svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"พล.ต.ต.สุพิศาล" ยินดี "บิ๊กต่อ" นั่งผบ.ตร. ชี้ "นายกฯ" เสนอก็ต้องรับผิดชอบ

28 กันยายน 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"พล.ต.ต.สุพิศาล" ยินดี "บิ๊กต่อ" นั่งผบ.ตร.คนใหม่ ชี้นายกฯเสนอก็ต้องรับผิดชอบ เชื่อเรื่องจบ 3 แคนดิเดตไม่ฟ้อง-ไม่มีคลื่นใต้น้ำ ฝาก กระจายอำนาจโยกย้าย เร่งสางปัญหาตร.เน่า

28 กันยายน 2566 ที่อาคารรัฐสภา พล.ต.ต สุพิศาล ภักดีนฤนาถ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกลและอดีตผู้บังคับการกองปราบปราม กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) มีมติเห็นชอบให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ขึ้นเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)ว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นคนตัดสินใจ ก็เป็นเรื่องที่นายกรัฐมนตรีจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องนี้  เพราะเป็นผู้เสนอชื่อ แม้ไม่ได้โหวตให้ เพื่อแสดงความเป็นกลาง

แต่ก็ถือว่าเป็นการใช้เสียงข้างมากในคณะกรรมการฯช่วยโหวตให้ผ่าน 9 : 1 ก็ขอแสดงความยินดีกับ ผบ.ตร.คนใหม่ด้วยที่ผ่านมติ ก็ถือว่าจะได้ทำงานต่อไป ทั้งนี้เห็นว่า แคนดิเดต ทั้ง 4 คน มีคุณสมบัติเหมาะสม เคยผ่านงานป้องกันและปราบปราม สามารถเลือกใครก็ได้ ในหลักของการพิจารณาเห็นว่านายกรัฐมนตรีไม่ได้บกพร่อง ในการพิจารณาเสนอชื่อ แต่ต้องตอบสังคมให้ได้ว่าเหตุผลที่เลือกมีอะไรบ้าง แต่เสียดายที่นายกรัฐมนตรีไม่ได้ตอบ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

พล.ต.ต.สุพิศาล กล่าวต่อ จากที่ติดตาม ทราบว่ามีการแยกวงเคลียร์กันก่อนโหวต ซึ่งถือเป็นเทคนิคของประธานในที่ประชุม ก็คงต้องทำความเข้าใจ ที่แจ้งหลักการและเหตุผล ทำให้ผ่านออกมา ถือว่าได้ผ่านระบบการคัดสรรอย่างครบถ้วนและคงเป็นเรื่องของการทำงานต่อไป ส่วนผู้ที่มีส่วนได้เสียตามรัฐธรรมนูญไม่ได้ห้าม เฉพาะมาตรา 78 และ 87 ที่จะร้องต่อคณะกรรมการคุ้มครองพิทักษ์คุณธรรม เพื่อให้ได้สิทธิ์ดังกล่าว ว่าตัวเองมีสิทธิ์อย่างไร

แต่ตนคิดว่าเรื่องดังกล่าว คงกลายเป็นคลื่นสงบไป และคิดว่าเรื่องการร้องเรียนคงจะต้องจบลง เพราะแต่ละคนมีวินัย จึงคิดว่าในเรื่องของการร้องเรียนก็คงต้องจบลง เพราะสิ้นสุดด้วยการแต่งตั้งเรียบร้อยแล้ว หลังจากนี้เป็นเรื่องของการแต่งตั้งระดับล่างลงมา ว่ากฎหมายฉบับนี้เกิดความเป็นธรรมจริงหรือไม่ ซึ่งอยากจะฝากไปยังผบ. ตร. ให้กระจายอำนาจการแต่งตั้งให้ครบถ้วน

โดยเฉพาะการแต่งตั้งในจังหวัดหรือกองบัญชาการต่างๆ ขอให้ทุกหน่วยมีสิทธิ์ที่จะเลือกคนของตัวเอง มาทำงานจะดีกว่าที่จะถูกสั่งหรือแบ่งปันยอด หรือโควต้าจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถ้าทำได้ถือเป็นเหตุผลที่ประชาชนจะได้รับประโยชน์ดังกล่าว จากการที่หน่วยงานของจังหวัดเอง หรือกองบัญชาการเอง ได้แต่งตั้งคนที่เห็นว่าเหมาะสมมากที่สุด

ส่วนเสียงวิพากษ์วิจารณ์สำหรับกรณีที่มีรายงานว่า ที่ผ่านมา พล.ต.อ.ต่อศักดิ์มีชื่อแคนดิเดตอันดับ 1 มาตลอด ในขณะที่มีกรณีของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร.เกิดขึ้นในช่วงนี้พอดี ดูเหมือนเป็นการเตะตัดขากันหรือไม่ พล.ต.ต.สุพิศาล กล่าวว่า ใครมีหน้าที่อะไรก็จะบอกคำตอบอย่างชัดเจนว่า ในหน้าที่ที่ผ่านงานมานั้น เกี่ยวกับอะไร ถึงจะมีความเร็วในการขึ้นสู่ตำแหน่งมากที่สุด เท่าที่มีในประวัติศาสตร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นั่นคือสิ่งที่จะเป็นคำตอบชัดเจน

เห็นมีการนำประวัติของพล.ต.อ.ต่อศักดิ์มานำเสนอมากไปหมด นั่นก็เป็นคำตอบ ตนคงไม่ตอบว่าอะไร แต่ก็ยินดีด้วยกับท่าน ส่วนอนาคตข้างหน้าท่านจะทำอย่างไร ให้สิ่งที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน คือสังคมที่ตำรวจกำลังว้าวุ่นในขณะนี้ โดยเฉพาะปัญหาของคดีที่เกิดขึ้นกับข้าราชการตำรวจ จะแก้ไขอย่างไร เพื่อไม่ให้ตำรวจ "เน่า" หรือเป็นที่ติฉินนินทาของประชาชนมากมาย ก็คงต้องบังคับใช้กฎหมายให้เป็นธรรมและมีคุณธรรมมากที่สุด และให้ความเป็นธรรมแก่ข้าราชการตำรวจ ที่มีอยู่ทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน

ส่วนจะมีคลื่นใต้น้ำหรือไม่ พล.ต.ต.สุพิศาล กล่าวว่า คิดว่าคลื่นใต้น้ำคงหมดไปแล้ว เพราะขนาดนายกรัฐมนตรียังถูกแรงกระแทก จนต้องออกมติแบบว่า ยอมที่จะทิ้งนาทีสุดท้าย เพื่อให้มีมตินี้ และลงไปเคลียร์ปัญหาด้วยตัวเอง ตนคิดว่าแม้กระทั่งนายกรัฐมนตรีเองก็เลือกผบ.ตร..คนนี้มา คิดว่าแรงกระแทกดังกล่าวคงไม่สะเทือน

เมื่อถามย้ำว่า ผบ.ตร.คนใหม่จะสามารถทำงานกับพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้หรือไม่ พล.ต.ต.สุพิศาล กล่าวว่า หลังจากนี้พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ต้องรอให้พ้นวินัย จากการสอบสวนกรณีที่ถูกกล่าวหาก่อน ซึ่งคงเป็นการสอบสวนที่เสร็จรวดเร็วภายใน 10 วัน เพราะมีก.ตร.2 คน เข้าไปสอบ ซึ่งตรงนั้นจะเป็นผลตามกฎหมายทางวินัยว่า จะสามารถโยกย้ายพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ออกจากตำแหน่งนี้หรือไม่ หรือถ้าไม่ได้ก็ต้องดำรงตำแหน่งรองผบ. ตร.ต่อไป แต่อาจจะถูกลดหน้าที่หรือบทบาทลง จากงานประจำคืองานสืบสวนสอบสวนที่ทำอยู่ และอาจจะถูกย้ายไปดูในงานอื่นหรือย้ายข้ามหน่วย ก็เป็นเรื่องของบุญพาวาสนาส่ง ซึ่งคาดว่าน่าจะโดนย้ายไปอยู่ในส่วนของจเรตำรวจ

ส่วนกรณีที่พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่าหากเปิดข้อมูลบางอย่างออกมาจะตายทั้งสตช.นั้น พล.ต.ต.สุพิศาล กล่าวว่า เป็นข้อมูลส่วนหนึ่งที่พล.ต.อ.สุรเชษฐ์มีและคิดว่ามีจริงๆ เพราะข้อมูลเหล่านี้เป็นข้อมูลที่ได้มาจากการทำงาน และพบว่า ข้าราชการตำรวจในองค์กรใครมีบทบาทไปเกี่ยวพันยุ่งเกี่ยวกับทุนสีเทา ยาเสพติด ค้ามนุษย์ หรือแรงงานข้ามชาติต่างๆ ซึ่งอาจจะเห็นภาพนี้เกี่ยวข้อง แม้กระทั่งเว็บการพนันที่ถูกโยงเข้าไปเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินหรือบัญชีม้าต่างๆ ซึ่งเชื่อว่ามีข้อมูลอยู่ในมือ แต่ไม่ได้ส่งเข้าไปในสำนวนสอบสวน แต่เป็นข้อมูลที่รับผิดชอบสืบสวนสอบสวนในอดีต ก็เหมือนกับที่บอกว่า "อย่ามาเล่นมากนะ มีไม้ตีกลับด้วย ถ้าขุดผม ผมก็ขุดคุณมีแค่นั้นล่ะครับ"

logoline