"เศรษฐา"ตั้ง 9 ที่ปรึกษานายกฯ-"พิชิต ชื่นบาน"แม้หลุดโผ ครม. รวมอยู่ด้วย

15 กันยายน 2566 หลังจากที่ประเทศไทย ได้มีคณะรัฐมนตรี หรือ ครม. แบบเต็มตัว มาทำหน้าที่บริหารประเทศ ภายใต้การนำโดย "นายเศรษฐา ทวีสิน" นายกรัฐมนตรี คนที่ 30 

ล่าสุด ได้มีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 234/2566 เรื่องแต่งตั้งที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี

เพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดินและการขับเคลื่อนงานของรัฐบาลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 11 (6) แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534

นายรัฐมนตรีจึงแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิดังต่อไปนี้ เป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เพื่อทำหน้าที่ในการให้คำปรึกษา
และพิจารณาเสนอความเห็นหรือข้อเสนอแนะต่าง ๆ ตามที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย

1. นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ประธานที่ปรึกษา
2. นายเทวัญ ลิปตพัลลภ ที่ปรึกษา
3. นายพิชัย ชุณหวชิร ที่ปรึกษา
4. นายศุภนิจ จัยวัฒน์ ที่ปรึกษา
5. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ พิมล ศรีวิกรม์ ที่ปรึกษา
6. นายพิชิต ชื่นบาน ที่ปรึกษา
7. นายชลธิศ สุรัสวดี ที่ปรึกษา
8. นายชัย วัชรงค์ ที่ปรึกษา
9. นายสุรยุทธ ทวีกุลวัฒน์ ที่ปรึกษา
    

ให้ส่วนราชการสนับสนุนการดำเนินงานของที่ปรึกษาขอนายกรัฐมนตรีตามที่ได้รับการร้องขอ และให้สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี อำนวยความสะดวกในการปฏิบัติหน้าที่ของที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี สำหรับค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการที่จำเป็นต่อการปฏิบัติงาน ให้เป็นไปตามระเบียบของทางราชการ โดยให้เบิกจ่ายจากสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี

ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

สั่ง ณ วันที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2566 

(นายเศรษฐา ทวีสิน)

นายกรัฐมนตรี

ทำความรู้จัก 9 ที่ปรึกษาของนายกฯ แท้จริงไม่ใช่คนอื่นไกล

การเดินหน้าบริหารประเทศของ "เศรษฐา ทวีสิน" นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ดูจะเป็นการติดสปีดเพื่อหวังพลิกฟื้นสถานการณ์ในภาพรวมให้กลับมาดีดังเดิม 

โดยเฉพาะล่าสุดกับการแต่งตั้งทีมที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ทั้งหมด 9 คน และยิ่งเฉพาะรายชื่อบุคคลต่างๆ ที่ถูกแต่งตั้งขึ้นมา ก็ดูไม่ใช่ใครอื่นไกล เพราะเป็นทั้งคนใกล้ชิดในแวดวงธุรกิจ รวมทั้งเคยผ่านงานสำคัญทางการเมืองมาแล้ว เช่นกัน

เริ่มจาก "กิตติรัตน์ ณ ระนอง" ในฐานะเป็นประธานที่ปรึกษา เคยเป็นอดีต รมว. คลัง และพาณิชย์ ในรัฐบาล คุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็เข้ามาช่วยงานเศรษฐา ในงานเกี่ยวข้องกับด้านเศรษฐกิจ

ถัดมา "พิชิต ชื่นบาน" หัวหน้าทีมกฎหมายแห่งบ้านจันทร์ส่องหล้า ซึ่งก่อนหน้าเคยมีชื่อติดอยู่ใน โผ ครม. ชุดเศรษฐา ด้วยกันเช่นกัน ก่อนที่ต่อมาเจ้าตัวปฏิเสธไม่ขอรับตำแหน่งใดๆ เพราะก่อนหน้านี้เคยถูกเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องของคุณสมบัติ  

ต่อมา "ศุภนิจ จัยวัฒน์" ประธานกรรมการบริษัท อาโนส์ กรุ๊ป 2020 จำกัด ซึ่งถือเป็นเพื่อนสนิทที่สุดคนหนึ่งของคุณเศรษฐา มาตั้งแต่วัยเด็กจน กระทั่งมาเป็นนักธุรกิจ โดยคุณศุภนิจ ยังประกอบธุรกิจเกี่ยวกับโรงแรมสไตล์บูติก คือ โรงแรมสีลม ศิรีนทร์ โรงแรมโพธิ ศิรีนทร์ จ.เชียงใหม่ และโรงแรมบ้านบาหยัน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ 

ตามด้วย "พิชัย ชุณหวชิร" เคยเป็นอดีตกรรมการบริษัทในกิจการพลังงานหลายแห่งทั้งในไทยออยล์ บางจากปิโตเลียม และปตท. ช่วงระหว่างปี 2539-2552 อีกทั้ง เคยดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิใน ธปท. และเป็นหนึ่งในพยานปากเอก จำนวน 7 ปาก ในคดีโครงการทุจริตรับจำนำข้าวที่คุณยิ่งลักษณ์ ระบุว่า เป็นผู้มีความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ คุณวุฒิ เป็นที่ยอมรับของผู้ประกอบวิชาชีพทางด้านบัญชีและเป็นพยานบุคคลภายนอก มิได้มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ได้เสียสละยอมมาให้ปากคำเพื่อให้เกิดความเที่ยงธรรมในการวินิจฉัยของ ป.ป.ช. 

"ชลธิศ สุรัสวดี" อดีตอธิบดีกรมป่าไม้ หลานชาย คุณปลอดประสพ สุรัสวดี อดีตรองนายกฯ สมัยรัฐบาลคุณยิ่งลักษณ์ นอกจากนี้ ยังเคยดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง โด่งดังมาจากการตั้งทีมฉลามขาว ชุดเฉพาะกิจทวงคืนผืนป่าชายเลนจากนายทุนบุกรุกทำนากุ้งและปลูกสวนปาล์ม ซึ่งตั้งเป้าเอาคืน 3 แสนไร่กลับคืนมา ทว่า เมื่อ 30ต.ค.2560 รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ มีมติอนุมัติรับโอนคุณชลธิศ เป็นที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกฯ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ตามคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 16/2558

"เทวัญ ลิปตพัลลภ" หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า น้องชาย คุณสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรค โดยคุณเทวัญ เคยร่วมงานกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ

ขณะที่ "สุรยุทธ ทวีกุลวัฒน์" อดีตผู้อำนวยการใหญ่สายการเงิน บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) และมีรายชื่อ อยู่ใน สส.แบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 78 เป็นผู้ออกมาเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการยื่นฟ้องกรุงเทพมหานคร (กทม.) และบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด เมื่อ 23 พ.ย. 2565 เรียกร้องให้จ่ายค่าจ้างเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว หลังจากที่บริษัทยังไม่ได้รับชำระจาก กทม. ในมูลค่ารวม ราว 1.7 หมื่นล้านบาท 

"ผศ.พิมล ศรีวิกรม์" กรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์เพาเวอร์แห่งชาติ ประธานที่ปรึกษานโยบายด้านกีฬา พรรคเพื่อไทย เคยเป็นอดีตรองโฆษกและอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ซึ่งก้าวเข้าสู่การเมืองครั้งแรก ด้วยเป็นเลขาส่วนตัว ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกฯ และรมว.คลัง และการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ทำให้ถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี เนื่องจากเป็นกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย

ปิดท้ายด้วย "หมอชัย" หรือ "นายสัตวแพทย์ ชัย วัชรงค์" นอกจากจะถูกตั้งเป็นที่ปรึกษาแล้ว ก็ยังถูกแต่งตั้งเป็นโฆษกประจำสำนักนายกฯ เช่นกัน โดยหมอดชัย ถือเป็นนักวิชาการด้านการเกษตรสมัยใหม่ คณะกรรมการด้านเศรษฐกิจและการเกษตร พรรคเพื่อไทย เป้าหมายสำคัญคือเพื่อผลักดันนโยบายยกระดับภาคเกษตรก้าวหน้า