
29 กรกฎาคม 2566 "นายอิทธิพร บุญประคอง" ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยว่า กรณี "นายนครชัย ขุนณรงค์" หรือ "ไอซ์ระยอง" สส. ระยอง เขต 3 พรรคก้าวไกล ขาดคุณสมบัติในการเป็น สส. เนื่องจากเคยต้องโทษจำคุกนั้น ถือเป็นลักษณะต้องห้ามในการสมัครรับเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (10)
ทั้งนี้ โดยอนุมาตราดังกล่าวมิได้มีกำหนดระยะเวลาการพ้นโทษไว้เหมือนใน มาตรา 98 (7) เนื่องจากกฎหมายกำหนดบทความผิดไว้เป็นการเฉพาะว่า ความผิดในฐานใดบ้างที่ต้องห้ามดำรงตำแหน่ง สส. ดังนั้น หากผู้สมัคร สส. เคยกระทำความผิดตามฐานความผิดที่ระบุไว้ จะถือเป็นลักษณะต้องห้ามการสมัครรับเลือกตั้ง สส.
"กรณีดังกล่าวหากเห็นว่าผู้สมัครรู้อยู่แล้วว่า ตนเองไม่มีสิทธิสมัคร แต่มาสมัครรับเลือกตั้งอาจเข้าข่ายต้องรับโทษทางอาญา ตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง สส. มาตรา 151 และอาจต้องรับผิดชอบในค่าใช้จ่ายในการจัดการเลือกตั้งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420" นายอิทธิพร กล่าว
อย่างไรก็ตาม การที่นายนครชัย ประกาศจะลาออกในสัปดาห์หน้าผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว จึงคาดว่าจะมีการยื่นหนังสือลาออกและมีผลในช่วงสัปดาห์หน้าเลย ซึ่งกรณีนี้ กกต.รับทราบเรื่องแล้ว และอยู่ในขั้นตอนที่ส่วนกลางกำลังพิจารณาจัดทำความเห็น เพื่อเสนอต่อ กกต.ต่อไป ซึ่งจะมีประเด็นเรื่องความผิดทางอาญา ตามพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง สส. มาตรา 151 รวมทั้งอาจมีการพิจารณาฟ้องคดีแพ่งเพื่อเรียกค่าเสียหายในการจัดเลือกตั้งใหม่ต่อไป
อนึ่ง รัฐธรรมนูญ 2560 ส่วนที่ 2 สภาผู้แทนราษฎร
มาตรา 98 บัญญัตว่า บุคคลผู้มีลักษณะดังต่อไปนี้ เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
(10) เคยต้องคําพิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระทําความผิดต่อตําแหน่งหน้าที่ราชการ หรือต่อตําแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม หรือกระทําความผิดตามกฎหมายว่าด้วยความผิดของพนักงาน ในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ หรือความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ที่กระทําโดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา ความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน กฎหมายว่าด้วยยาเสพติดในความผิด ฐานเป็นผู้ผลิต นําเข้า ส่งออก หรือผู้ค้า กฎหมายว่าด้วยการพนันในความผิดฐานเป็นเจ้ามือหรือเจ้าสํานัก กฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ หรือกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปราม การฟอกเงินในความผิดฐานฟอกเงิน
ขณะที่ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง สส. 2561
มาตรา 151 บัญญัติว่า ผู้ใดรู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เนื่องจากขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ได้สมัครรับเลือกตั้งหรือทําหนังสือยินยอม ให้พรรคการเมืองเสนอรายชื่อ เพื่อสมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่ 1-10 ปี ปรับตั้งแต่ 20,000 - 200,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้น มีกําหนด 20 ปี
ในกรณีที่ผู้กระทําความผิดตามวรรคหนึ่ง เป็นผู้ซึ่งได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ให้ศาล มีคําสั่งให้ผู้นั้นคืนเงินประจําตําแหน่ง และประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นที่ได้รับมา เนื่องจากการดํารงตําแหน่งดังกล่าวให้แก่สํานักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรด้วย