เปิดประวัติ "เศรษฐา ทวีสิน" นายกรัฐมนตรีคนที่ 30

ในที่สุดชื่อของ นายเศรษฐา ทวีสิน จากแคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย วันนี้ได้รับการโหวตจากที่ประชุมรัฐสภา ให้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 ของประเทศไทย ด้วยเสียงสนับสนุนจากทั้ง สส. และ สว. 

นายเศรษฐา โดดเด่นด้วยภาพลักษณ์ของการเป็นนักธุรกิจแถวหน้าที่ประสบความสำเร็จ มีภาพลักษณ์ทันสมัย กระทั่งก้าวเข้าสู่เส้นทางการเมือง ทีมข่าว เนชั่นออนไลน์ จะพาไปทำความรู้จัก ประวัติและเส้นทางชีวิตของ นายกฯคนใหม่

ประวัติเศรษฐา

นายเศรษฐา ทวีสิน ชื่อเล่น นิด เกิดวันที่ 15 ก.พ. 2505 ปัจจุบันอายุ 61 ปี เป็นบุตรคนเดียวของ ร.อ. อำนวย ทวีสิน กับ ชดช้อย จูตระกูล

ด้านการศึกษา สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทด้านการเงิน ที่มหาวิทยาลัยบัณฑิตศึกษาแคลร์มอนต์ รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐ

ชีวิตครอบครัว

นายเศรษฐา สมรสกับ "หมออ้อม" พญ.พักตร์พิไล ทวีสิน มีบุตร-ธิดาด้วยกัน 3 คน คือ "น้อบ" ณภัทร ทวีสิน, "แน้บ" วรัตม์ ทวีสิน และ "นุ้บ" ชนัญดา ทวีสิน

ชีวิตการทำงาน

หลังจบการศึกษาระดับปริญญาโท ในปี 2529 "เศรษฐา ทวีสิน" เข้าทำงานที่พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล เป็นเวลา 4 ปี  ต่อมาย้ายไปทำงานที่ บจก.แสนสำราญ ของอภิชาติ จูตระกูล ลูกพี่ลูกน้องของเขา ซึ่งหลังจากนั้นได้เปลี่ยนชื่อเป็น บมจ.แสนสิริ และนายเศรษฐาได้ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทดังกล่าว  

เส้นทางสู่การเมือง

ในเส้นทางสายธุรกิจ ชื่อของเขาถือว่าประสบความสำเร็จและเป็นที่รู้จักดี ก่อนที่ นายเศรษฐา จะเริ่มต้นสวมหมวกนักการเมืองในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2565 โดยเขาได้ประกาศว่าได้สมัครเป็นสมาชิกของพรรคเพื่อไทย ผ่านบัญชีทวิตเตอร์ส่วนตัวของเขา

เดือนมีนาคมปี 2566 พรรคเพื่อไทยแต่งตั้งเขาเป็นประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวของพรรค นั่นคือเป็นที่ปรึกษาให้กับแพทองธาร ชินวัตร หลังจากนั้นเขาได้ลาออกจากแสนสิริโดยไม่รับเงินเดือน พร้อมโอนหุ้นที่เคยถืออยู่ในบริษัทจำนวน 13 แห่ง ให้บุคคลอื่น รวมถึงชนัญดา บุตรคนเล็กของเขาอีกด้วย

หลังรับตำแหน่งในพรรคเพื่อไทยในเดือนมีนาคม เขาลงพื้นที่หาเสียงครั้งแรกที่ชุมชนคลองเตย และขึ้นเวทีปราศรัยครั้งแรกที่จังหวัดพิจิตร ปลายเดือนเดียวกันเขาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับความประสงค์เดินทางกลับประเทศไทยของนายทักษิณ ชินวัตร ระบุเป็นความต้องการของ นายทักษิณเอง ไม่เกี่ยวข้องกับพรรค

ต่อมาในวันที่ 1 เมษายน เขาทวีตข้อความคัดค้านระบบเกณฑ์ทหารโดยการบังคับ ก่อนหน้านั้นเขาได้แสดงหลักฐานการเกณฑ์ทหารของบุตรชายคนโตและคนกลาง เพื่อชี้แจงข้อกล่าวหาอันเกี่ยวกับทั้งสองคนดังกล่าว จากนั้นไม่กี่วันต่อมาพรรคได้เสนอเขาในบัญชีรายชื่อผู้สมควรดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พร้อมกับแพทองธาร ชินวัตร และชัยเกษม นิติสิริ กลางเดือนเดียวกันระหว่างการปราศรัยที่จังหวัดเลย เขากล่าวว่าพรรคเพื่อไทย จะไม่จับมือกับพรรคพลังประชารัฐ และรวมไทยสร้างชาติ ซึ่งมีส่วนร่วมในการรัฐประหาร

นโยบายทางการเมือง

หลังเป็นแคนดิเดตนายกฯ จากพรรคเพื่อไทย นายเศรษฐาได้ประกาศนโยบายต่างๆ ทั้ง กระเป๋าเงินดิจิทัล แจกเงิน 1 หมื่นบาท ให้กับคนไทยที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไปทุกคน ให้ใช้ภายใน 6 เดือน นำไปจับจ่ายใช้สอยในชุมชน รัศมี 4 กิโลเมตรนับจากที่อยู่ในบัตรประชาชน , ไม่ยอมรับกัญชาเสรี ยอมรับเพียงแต่กัญชาทางการแพทย์เท่านั้น เพื่อแก้ปัญหายาเสพติดที่เป็นปัญหาสำคัญของประเทศ และตอกย้ำจุดยืนของพรรคเพื่อไทยว่าไม่เอาเผด็จการ ไม่เอารัฐประหาร

แม้ในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนถึงวันโหวตนายกฯ จะถูกมรสุมหนัก ทั้งขุดและแฉ โดยเฉพาะปมจริยธรรมทำธุรกิจ แต่ในที่สุด วันที่ 22 สิงหาคม 2566  เขาได้รับการโหวตจากที่ประชุมรัฐสภา เห็นชอบจากรัฐสภา ด้วยเสียง 482 เสียง จากสมาชิกรัฐสภาที่เข้าร่วมประชุม 728 คน  ให้เขาเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30