13 กันยายน 2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ได้มีมติดังนี้
1. จัดตั้งคณะกรรมการจัดงานพระราชพิธีเฉลิมพระเกียรติ ครบ 6 รอบ 72 พรรษา ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในปีหน้า เพื่อให้สมพระเกียรติและขอให้ประชาชนมีส่วนร่วม
2. แก้ไขปัญหาความเห็นต่างในรัฐธรรมนูญปี 2560 เห็นชอบให้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับผิดชอบแต่งตั้งคณะกรรมการศึกษาแนวทางการทำประชามติ โดยยึดตามแนวทางของศาลรัฐธรรมนูญเป็นสำคัญ โดยจะใช้เวทีรัฐสภาในการหารือรูปแบบแนวทางในการแก้ไขรัฐธรรมนูญและการทำประชามติเพื่อให้ประชาชนทุกภาคส่วนร่วมออกแบบกฎกติกาที่เป็นประชาธิปไตยร่วมกัน
3. เรื่องวีซ่าฟรีชั่วคราว ในการเดินทางเข้าประเทศไทย ของประเทศจีนและคาซัคสถาน ซึ่งคาซัคสถานอยู่ในยุโรปมีภาวะฤดูหนาวที่รุนแรง ซึ่งดูจากสถิติเป็นประเทศที่มีผู้อยากเดินทางเข้าประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยวีซ่าฟรีจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน ถึง 29 กุมภาพันธ์ 2567 เป็นการยกเว้นชั่วคราว หลังจากวานนี้ พูดคุยกันทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องทั้ง ททท. ฝ่ายความมั่นคง และการท่าอากาศยาน เพื่อให้แน่ใจว่าทุกภาคส่วนพร้อมรองรับ
4. ตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ soft power แห่งชาติ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายที่ได้หาเสียงไป และเป็นการดึงศักยภาพของประชาชนชาวไทย ออกมาเพื่อเสริมสร้างรายได้ เพิ่มโอกาสให้กับประชาชน
5. พักหนี้เกษตรกร และธุรกิจขนาดเล็ก ได้พักหนี้เป็นเวลาสามปี
6. กระแสเงินสดในกระเป๋าเป็นเรื่องสำคัญ รัฐบาลได้เปลี่ยนการจ่ายเงินข้าราชการจากเดือนละ 1 รอบ เป็นเดือนละ 2 รอบ ส่วนตัวรายละเอียดนั้นจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งหนึ่ง คาดว่าจะมีผลบังคับใช้วันที่ 1 มกราคม 2567
โดยต้องมีการแก้ไขระบบหลาย ๆ อย่าง จึงไม่สามารถดำเนินการเลยได้ เชื่อว่าเรื่องนี้จะเป็นการบรรเทาทุกข์ให้กับข้าราชการชั้นผู้น้อยได้มากพอสมควร ถ้ามีการจ่ายเงิน 2 รอบ จะได้ไม่ต้องกู้หนี้ยืมสิน ไม่ต้องรอคอยสิ้นเดือนก็จะมีเงินแบ่งจ่ายออกมา
7. ลดค่าไฟฟ้า จาก 4.45 บาท เหลือ 4.10 บาทต่อกิโลวัตต์ต่อชั่วโมง ซึ่งเป็นจำนวนที่เยอะกว่าที่ประชาชนได้คาดไว้ ซึ่งจะเริ่มในรอบบินเดือนกันยายนนี้เป็นต้นไป
8. ราคาน้ำมันดีเซล ลดให้ราคาต่ำกว่า 30 บาทต่อลิตร โดยจะเริ่มได้ในวันที่ 20 กันยายนนี้ ในส่วนของน้ำมันเบนซินได้มีการพูดคุยกัน แต่ต้องดูรายละเอียดให้ดีในกลุ่มผู้ที่เดือดร้อนจริง ๆ ซึ่งจะมีมาตรการตามมาภายหลัง