"ศักดิ์สยาม" ไม่กังวล "ศาลรธน." เดินหน้าไต่สวน ปมซุกหุ้น "บุรีเจริญฯ"

16 สิงหาคม 2566 ที่รัฐสภา นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ในฐานะอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงความคืบหน้ากรณี ความเป็นรัฐมนตรีของ นายศักดิ์สยาม สิ้นสุดลงเนื่องจากเป็นผู้ถือหุ้นห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น ซึ่งผลการวินิจฉัยล่าสุดวันนี้(16 ส.ค.) ศาลรัฐธรรมนูญ ระบุว่า กำลังอภิปรายเพื่อนำไปสู่การวินิจฉัยว่า เชื่อมั่นว่าหลักฐานครบ ก็ต้องรอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำนิจฉัยออกมา ตอนนี้ไม่ต้องชี้แจงอะไรเพิ่มแล้ว เพราะชี้แจงไปหมดแล้ว ตั้งแต่การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งที่ผ่านมา ไม่ได้มีความกังวลกับตำแหน่งรัฐมนตรี พร้อมน้อมรับคำวินิจฉัย และมั่นใจในหลักฐานที่ได้ชี้แจงไป เพียงแต่อาจจะไม่ได้เป็นข่าว เพราะเชื่อว่าคำวินิจฉัยที่ออกมาจะมีความเป็นธรรม

เมื่อถามว่า เรื่องนี้จะกระทบการแบ่งเก้าอี้รัฐมนตรีในการจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ นายศักดิ์สยาม หัวเราะก่อนกล่าวว่า ไม่กระทบ เพราะไม่เกี่ยวกัน ต้องรอคำวินิจฉัย และพร้อมน้อมรับคำวินิจฉัย

เมื่อถามว่า ยังอยากกลับไปนั่งเก้าอี้กระทรวงคมนาคมต่อหรือไม่ นายศักดิ์สยาม หัวเราะอีกพร้อมกล่าวว่า รอคำวินิจฉัยศาลดีกว่า

ทั้งนี้ศาลรัฐธรรมนูญ ได้พิจารณาคำร้องที่ประธานสภาผู้แทนราษฎร ส่งให้วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคหนึ่ง (5) ประกอบมาตรา 187 หรือไม่ ตามที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจำนวน 54 คนยื่นคำร้องต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร

โดยคำร้องระบุว่า นายศักดิ์สยาม ยังคงไว้ซึ่งหุ้นส่วน และยังคงเป็นผู้ถือหุ้น และเจ้าของห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น ซึ่งจะทำให้ผู้ถูกร้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการหุ้นหรือกิจการของห้างหุ้นส่วน เป็นการกระทำต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญมาตรา 187 ประกอบพระราชบัญญัติการจัดการหุ้นส่วน และคุณสมบัติของรัฐมนตรี พ.ศ. 2543 มาตรา4 (1) อันเป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลงตามเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ

ทั้งนี้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาข้อเท็จจริงตามคำร้อง และเอกสารประกอบคำร้องแล้ว มีคำสั่งรับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัยและสั่งให้ผู้ถูกร้องหยุดปฎิบัติหน้าที่รัฐมนตรีตั้งแต่ วันที่ 3 มีนาคม 2566 จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย