15 กันยายน 2566 มีรายงานว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้เปิดเผยกับ สำนักข่าวสแตนด์ดาร์ด ว่า มีแนวความคิดที่จะมาพักค้างคืนที่ทำงาน แต่ไม่ใช่ที่ บ้านพิษณุโลก แต่เป็น บ้านนรสิงห์ หรือทำเนียบรัฐบาล สถานที่ทำงานของนายกรัฐมนตรี โดยจะขออยู่ที่นี่เลย
นายเศรษฐา ให้เหตุผลแนวคิดการมาค้างแรมที่บ้านนรสิงห์ว่า ไม่ใช่เป็นการสร้างภาพ แต่เนื่องจากบ้านพักตน อยู่ใจกลางเมือง มีเนื้อที่แค่ 200 ตารางวา เมื่อออกจากบ้าน มายังทำเนียบรัฐบาล อาจทำให้ประชาชนเดือดร้อน จากปัญหาการจราจร จึงคิดว่า น่าจะนอนค้างที่ทำเนียบรัฐบาลเลย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่ นายเศรษฐา จะเข้ามาปฏิบัติงานในทำเนียบฯ เคยมีกระแสข่าวออกมาก่อนหน้านี้แล้วว่า ต้องการหาสถานที่ ภายในทำเนียบรัฐบาล เพื่อทำเป็นห้องส่วนตัว ในการพักผ่อน จนมีการวิพากษ์วิจารณ์ต่าง ๆ นานา ว่า คล้ายกับผู้นำต่างประเทศ ที่ใช้ทำเนียบฯ เป็นบ้านพัก
ซึ่งกระแสข่าวดังกล่าว เกิดขึ้นพร้อมกับ การปรับปรุง ห้องผู้สื่อข่าว หรือ รังนกกระจอก 1 มาเป็นห้องประชุม สำหรับรองนายกฯ ซึ่งต่อมา นายเศรษฐา ชี้แจงว่า เป็นการมาตรวจดูและต้องการปรับปรุงห้องทำงานสื่อ ให้ดีขึ้นกว่าเดิมเท่านั้นเอง
อย่างไรก็ตาม ประเด็นการปรับปรุงห้องพัก ในทำเนียบฯ ยังไม่จบเพียงเท่านั้น แม้แต่ในการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 13 ก.ย. 66 ที่ผ่านมา "นายชัย ชัยวรงค์" โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังได้ออกมาแถลงภายหลังการประชุม ครม. ถึงข้อสั่งการนายกฯ
“ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรียังได้กำชับ และขอให้คณะรัฐมนตรี กำกับดูแลการใช้เงินนอกงบประมาณ ในการไปดูงานต่างๆ ให้มีความเหมาะสม และได้ขอให้ปรับลดขนาด ขบวนเดินทางของนายกรัฐมนตรี และผู้ติดตาม เพื่อให้มีผลกระทบกับประชาชน ในทุกท้องที่ให้น้อยที่สุดอีกด้วย”
แหล่งข่าวทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า นายกฯ ให้ความสำคัญมาก กับปัญหาขบวนรถติดตาม ที่ส่งผลกระทบต่อจราจร ไม่อยากให้สร้างความเดือดร้อน ให้กับพี่น้องประชาชน และนี่ก็เป็นอีกเหตุผล ที่ทำให้ท่านนายกฯ ต้องการลดผลกระทบ ด้วยการหาวิธีการ ใช้ทำเนียบฯ เป็นที่พักอาศัย และทำงานไปในคราวเดียวกันเลย
ทั้งนี้ นายเศรษฐา ยังให้สัมภาษณ์สำนักข่าวแสตนด์ดาร์ด ด้วยว่า “ผมเคยคุยกับ พล.อ.ประยุทธ์ วันที่มาพบท่านที่ทำเนียบฯ ท่านยังบอกว่า ระวังจะถูกหาว่า สร้างภาพ ท่านก็พาผมเดินชม ตึกต่าง ๆ ในทำเนียบฯ
"รูปที่บอกว่า ชี้นก ชมไม้ นั้น ท่านชี้ให้ดูตึกหนึ่งที่ผมาไม่คุ้น ยังจำชื่อไม่ได้ ว่า เดิมเป็นตึกเก่า แต่ท่านมาทำ SKIN และทำความสะอาด เพื่อให้มันเข้ากับอีกตึกหนึ่งที่ ผมก็จำชื่อไม่ได้ ยังไม่คุ้นชิน"
"ผมยืนยันว่า ผมจะทำงานหนัก ไม่แน่ว่า ผมจะมานอนอยู่ทำเนียบฯ ด้วยเพราะบ้านผมแค่ 200 ตารางวา อยู่ใจกลางเมือง กลัวประชาชนเดือดร้อน จากการจราจร ท่านบอกว่า เออดี!! แต่ก็ต้องระวังคนจะหาว่าสร้างภาพ แล้วก็พาผมเดินดูตึกต่างๆ"
รายงานข่าวแจ้งว่า ตึกที่ พล.อ.ประยุทธ์ พานายเศรษฐา เดินชม และนายเศรษฐา จำชื่อไม่ได้นั้นคือ “ตึกภักดีบดินทร์” เป็นอาคารรับรองหลังใหม่ สร้างขึ้นโดยดำริของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อเข้ามาเป็นนายกฯ สมัยแรก (พ.ศ.2557)
โดยใช้พื้นที่สนามหญ้าหลัง "ตึกไทยคู่ฟ้า" ที่ว่างอยู่ ดำเนินการปรับปรุงก่อสร้าง ออกแบบโดยกรมศิลปากร เพื่อให้เข้ากับรูปทรงอาคารเก่าต่าง ๆ ภายในทำเนียบรัฐบาล เพื่อเป็นการอนุรักษ์ ใช้เวลาสร้าง 1 ปี ด้วยงบ 137 ล้านบาท