกตอนที่ตกงานเมื่อปี 2553  จนได้เรียนเย็บผ้าและกลายเป็นอาชีพที่สร้างรายได้  ก่อนจะกลับมาเรียนอีกครั้งหลังช่วงโควิดที่ผ่านมา เพราะอยากเพิ่มความรู้ให้ตัวเอง 

“ตอนแรกเรียนทำกาแฟ แต่ไม่มีเงินทุนที่จะเปิดร้าน เลยเรียนไว้เป็นความรู้  แต่ที่บ้านมีจักรเย็บผ้าอยู่   เลยลงเรียนวิชาตัดเย็บ  ทำแพทเทิร์นเสื้อผ้า  ทำให้สามารถตัดเย็บเสื้อผ้าไปขายเล็กๆน้อยๆ และซ่อมแซมเสื้อผ้าในครอบครัวได้ด้วย  ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายได้มากเลย เพราะสมัยนี้เวลาเสื้อผ้าชำรุด เอาไปซ่อมที่ร้าน เล็กๆน้อยๆ ก็ราคาเกือบ 100 บาทแล้ว   ตอนนี้กลับมาเรียนที่ศูนย์อีกครั้ง  เรียนการตัดเย็บจักรอุตสาหกรรม   มันภูมิใจนะเวลาเราทำเองได้ และอาจารย์ที่นี่แต่ละท่าน  ไม่มีใครหวงความรู้  ถึงเราไม่ได้เรียนวิชานั้น  แต่ถ้าเราไปถาม  เขาก็บอก”

 วัชรี ตรีพันธุพิทักษ์  

ขณะที่ เกวรินทร์ ดิษยาธันย์ธำรง ก็เป็นอีก 1 คนที่มาเรียนที่ศูนย์แห่งนี้  โดยเรียนวิชาทำเครื่องดื่ม ตั้งใจจะไปเปิดร้านเล็กๆ   

“ ก่อนมาเรียนที่นี่หาข้อมูลของศูนย์ฝึกอาชีพ  ส่วนใหญ่ไม่มีเปิดสอนวิชานี้  มีแค่ที่ศูนย์ฯสวนลุมพินี  กับศูนย์ฯที่ดินแดง  แต่ที่นี่การเดินทางมาเรียนสะดวกกว่า  มีทั้งรถไฟฟ้าและรถใต้ดินผ่าน มาเรียนแล้วก็รู้สึกชอบ ได้เพื่อน ได้สังคม ส่วนตัวรู้สึกว่าอาจารย์สอนดี ไม่หวงวิชา สอนทั้งการทำเครื่องดื่ม การเปิดร้าน เครื่องมือ วัตถุดิบ และเทคนิคต่างๆ  ยังมีอีกหลายวิชาที่สนใจ  อาจจะไม่ได้นำไปประกอบอาชีพ แต่นำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้  ส่วนตัวมองว่าศูนย์ตรงนี้มีประโยชน์กับประชาชน  คนที่ต้องการความรู้ หรือคนที่มีรายได้น้อย  ก็มาเรียนได้  ก็อยากให้คงไว้  และให้เปิดการเรียนการสอนต่อเนื่อง ” 

เกวรินทร์ ดิษยาธันย์ธำรง

ความเป็นมาของ “ศูนย์ฝึกอาชีพสวนลุมพินี”

        นายเชาวลิต ลิ้มสวัสดิ์ หัวหน้าศูนย์ฝึกอาชีพสวนลุมพินี เขตปทุมวัน เล่าถึงประวัติความเป็นมาของศูนย์แห่งนี้ ว่าเริ่มก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2518 โดยแรกเริ่มตั้งอยู่ภายในสวนลุมพินี  ก่อนที่จะมีการโยกย้ายไปหลายที่  เนื่องจากมีการปรับปรุงพื้นที่สวน  จนปี 2553  ได้ย้ายกลับมาอยู่ที่สวนลุมพินีอีกครั้ง

หลักสูตรวิชาที่เปิดสอนที่นี่ มีกว่า 20 วิชา โดยดูตามเทรนด์และความต้องการของตลาดแรงงาน  เพื่อเสริมความรู้และให้ผู้เรียนสนำไปประกอบอาชีพได้จริง  โดยไม่มีการคิดค่าใช้จ่ายใดๆ  มีเพียงกำหนดเงื่อนไขของผู้ที่จะเข้าเรียน  ว่าต้องมีสัญชาติไทย และมีอายุไม่ต่ำกว่า 14 ปี   แต่ไม่ได้มีการปิดกั้นว่าจะต้องเป็นคนที่มีภูมิลำเนาเฉพาะคนที่อยู่ในเขตปทุมวันเท่านั้น  ซึ่งแต่ละเดือน ที่นี่จะมีผู้มาลงสมัครเรียนวิชา กว่า 800 คน  หรือเฉลี่ยปีละ 8,000 คน  โดยมีครูผู้สอน รวมกว่า 60 คน 

“  ศูนย์ฝึกอาชีพของเรา ขึ้นอยู่กับสำนักงานเขตปทุมวัน เราเปิดสอนมา 40 กว่าปี  เป็นศูนย์แรกของ กรุงเทพมหานคร  และติดอันดับ 1 ใน 3 ของศูนย์ฝึกอาชีพที่มีคนมาเรียนมากที่สุดในแต่ละปี  เรามีชื่อเสียง เป็นที่รู้จักจากการบอกต่อๆกันไปของคนที่เคยมาเรียน  เคยมีนักเรียนมากถึง 15,000 คน  จนตอนหลังมีการเปิดศูนย์เพิ่มในแต่ละเขต  ทำให้นักเรียนเฉลี่ยๆ กระจายออกไปตามศูนย์ต่างๆ"

"การที่คนจะไปสมัครเรียนศูนย์ฯต่างๆ ชื่อเสียง คุณวุฒิ และมาตรฐานต่างๆ มีส่วนสำคัญ  อย่างวิชาช่างตัดผม อาจารย์ของเราเป็นแชมป์โลก ถึง 2 คน เวลาไปส่งแข่งขัน ลูกศิษย์ของเราจะชนะเลิศ ได้รางวัลตลอด คนที่มาเรียนก็จะมองว่า เขานำไปประกอบอาชีพได้แน่นอน และมันจะส่งผลไปถึงค่าแรงที่สูงขึ้นด้วย ”

บรรยากาศการเรียนการสอน ภายในศูนย์ฝึกอาชีพสวนลุมพินี เขตปทุมวัน

บรรยากาศการเรียนการสอน ภายในศูนย์ฝึกอาชีพสวนลุมพินี เขตปทุมวัน บรรยากาศการเรียนการสอน ภายในศูนย์ฝึกอาชีพสวนลุมพินี เขตปทุมวัน บรรยากาศการเรียนการสอน ภายในศูนย์ฝึกอาชีพสวนลุมพินี เขตปทุมวัน

 เป็นศูนย์ฝึกอาชีพ-สร้างคน และยังเป็นสถานที่ที่ให้ "อาชีพ" กับครู

ค่าตอบแทน ที่ครูที่นี่จะได้รับ คิดเป็นรายชั่วโมง ชั่วโมงละ 250 บาท  ครูหลายคนพ้นวัยเกษียณแล้ว  แต่ทางศูนย์ฯ ยังคงให้สอนอยู่ เพราะที่ผ่านมา เวลาที่จะปรับเปลี่ยนครู จะต้องมีการพิจารณาอย่างมากในหลายด้าน  ส่วนใหญ่ครูที่นี่สอนมาตั้งแต่ยังเป็นหนุ่มสาว ให้ทั้งความรู้  และภูมิปัญญา สร้างลูกศิษย์จบไปแล้วหลายต่อหลายรุ่น 

“ครูบางคนที่สอนที่นี่ เขามีฐานะยากจน และมีภาระต้องดูแล  การที่ยังมีอาชีพ  ถือว่าเป็นชีวิตของเขาชีวิตหนึ่งเลย  และไม่ใช่แค่กับครูคนเดียว แต่รวมไปถึงครอบครัวที่เขาต้องดูแลด้วย  หากตัดงบ เขาต้องตกงาน ครอบครัวลำบากไปด้วย  และจะไปหางานในตอนนี้ก็ลำบาก...ซึ่งหลังจากที่ถูกตัดงบ ทางสำนักงานเขต แจ้งให้ศูนย์ฯ หยุดรับสมัครนักเรียนก่อน และไม่ได้มีการขอเอกสารจากคุณครู เพื่อแต่งตั้งเป็นวิทยากรเหมือนปีที่ผ่านๆ มา” 

 ปัญหาคนเรียนซ้ำหน้าเดิม-ไม่ได้นำความรู้ไปสร้างอาชีพ

หัวหน้าศูนย์ฝึกอาชีพสวนลุมพินี เขตปทุมวัน ยอมรับว่า มีจริง แต่ไม่ถึง 20 % ในแต่ละรุ่น สาเหตุมาจากมาเรียนไม่ครบ จึงสมัครเรียนซ้ำ หรือสอบไม่ผ่าน ทำให้ต้องมาเรียนซ้ำ เพื่อจะได้ใบประกอบวิชาชีพ ซึ่งศูนย์ได้มีการพัฒนาหลักสูตรให้แตกต่างกันไปในแต่ละรุ่น  และจะให้โอกาสเรียนซ้ำได้แค่ 3 ครั้ง หากยังสอบไม่ผ่าน ก็จะแนะนำให้เปลี่ยนไปเรียนวิชาอื่น เพราะอาจจะไม่เหมาะกับอาชีพนี้  และกลุ่มที่มาเรียนซ้ำ ในวิชาที่ต้องใช้ทักษะความชำนาญ  เมื่อผู้เรียนรู้สึกว่าตนเองยังไม่คล่องแคล่วเพียงพอที่จะไปสมัครงานได้ ก็มาเรียนซ้ำ เพื่อให้มีความมั่นใจและประสบการณ์มากขึ้น 

ส่วนกลุ่มผู้สูงอายุ แม่บ้าน เยาวชน ที่มาเรียน โดยไม่ได้นำไปสร้างอาชีพนั้น  จริงๆแล้วก็ยังถือว่าอยู่ในวัตถุประสงค์รองของศูนย์  ฝึกอาชีพเพื่อประโยชน์ในด้านสังคม  คือ เพื่อใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์  ช่วยลดปัญหายาเสพติด เสริมสร้างทักษะ  นำทักษะไปใช้ประโยชน์ในครอบครัว

พูดง่ายๆคือ ศูนย์ฝึกอาชีพแห่งนี้ ยังคงทำหน้าที่ตอบโจทย์ให้กับประชาชนทุกกลุ่ม ทุกเพศ ทุกวัย  เพราะแต่ละคนจะมีโจทย์ในชีวิตของตัวเอง มีความตั้งใจของตัวเอง ที่แตกต่างกัน

“ หากในอนาคตการพิจารณางบประมาณของผู้ที่ดูแลรับผิดชอบ มองว่าบางวิชาของศูนย์ยังไม่พร้อม หรือมีความแออัด ก็สามารถตัดทอน ลดงบประมาณได้  แต่ไม่อยากจะให้มีการตัดงบไปทั้งหมดแบบนี้  ตอนนี้ความกังวลของผมคือ  เรายังไม่มีความชัดเจนว่าจะสามารถเปิดเรียนได้เมื่อไหร่  หรือต้องเลื่อนเปิดไปนานแค่ไหน  หากจำเป็นต้องเลื่อนเราต้องแจ้งผู้เรียนล่วงหน้า  ซึ่งถ้าเลื่อนออกไป 1-2 เดือน  ผมเชื่อว่าทุกคนรับได้  และจะได้วางแผนหาทางดำเนินการ  แต่ตอนนี้ยังไม่มีอะไรที่ชัดเจนกลับมาเลยแม้แต่นิดเดียว... ” นายเชาวลิต กล่าว

เชาวลิต ลิ้มสวัสดิ์ หัวหน้าศูนย์ฝึกอาชีพสวนลุมพินี เขตปทุมวัน

อ่านเพิ่มเติม : ชะตากรรม “ศูนย์ฝึกอาชีพสวนลุมพินี” หลังถูกตัดงบ 13 ล้านบาท ( ตอนที่ 2 )