svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"สว.สมชาย" ยกเคส สส.ระยองก้าวไกล ชี้ขยะใต้พรม จี้ กกต.เร่งสอยอย่ารอครบปี

"สว.สมชาย" ยกกรณี สส.ระยองก้าวไกลลาออก ชี้ขยะใต้พรม ถามเป็นความบกพร่องของพรรคหรือกกต. จี้เร่งสอยอย่ารอครบ 1 ปี ระวัง ม.157

30 กรกฎาคม 2566 นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา(สว.) โพสต์ข้อความระบุว่า ขยะใต้พรม สส.ก้าวไกลระยองลาออก ถูกแฉเคยติดคุก พรรคการเมืองหรือกกต.ขาดความรอบคอบ? เร่งรับรอง 500 สส. มีหลุดแบบนี้มากไหม กกต.ต้องเร่งสอย อย่ารอครบ 1 ปี ม.157

สมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา

ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)จ.ระยอง ได้เสนอเรื่องที่ นายนครชัย ขุนณรงค์ สส.ระยอง เขตการเลือกตั้งที่ 3 พรรคก้าวไกล เคยต้องคำพิพากษาจำคุก แต่ยังลงสมัครรับเลือกตั้ง ทั้งที่ขาดคุณสมบัติ และมีลักษณะต้องห้ามในการลงรับสมัครเลือกตั้ง จนได้รับการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมา

โดยคำร้องดังกล่าวได้ส่งถึง สำนักงาน กกต. ส่วนกลางเรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยอยู่ในขั้นตอนของการตรวจสอบ และรวบรวมพยานหลักฐาน และข้อมูลเพิ่มเติมของสำนักงาน กกต. ซึ่งไม่มีกำหนดกรอบเวลาการรวบรวมพยานหลักฐานข้อมูลเพิ่มเติม แต่หากดำเนินการตรวจสอบข้อมูล และพยานหลักฐานทั้งหมดเสร็จสิ้นแล้ว ก็จะพิจารณาต่อว่า เรื่องดังกล่าวมีมูลหรือไม่ ก่อนเสนอเรื่องให้คณะกรรมการกกต. พิจารณาเพื่อดำเนินการวินิจฉัยต่อไป

นครชัย ขุนณรงค์ อดีตสส.ระยอง เขต 3 พรรคก้าวไกล ที่ได้ประกาศลาออก หลังเกิดคดีฉาว

ขณะที่ วันเดียวกัน นายนครชัย ขุนณรงค์ หรือ ไอซ์ สส.ระยอง เขต 3 พรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความผ้านเฟซบุ๊กส่วนตัว ภายหลังเกิดกระแสวิพากวิจารณ์ หลัง "พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เตมียเวส" หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ออกมาเปิดเผยเรื่องขาดคุณสมบัติในการเป็นส.ส.หรือไม่ เนื่องจากเคยต้องคดี โดยมีเนื้อหาระบุว่า 

ตลอดสองวันที่ผ่านมา มีผู้สอบถามเข้ามามากมายว่าผมเคยติดคุกจริงหรือไม่ ผมขออภัยที่ไม่สามารถตอบได้อย่างทั่วถึง จึงขออนุญาตเรียบเรียงเรื่องทั้งหมดไว้ตรงนี้ เพื่อชี้แจงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

เหตุการณ์ที่ทำให้ผมต้องติดคุก เกิดขึ้นในวันที่ 6 ตุลาคม 2542 หรือ 24 ปีมาแล้ว ตอนนั้นผมอายุประมาณ 20 ปี กำลังวัยรุ่น วันนั้นผมสังสรรค์อยู่กับเพื่อนหลายคนในห้อง มีคนเดินเข้าออกไปมาเรื่อยๆ ผมสังเกตเห็นนาฬิกาผู้หญิงเรือนเล็กๆ เรือนหนึ่งวางอยู่บนโต๊ะในห้อง ถามว่าของใครก็ไม่มีใครตอบ เลยหยิบมาดูเล่นๆ

จากนั้นไม่นาน ตำรวจได้บุกเข้ามาในห้อง จับกุมผมและเพื่อนอีกคนหนึ่งที่สารภาพว่าเป็นผู้ขโมยนาฬิการาคาประมาณ 1,000 บาทเรือนนั้นมา ผมและเพื่อนถูกนำตัวไปโรงพัก ตำรวจให้เซ็นเอกสาร โดยบอกว่าเรื่องจะได้จบๆ ผมมาทราบทีหลังว่าเอกสารที่ผมได้เซ็นไป คือเอกสารยอมรับสารภาพ แม้ว่าเพื่อนผมจะให้การกับตำรวจไปแล้วว่าผมไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง

สุดท้าย ผมต้องโทษจำคุก 3 ปี และการรับสารภาพ ทำให้ได้ลดโทษกึ่งหนึ่ง เหลือจำคุก 1 ปี 6 เดือน ผมรับโทษตามนั้น และออกมาประกอบอาชีพสุจริตมาโดยตลอด จนกระทั่งตัดสินใจลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. เขต 3 ระยอง ในนามพรรคก้าวไกล ผมเชื่อว่าอดีตของผมไม่ทำให้ผมขาดคุณสมบัติ เพราะผมเชื่อว่าข้อหาของผมที่ทำให้ผมติดคุก ไม่ใช่ฐานความผิดที่บัญญัติไว้ตามรัฐธรรมนูญ

ผมขออภัยพี่น้องประชาชนทุกคนที่เลือกผมเข้ามาเป็น ส.ส. ผมขอน้อมรับคำวิจารณ์และกระบวนการทางกฎหมายที่จะตามมาหลังจากนี้ทั้งหมด และจะต่อสู้คดีอย่างถึงที่สุดเพื่อยืนยันว่า ผมไม่ได้จงใจสมัคร ส.ส. ทั้งที่รู้ว่าขาดคุณสมบัติ

อย่างไรก็ตาม เพื่อความสง่างามในการดำรงตำแหน่ง ส.ส. ผมขอแสดงความรับผิดชอบต่อประชาชนโดยการลาออกจากตำแหน่งในสัปดาห์หน้าครับ

อนึ่ง รัฐธรรมนูญ 2560 ส่วนที่ 2 สภาผู้แทนราษฎร

มาตรา 98 บัญญัตว่า บุคคลผู้มีลักษณะดังต่อไปนี้ เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร

(10) เคยต้องคําพิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระทําความผิดต่อตําแหน่งหน้าที่ราชการ หรือต่อตําแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม หรือกระทําความผิดตามกฎหมายว่าด้วยความผิดของพนักงาน ในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ หรือความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ที่กระทําโดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา ความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน กฎหมายว่าด้วยยาเสพติดในความผิด ฐานเป็นผู้ผลิต นําเข้า ส่งออก หรือผู้ค้า กฎหมายว่าด้วยการพนันในความผิดฐานเป็นเจ้ามือหรือเจ้าสํานัก กฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ หรือกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปราม การฟอกเงินในความผิดฐานฟอกเงิน

ขณะที่ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง สส. 2561 

มาตรา 151 บัญญัติว่า ผู้ใดรู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เนื่องจากขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ได้สมัครรับเลือกตั้งหรือทําหนังสือยินยอม ให้พรรคการเมืองเสนอรายชื่อ เพื่อสมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่ 1-10 ปี ปรับตั้งแต่ 20,000 - 200,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้น มีกําหนด 20 ปี

ในกรณีที่ผู้กระทําความผิดตามวรรคหนึ่ง เป็นผู้ซึ่งได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ให้ศาล มีคําสั่งให้ผู้นั้นคืนเงินประจําตําแหน่ง และประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นที่ได้รับมา เนื่องจากการดํารงตําแหน่งดังกล่าวให้แก่สํานักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรด้วย