21 กันยายน 2566 นายชัยธวัช ตุลาธน รักษาการเลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวภายหลังประชุม ตัวแทนพรรคการเมืองเพื่อจัดสรรโควตาคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ว่า ในที่ประชุมกล่าวตามตรงว่า บรรยากาศไม่ค่อยดี พรรครัฐบาลบางส่วนเเทนที่จะยอมถอยคนละก้าว เขาก็ไม่ถอย เราพยายามเจรจาว่า อะไรที่มันทับซ้อนกันก็ควรที่จะคุยกันได้ เพื่อให้บรรยากาศเป็นไปด้วยดี เพื่อให้การตรวจสอบถ่วงดุลระหว่างรัฐบาลกับฝ่ายค้านเป็นไปได้ด้วย แต่ก็ไม่ได้เป็นไปตามนั้นทั้งหมด
เมื่อถามว่าคิ ดอย่างไรในเมื่อกรรมาธิการป.ป.ช. ไม่ได้อยู่ในฝั่งฝ่ายค้าน แต่ไปอยู่กับพรรคเพื่อไทย นายชัยธวัช กล่าวว่า ในความเป็นจริงแล้วควรจะเป็นประเพณีปฏิบัติได้แล้วในระบบรัฐสภา กรรมาธิการสำคัญๆที่เป็นการตรวจสอบฝ่ายบริหาร เช่น กมธ.ติดตามงบประมาณ และ กมธ.ป.ป.ช. เป็นต้น ควรจะเป็นของฝ่ายค้าน แต่ตอนนี้แน่นอนว่า กมธ.ติดตามงบประมาณเป็นของก้าวไกล
แต่คำถามคือ สังคมคาดหวังเรื่องของการตรวจสอบทุจริตคอรัปชันและการประพฤติมิชอบ ที่กลายเป็นของรัฐบาลก็คงคาดหวังได้ยาก แต่ตนก็เข้าใจเพราะหลายรัฐบาลที่ผ่านมา อย่างประธานกมธ. ป.ป.ช. ก็เป็นฝั่งที่รัฐบาลนั่ง ทั้งสมัยของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็เป็นเพื่อไทยนั่ง สมัยรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ พรรคประชาธิปัตย์ก็นั่ง แต่กลายเป็นว่า ในสมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังมีความใจกว้างมากกว่า ที่ให้ฝ่ายค้านได้มาดูกมธ.นี้ ซึ่งน่าเสียดายว่า รัฐบาลพลเรือนชุดแรก หลังรัฐประหาร ไม่ปล่อยพื้นที่ตรงนี้ให้ฝ่ายค้าน แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะยังมีอีกหลายกลไก ที่จะใช้ในการตรวจสอบ
เมื่อถามว่าในที่ประชุมวันนี้(21 ก.ย.) เหมือนทำให้ก้าวไกลต้องถอย ทั้งในส่วนของกมธ.ป.ป.ช, กมธ.กระจายอำนาจและกมธ.แรงงาน นายชัยธวัช กล่าวว่า เรื่องการกระจายอำนาจและแรงงาน ก็ถือว่าเป็นนโยบาย ที่พรรคก้าวไกลให้ความสำคัญ แต่กลายเป็นความต้องการที่ซ้อนทับกับพรรคภูมิใจไทย ซึ่งในความเป็นจริงได้มีการพูดคุยกันมาหลายวันแล้ว ว่าถอยคนละก้าวได้ไหม โดยเลือกคนละหนึ่งคณะ แต่น่าเสียดายที่ทางแกนนำพรรคภูมิใจไทยไม่ยอมถอย
ส่วนเหตุผลที่ทางพรรคก้าวไกล ต้องยอมนั้น เพราะสุดท้ายก็ต้องเดินหน้า เพื่อให้การทำงานของกมธ.เริ่มต้นขึ้นได้ ทั้งนี้ ด้วยข้อจำกัดและบรรยากาศ ทางการเมืองในตอนนี้ก็ต้องทำทุกสิ่งให้ดีที่สุด จากนี้ ก็จะเป็นการคุยกันในรายละเอียดของ 11 คณะที่ได้มา
เมื่อถามว่า พูดได้หรือยังว่าวันนี้(21 ก.ย.) ถูกรุมกินโต๊ะ นายชัยธวัช กล่าวว่า "เราอย่าไปว่าอย่างนั้นเลย ต้องเข้าใจสถานการณ์ที่เป็นจริง"
เมื่อถามว่า เสียใจและผิดหวังหรือไม่ ดูสีหน้าเครียดๆ นายชัยธวัช ปฏิเสธว่า ไม่เสียใจเพราะเข้าใจความเป็นจริงทางการเมือง บรรยากาศการเริ่มต้นสภาฯชุดนี้ควรจะดีกว่านี้ได้ กติกาอะไรที่เคยเป็นประเพณีปฏิบัติ ที่เคยตกลงกัน ในสภาฯชุดที่ผ่านๆมา ก็ควรยึดแบบนั้น ไม่ใช่มาดูว่า พรรคนี้เป็นพรรคอันดับ 1 ก็ไม่เอาแล้ว ตนคิดว่าการทำงานในสภาฯจะมีบรรยากาศที่ไม่ดี หากวันหนึ่งตนเป็นรัฐบาล เราก็ต้องการส่งเสริมว่า กลไกในการตรวจสอบ รวมถึงประเพณีในการเลือกกรรมการ แต่ตอนนี้กลายเป็นว่า พวกมากลากไป อย่างนี้จะทำงานลำบาก อย่างไรก็ตามเราจะทำงานให้เต็มที่
นายชัยธวัช กล่าวถึงความคืบหน้าในการจัดประชุมเลือกกรรมาการบริหารพรรคชุดใหม่ หลังมีชื่อของตนเองเป็น 1 ในแคนดิเดตหัวหน้าพรรค ว่า ความคืบหน้ายังไม่มีอะไร ซึ่งช่วงเช้าวันที่ 23 กันยายน จะเป็นการประชุมวิสามัญ คาดว่าน่าจะจบในช่วงบ่าย และต้องรอผลอย่างเป็นทางการ ยอมรับว่าตนเป็นหนึ่งในแคนดิเดตหัวหน้าพรรค แต่ข้อยุติจริงๆก็คงจะเป็นวันที่ 23 กันยายน ต้องรอการโหวตอย่างเป็นทางการ
เมื่อถามถึง ความคืบหน้าในการตรวจสอบกรณี นางอมรัตน์ โชคมิตรกุล คณะทำงานของรองประธานสภาคนที่ 1 หลังมีประเด็นเรื่องการคุกคามหญิงสาวที่สนับสนุนพรรคเพื่อไทย ว่า นางอมรัตน์ ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร ที่มาที่ไปเป็นอย่างไร ตนก็เข้าใจเจตนา แต่ก็ต้องยอมรับว่า เจตนา นางอมรัตน์ ไม่ได้ต้องการที่จะไปคุกคาม แต่การแสดงออกไม่เหมาะสม นางอมรรัตน์ ได้แจ้งมายังตนเพื่อแสดงความรับผิดชอบ และมีความประสงค์ที่จะให้พรรคตัดสิทธิ์ ที่จะดำรงตำแหน่งกรรมการบริหารในอนาคต