svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

อดีต ส.ส.ร. เดินหน้าฟัน สส.-สว. ช่วยกบฏอั้งยี่ซ่องโจร โอด "พิธา" ถูกใส่ร้าย112

24 กรกฎาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"เศวต" อดีต ส.ส.ร. เดินหน้าฟัน สส.-สว. ประพฤติตัวช่วยกบฏอั้งยี่ซ่องโจร เห็นใจ "พิธา" โดนใส่ร้ายป้ายสีปม ม.112 ด้วยวิชามาร ขู่กระชากหน้ากาก-จัดการสารตั้งต้นให้หมด ไม่ไว้หน้า "เพื่อไทย" หาเสียงปราศรัยหลอกลวงปชช.

25 กรกฎาคม 2566 นายเศวต ทินกูล อดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.)ปี 50 และอดีตแกนนำกลุ่ม ‘ไทยไม่ทน สามัคคีประชาชน เพื่อประเทศไทย’ กล่าวถึงการจัดตั้งรัฐบาลของ 8พรรคร่วม หลังนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ยอมส่งไม้ต่อให้พรรคเพื่อไทยเป็นหัวเรือดำเนินการต่อ โดยระบุว่า เหตุผลที่ออกมาเคลื่อนไหว เพราะต้องการให้เกิดความเสมอภาคทางการเมือง อยากให้ทุกพรรคการเมืองใช้อำนาจกฎหมายอย่างเท่าเทียม ไม่มีการกลั่นแกล้ง โดยในขณะนี้ประชาชนกำลังหวาดกลัว และไม่ชอบต่อความไม่เป็นธรรมที่เกิดขึ้นกับพรรคก้าวไกล

อดีต ส.ส.ร. เดินหน้าฟัน สส.-สว. ช่วยกบฏอั้งยี่ซ่องโจร โอด \"พิธา\" ถูกใส่ร้าย112

“ยืนยันว่าไม่มีบุคคลใดหรือพรรคการเมืองอยู่เบื้องหลังในการเคลื่อนไหวครั้งนี้ ตนมาด้วยใจยอมเดินทางมาจากต่างจังหวัด เสียค่าน้ำมันรถ ค่าโรงแรมที่พัก ด้วยเงินของตัวเองทั้งนั้น” นายเศวต ระบุ

นายเศวต กล่าวด้วยว่า สว.ที่มีบทบาทในการเลือกนายกฯ มาจากฝีมือของเผด็จการ หรือเรียกว่า ‘พญามาร’ โดยแต่ละคนไม่มีความรู้ด้านรัฐศาสตร์ การปกครองแม้แต่น้อย มาจากการใช้วิธีพวกมากลากไป จนได้เสวยสุขในยศตำแหน่ง ซึ่งตนมองว่าก็ทำได้แค่นั้น การแสดงออกของสว.ยังขาดหลักของกฎหมายที่ชอบธรรม จึงเป็นเหตุสมควรที่ตนต้องดำเนินคดีกับสว. สส.เหล่านี้

อดีต ส.ส.ร. เดินหน้าฟัน สส.-สว. ช่วยกบฏอั้งยี่ซ่องโจร โอด \"พิธา\" ถูกใส่ร้าย112


ส่วนกรณีของพรรคเพื่อไทยในการจัดตั้งรัฐบาล มองว่าก็มีสิทธิ์ที่จะทำ แต่ต้องไม่ลืมว่าเมื่อคราวที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ที่เคยหาเสียงไว้ ได้ปราศรัยหลอกลวงโฆษณาเกินจริงกับประชาชนว่าจะไม่จับมือกับฝ่ายเผด็จการ แต่ปัจจุบันเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ซึ่งตนมองว่าผิดกฎหมาย เมื่อใดที่ย้ายข้างแบบนี้ก็คือการโฆษณาเกินจริงโทษ คือโทษจำคุก และโดนยุบพรรค โดยสิ่งเหล่านี้ตนเคยเตือนไปแล้วว่าอย่าทำ

อดีต ส.ส.ร. เดินหน้าฟัน สส.-สว. ช่วยกบฏอั้งยี่ซ่องโจร โอด \"พิธา\" ถูกใส่ร้าย112

ซึ่งหลังจากนี้เมื่อได้พยานหลักฐานครบถ้วน ตนจะดำเนินการฟ้องร้องกับกกต.เพื่อเอาผิดแน่นอน กฎหมายมีสองด้านเสมอ ด้านทำผิดรัฐธรรมนูญโดยการฝ่าฝืน และป.ป.ช.จะต้องจัดการในปมทุจริตต่อหน้าที่

“อยากให้ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองคำนึงถึงประชาชน โดยธรรมคือความถูกต้องให้อยู่ในกรอบของกฎหมายของรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่เล่นการเมืองด้วยวิธีที่ทำอยู่ตอนนี้ ฝากไปถึงสว.ทั้งหลายที่ประพฤติตัวช่วยกบฏอั้งยี่ซ่องโจร เอาอำนาจอธิปไตยของประเทศไปทำโดยพลการ ไม่คำนึงถึงวิธีทางประชาธิปไตยที่ได้บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ เตือนว่าสิ่งที่ทำอยู่เข้าข่ายกบฏอั้งยี่ซ่องโจร หลักฐานตอนนี้ที่มีก็พวกไลน์หลุดแจกกล้วย ล็อบบี้สว. สส. อีกหลายคน ซึ่งผมกำลังรวบรวมหลักฐานอยู่” นายเศวต ระบุ 

อดีต ส.ส.ร. เดินหน้าฟัน สส.-สว. ช่วยกบฏอั้งยี่ซ่องโจร โอด \"พิธา\" ถูกใส่ร้าย112

นายเศวต กล่าวอีกว่า ตนสงสารนายพิธา ที่มาจากการเลือกตั้งอย่างชอบธรรม โดยไม่ได้ซื้อสิทธิ์ขายเสียง ตลอดจนโดนใส่ร้ายป้ายสีเรื่องแก้ไข-ยกเลิก มาตรา112 ด้วยวิชามารทั้งหลาย อีกทั้งยังโหนกระแสดึงฟ้าลงมาต่ำ ซึ่งการแก้ไขม.112 ส่วนตัวเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อสังคม และประเทศชาติโดยรวม ตนยังกาให้ก้าวไกลเลย ตนเห็นว่าถ้าจาบจ้วงจริงก็ไม่เอาด้วย สว. และ สส.เหล่านี้ ชอบโหน และพวกนี้แหละที่บ่อนทำลายชาติตัวจริง และฝากถึงสภาความมั่นคงแห่งชาติ พวกอั้งยี่ซ่องโจรตนจะกระชากหน้ากากและจัดการให้หมด

อดีต ส.ส.ร. เดินหน้าฟัน สส.-สว. ช่วยกบฏอั้งยี่ซ่องโจร โอด \"พิธา\" ถูกใส่ร้าย112

สำหรับนายเศวต เคยเป็นอดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.)ปี 50 และอดีตแกนนำกลุ่ม ‘ไทยไม่ทน สามัคคีประชาชน เพื่อประเทศไทย’ และยังเคยเป็น ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 จังหวัดนครพนม พรรคเพื่อชาติ โดยในปี 2562 เคยเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษในนามส่วนตัวต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช.กับพวก ต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาล หรือ สน.ประชาชื่น เพื่อดำเนินคดีอาญา กรณีเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ แต่รับการเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ

และในปี 2564 ในฐานะหนึ่งในแกนนำกลุ่ม ‘ไทยไม่ทน สามัคคีประชาชน เพื่อประเทศไทย’ ได้ยื่นหนังสือร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนกองปราบ และแจ้งจับ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยตั้งข้อหาฟ้องร้องเอาผิดในเรื่องการละเมิดประชาชนเรื่องต่าง ๆ เพื่อให้กองปราบปรามดำเนินการตามกฎหมาย โดยนายเศวต ได้อ้างถึงการออกประกาศ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน ของ พล.อ.ประยุทธ์ โดยระบุถึงความรุนแรงของสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 โดยอาศัยอำนาจตาม พ.ร.ก. ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548

ซึ่งกฎหมายฉบับนี้เป็นกฎหมายที่เกิดขึ้นตามความในมาตรา 218 ของรัฐธรรมนูญราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2540 และรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวได้สิ้นสุดลงแล้ว ดังนั้นการประกาศ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน ของ พล.อ.ประยุทธ์ จึงต้องสิ้นสุดลงไปด้วย และไม่มีอำนาจในการประกาศบังคับใช้ จึงเห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ และคณะรัฐมนตรีกระทำโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงมาร้องทุกข์ให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดี

นอกจากนี้ปีที่แล้ว นายเศวต ได้ร้องเรียนปมครอบครองที่ดินรุกป่าดงพะทาย จ.นครพนม โดยมิชอบด้วยกฏหมายของนายศุภชัย โพธิ์สุ หรือ ครูแก้ว หรือ สหายแสง ส.ส.นครพนม เขต 1 พรรคภูมิใจไทย รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่สอง และอดีตยังเคยดำรงตำแหน่ง รมช.เกษตรฯ เพราะอาจเข้าข่ายผิดกฎหมาย จริยธรรม ของคณะกรรมการจริยธรรม สภาผู้แทนราษฎร

กระทั่ง ล่าสุด 17 ก.ค. 2566 นายเศวต เข้าร้องเรียนต่อ ป.ป.ช.ประจำจังหวัดนครพนม โดยนำเอกสารหลักฐานเข้ายื่นต่อ นายสมพจน์ แพ่งประสิทธิ์ ผู้อำนวยการ สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดนครพนม และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง เพื่อกล่าวหาสมาชิกวุฒิสภา (สว.) จำนวน 43 คน ทุจริตต่อหน้าที่โดดประชุมสภา ในการประชุมรัฐสภาเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายต่อประเทศไทย และประชาชน โดยไม่มีเหตุอันควร และมิได้แจ้งเหตุของการขาดประชุมให้ประธานรัฐสภาทราบ

logoline