svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

ฟันธง! มติสส.เอกฉันท์ ชง "แพทองธาร" หัวหน้าพรรคเพื่อไทย

"ครูมานิตย์" เผย สส.เพื่อไทย มติเอกฉันท์หากเสนอชื่อ "แพทองธาร" เป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ เหตุคุณสมบัติครบถ้วน ชี้ ถ้าขับ "ปดิพัทธ์" ออก เท่ากับหมดความชอบธรรม

25 กันยายน 2566 ที่อาคารรัฐสภา นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม สส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงรายชื่อแคนดิเดตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ว่า ยังไม่เป็นที่ประจักษ์ แต่เท่าที่ฟังดู รวมถึงส่วนตัวแล้ว หากถามว่าใครเหมาะที่จะมาเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยที่สุด ก็ต้องขอต้องฟันธงเลยว่าเป็น น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย

เพราะด้วยประสบการณ์ทางการเมืองวันนี้ ที่มีความแข็งแกร่งทางการเมืองในระดับหนึ่งแล้ว อีกทั้งช่วงเลือกตั้งที่ผ่านมา ได้มีการเดินสายไปทั่วประเทศ และได้มีการสัมผัสกับผู้แทน คิดว่า น.ส.แพทองธาร ไม่เป็นรองใคร และในการประชุม สส. ของพรรคทุกวันอังคาร น.ส.แพทองธาร ได้เข้าร่วมพูดคุยพบปะและสอบถาม รวมถึงยังเป็นคนรุ่นใหม่ และมีสิ่งที่น่าจะได้เปรียบพรรคอื่นก็คือเป็นสุภาพสตรีที่จะมาทำงานการเมือง คิดว่าน่าจะพร้อมที่สุดในพรรคเพื่อไทยในขณะนี้
ฟันธง! มติสส.เอกฉันท์ ชง "แพทองธาร" หัวหน้าพรรคเพื่อไทย

ทั้งนี้ เท่าที่ฟังจากเสียง สส. ของพรรคเพื่อไทยส่วนใหญ่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน 100% หากมีการเสนอมาก็จะมีการโหวตเป็นเอกฉันท์แน่นอน ซึ่งไม่ใช่เฉพาะความเป็นชินวัตรอย่างเดียว แต่น.ส.แพทองธาร ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ามีความพร้อม ทั้งภูมิรู้ รวมถึงพื้นฐานทางการเมืองที่ได้ติดตามนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตั้งแต่ตอนที่ยังเป็นเด็ก สิ่งสำคัญคือน.ส.แพทองธาร เป็นคนที่มีจิตอาสา ไม่เคยรังเกียจพี่น้องประชาชน ไม่ว่าจะเป๊นคนจนหรือคนรวย เชื่อคุณสมบัติเพรียบพร้อมทุกอย่าง

ส่วนในสมัยที่ผ่านมามีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าหัวหน้าพรรคไม่ได้อยู่ในสภา มีความเป็นห่วง หรือไม่ว่าอาจจะเกิดข้อวิจารณ์เช่นนี้อีก นายครูมานิตย์ กล่าวว่า การวิจารณ์ทางการเมืองแล้วแต่มุมมองของคนที่จะวิจารณ์ ทุกเรื่องในทางการเมืองมีแต่บวกกับลบ อยู่ที่มุมมองของแต่ละคน บางครั้งการเป็นหัวหน้าพรรคแล้วมาเป็น สส. ก็ไม่ได้ช่วยอะไรได้มาก หากเป็นหัวหน้าพรรคที่ไม่ได้พร้อมด้วยหลายเรื่อง ตนมองว่าไม่จำเป็น ซึ่งพรรคการเมืองหนึ่ง คนที่เป็นรองหัวหน้าพรรค ก็ไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรค
ฟันธง! มติสส.เอกฉันท์ ชง "แพทองธาร" หัวหน้าพรรคเพื่อไทย

พร้อมกันนี้ นายครูมานิตย์ กล่าวถึงกรณีของนายชัยธวัช ตุลาธน ที่ขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคก้าวไกล ว่า ไม่ต้องคาดว่าจะจะได้เป็นผู้นำฝ่ายค้านหรือไม่ เขาเป็นผู้นำฝ่ายค้านแน่นอน และคงจะได้รับโปรดเกล้าฯ เร็ว ๆ นี้ เพราะนี่เป็นสาระสำคัญที่เขาประชุม และให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ลาออกไปเป็นประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล

แต่เรื่องที่เราต้องจับตามองต่อไปคือ รองประธานสภาคนที่ 1 หรือนายปดิพัทธ์ สันติภาดา ว่าหลังจากที่กลับมาจากสิงคโปร์แล้ว พรรคจะดำเนินการอย่างไร จะกลับมานั่งเป็นรองประธานสภาคนที่ 1 ต่อ หรือให้ลาออก แต่อย่างไรก็ตาม หากเขาไม่ไปอยู่พรรคอื่น เขาก็ขาดคุณสมบัติ เพราะไม่สามารถแต่งตั้งนายชัยธวัชได้ ขอให้เป็นการตัดสินใจของพรรคแล้วกัน ซึ่งนายปดิพัทธ์ต้องลาออกก่อน เพราะขัดรัฐธรรมนูญ ซึ่งเขาคงจะตัดสินใจกันในสัปดาห์นี้ โดยหากจะเอาตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้าน ต้องไม่มีตำแหน่งผู้นำสภา

"ส่วนนายชัยธวัช ผมว่าเขาก็เป็นคนที่มีบุคลิกดี เหมาะที่จะเป็นหัวหน้าพรรคก้าวไกลในวันนี้ ก็ดีใจด้วย เพราะเป็นคนที่มีความรู้ และเป็นผู้ที่ทำงานเบื้องหลังความสำเร็จของพรรคก้าวไกลมายาวนาน ก็เห็นด้วยประการทั้งสิ้น สำหรับน.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล อาจจะเป็นสุภาพสตรี จึงอยากจะให้นายชัยธวัชที่มีความแข็งแกร่ง ที่จะทำงานเป็นผู้นำฝ่ายค้าน และผู้นำฝ่ายค้านก็มีหน้าที่หลายเรื่อง" นายครูมานิตย์ กล่าว

ทั้งนี้ หากมีการขับนายปดิพัทธ์ออกไปอยู่พรรคอื่น อาจจะเกิดข้อร้องเรียนในสภา ให้มีการตรวจสอบหรือไม่ นายครูมานิตย์ กล่าวว่า อาจจะไม่มีข้อร้องเรียน แต่เขาเลี่ยงบาลีเรื่องความชอบธรรมได้ การขับออกจะด้วยประเด็นอะไร เพราะสมัยที่แล้วคนที่ถูกขับออกก็มีวลีเกิดขึ้นว่า เป็น "งูเห่า" "งูจงอาง" แล้วนายปดิพัทธ์ จะเป็นงูอะไร แต่ถามว่าเขาผิดกฎหมายหรือไม่ เขาไม่ได้ผิด แล้วจะใช้ข้อกล่าวหาอะไรที่จะขับ ต้องมีข้อกล่าวหาที่สังคมรับได้ เพราะคุณบอกว่าคุณเป็นพรรคการเมืองแนวใหม่ แต่พวกตนมันคนเก่าคนแก่ คุณจะนำเสนอสิ่งใหม่ ๆ แต่ออกมาแบบนี้จะชอบธรรมหรือ