"ชลน่าน"เผยชงข้อสรุป 3 แนวทางขอเสียงร่วมโหวต"นายกฯ" เสนอที่ประชุม 8 พรรค
"เพื่อไทย" ชง 3 ประเด็น เสนอ 8 พรรคร่วม ปัดข้อเสนอ"ก้าวไกล" ยืดเวลา 10 เดือนค่อยโหวตนายกฯ เท่ากับส่งเสริม "ลุงตู่"อยู่ยาว แพลมก๊อกสอง พรรคไหนโหวตหนุนนายกฯ ครบ 375 เสียง ดึงร่วมรัฐบาลเป็นพรรคที่เก้า ยันไม่เอา"พรรคสองลุง"
"สมมติ สส.บวก สว.ได้ถึง 375 เสียง ทุกคนเลือกเลย เพื่อไทยก็มีหน้าที่เชิญพรรคที่จะโหวตสนับสนุนมาร่วมรัฐบาลบวกเป็น 9 พรรค สว.ที่จะโหวตก็เอาชื่อมาแสดงแจ้งให้ที่ประชุม 8 พรรคให้ทราบชัดเจน"
"นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว" หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดเผยเนชั่นทีวีออนไลน์ 24 กรกฎาคม 2566
24 กรกฎาคม 2566 "นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว" หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดเผย"เนชั่นทีวีออนไลน์" ถึงการจัดทำข้อสรุปผลการหารือพรรคการเมืองต่างๆและสมาชิกวุฒิสภา ในการขอเสียงสนับสนุนโหวตนายกฯคนต่อไป ซึ่งจะนำเสนอต่อที่ประชุม 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล ในวันอังคารที่ 25 กรกฎาคม เวลา 14.00 น.โดยได้เตรียมพร้อมไว้ทั้งหมดแล้ว 3 ทางเลือก
"โจทย์ที่พรรคเพื่อไทยรับมาจาก 8 พรรคในการทำหน้าที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลและเปิดเจรจาหารือพรรคการเมือง รวมถึงสมาชิกวุฒิสภา อาจยุ่งยากในทางปฏิบัติ แต่ได้ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา และได้ข้อสรุปเตรียมเสนอต่อที่ประชุม 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล ดังนี้
ข้อหนึ่ง 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลมีจำนวนเสียง 312 เสียง สามาถบวก สว.ได้กี่เสียงและไม่ได้กี่เสี่ยง
ข้อสอง 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลมีจำนวนเสียง 312 เสียง บวกสส.ได้กี่เสียง ได้กี่พรรค ที่จะสนับสนุนลงคะแนนเลือกนายกฯ
"ขอย้ำใช้คำว่าเลือกนายกฯ ไม่ใช่การนำมาร่วมรัฐบาล อย่าตีความเป็นเรื่องเดียวกัน บางครั้งการเลือกนายกฯกับการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล อาจเป็นเรื่องเดียวกันหรือคนละเรื่องเดียวกันก็ได้ เพราะบางพรรคอาจบอกว่า โหวตสนับสนุนแต่ไม่ได้ร่วมรัฐบาลก็มี ส่วนใหญ่เป็นพรรคที่มีจำนวนเสียงไม่มาก เพราะรู้อยู่แล้ว ร่วมไม่ได้ตำแหน่งอะไร เป็นการร่วมในทางพันธมิตรทางการเมือง" นพ.ชลน่าน กล่าว
"หัวหน้าพรรคเพื่อไทย" กล่าวว่า ได้นำสรุปเสนอต่อที่ประชุมพิจารณาว่าเมื่อคำตอบได้จากพรรคการเมือง สว. ตอบมาอย่างนี้ เป้าหมายคือ 375 เสียง ได้หรือไม่ได้ ถ้าได้ก็จบเลย ทุกคนเห็นพ้องต้องกัน
"สมมติ สส.บวก สว.ได้ถึง 375 เสียง ทุกคนเลือกเลย เพื่อไทยก็มีหน้าที่เชิญพรรคที่จะโหวตสนับสนุนมาร่วมรัฐบาลบวกเป็น 9 พรรค สว.ที่จะโหวตก็เอาชื่อมาแสดงแจ้งให้ที่ประชุม 8 พรรคให้ทราบชัดเจน"
ข้อสาม "นพ.ชลน่าน" เปิดเผยว่า กรณีไม่ได้เสียงตามที่ต้องการ สองทางนี้ ไม่ถึง 375 เสียง จะมีทางเลือกที่สาม หรือทางอื่นๆให้แต่ละพรรคช่วยกันเสนอ โดยเฉพาะ"พรรคก้าวไกล" มีข้อเสนออะไรหรือไม่ ขอให้นำเสนอต่อที่ประชุม เพื่อให้ได้ข้อสรุป
กรณีที่ไม่ได้เสียงสนับสนุนการโหวตนายกฯ เพราะทราบดีอยู่แล้วว่า แต่ละพรรคและสว.ติดปม "ก้าวไกล" ยังไม่ถอยเรื่อง "แก้ ม.112" ประเด็นนี้ "นพ.ชลน่าน" กล่าวยอมรับว่า อยู่ที่"ก้าวไกล"จะพิจารณา เพราะการจะลดเงื่อนไขหรือไม่ลดเงื่อนไขเป็นอำนาจหน้าที่ของก้าวไกล ที่ประชุมไม่สามารถบีบบังคับอะไรได้ เป็นนโยบายเฉพาะ
ทั้งนี้ "นพ.ชลน่าน" ยังอธิบายต่อไปว่า "ก้าวไกล" เคยแจ้งแล้วว่า ในเอ็มโอยู 8 พรรคร่วม ยอมถอยให้แล้ว ไม่มีจริงๆ พรรคก้าวไกล ถอนประเด็นนี้ ตั้งแต่เริ่มจัดทำเอ็มโอยูแล้ว จะให้ถอยอะไร ขณะนี้สิทธิการเสนอกฎหมายไม่ใช่ของพรรคแล้ว เป็นสิทธิของสมาชิกแล้ว จะไปห้ามสมาชิกเสนอกฎหมายด้วยหรือ ก็อาจเป็นคำถาม
"นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว" ยังได้ยืนยัน ด้วยการตบเข่าตนเอง เมื่อถามว่า เพื่อไทยยืนยัน การดึงพรรคเข้าร่วมรัฐบาลไม่จำเป็นต้องมี"พรรคของสองลุง"ใช่ไหม ว่า ขณะนี้ไม่ครับ (ดังเปรี๊ยะ) ในมุมผมขณะนี้ ต้องพยายามทำไม่ให้เกิดขึ้นให้ได้ ไม่ได้ห่วงตนเองว่าต้องลาออกไม่ใช่นะ แต่หลักการโดยรวม น่ามีปัญหา ไม่ว่าเรื่องของวิธีคิด อุดมการณ์ การทำงานกระแสต่อต้านต่างๆ
ถามย้ำ กรณีสองพรรคไม่มีลุงอยู่ก็ตามจะเอามาร่วมได้ไหม "นพ.ชลน่าน" ตอบว่า แม้ไม่มีลุงอยู่ก็ตาม ต้องถามว่ากระแสประชาชนส่วนใหญ่รับได้ไหม เพราะว่าตอนนี้ลุงไม่มีแล้ว ไม่เกี่ยวกับลุงแล้ว เขาก็บอกว่าพรรคที่ตั้งขึ้นมาสนับสนุนลุงอยู่ ถ้าตั้งเงื่อนไขไม่เอาด้วยก็เป็นประเด็นอยู่ ต้องดูเป็นจุดๆ ไป
"ค่อนข้างยากเนอะ เพราะเป็นโจทย์ที่ล็อกไว้เป็นหน้าที่เพื่อไทยพรรคแกนนำ และแปดพรรคร่วมช่วยกันแกะ เชื่อว่าทุกคนต้องการให้ประเทศ ประชาชนได้รับการแก้ไขปัญหา มีรัฐบาลเร็วที่สุด มีรัฐบาลรักษาการ ไม่เกิดประโยชน์ " นพ.ชลน่าน กล่าว
ส่วนกรณีที่มีข้อเสนอ"ก้าวไกล" ว่าให้อยู่กันไป 10 เดือน จนกว่าสว.พ้นสภาพไม่มีอำนาจในการโหวตเลือกนายกฯ ประเด็นนี้ "นพ.ชลน่าน" แสดงความไม่เห็นด้วยต่อข้อเสนอนี้ โดยตั้งคำถามว่า ระยะเวลา 10 เดือน เพื่อแลกการเมืองที่ดีในอนาคต ไม่มีอำนาจเผด็จการกดทับกดขี่ถ้าคิดมุมนั้น มุมเดียวอาจใช่ แต่มิติการเมืองไทยมีหลากหลายมิติมาก
แม้ว่า 10 เดือนรอไป ตั้งรัฐบาลจากประชาชนได้ 312 เสียงเป็นรัฐบาล เกิดบอกจะแก้รธน. สามปีก็แก้ไม่ได้ อะไรจะเกิดขึ้น เศรษฐกิจมาทรุดต่ำอีก ดีจริงหรือเปล่าไม่มีอะไรวัดได้ สุดท้ายกระแสกดดันอีก วุ่นวายอีก
" ถ้าสมมติยอมให้รัฐบาลประยุทธ์รักษาการยาวไปสิบเดือน ในแง่อุดมการณ์ความคิด ความต้องการบอกว่าต้องการเอา"พล.อ.ประยุทธ์" ออกไปเร็วที่สุด เหมือนกับส่งไม้ให้ประยุทธ์ทำงานต่อนะ กลับมาคิดดู ไหนบอกจะเอา"พล.อ.ประยุทธ์"ออก
"นพ.ชลน่าน" กล่าวว่า อำนาจรัฐบาลรักษาการมีหลายเรื่องมีข้อจำกัด แต่ถึงจุดหนึ่ง เขามีทางออกไว้ ถ้าจะทำก็ต้องทำตามที่กำหนดไว้ใน รธน. เช่นการแต่งตั้งโยกย้าย การจัดทำงบประมาณ ซึ่งมีทางออกแจ้งกกต.
ฉะนั้น การเป็นรัฐบาลรักษาการ ทำงานยาก สภาพติดขัด ไม่สะดวกการบริหารจัดการ แม้มีอำนาจใกล้เคียงปกติแต่พื้นฐานตาม รธน.กำหนดไว้หลายเรื่องทำไม่ได้ ฉะนั้นประสิทธิภาพ ความเชื่อมั่นมีปัญหาไปหมด ที่สำคัญ จะหวังได้น้ำบ่อหน้าที่ดีๆ ยอมกินน้ำขุ่นๆ ไปก่อน ไหนว่าไม่เอา"พล.อ.ประยุทธ์" เท่ากับส่งเสริม สนับสนุนลุงเต็มๆ ต้องพิจารณาตัดสินใจกันให้ดี