svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"กองทัพเรือ"โต้ CSI LA ยันจัดซื้อเป้าบินพิสัยไกลถูกต้องคุ้มงบประมาณ

"กองทัพเรือ"โต้เพจ CSI LA หลังเผยข้อมูลคลาดเคลื่อน ปมจัดซื้อเป้าบินพิสัยกลางแบบไอพ่น ยันรางปล่อยเดิมใช้กับของใหม่ได้ ส่วนบริษัทตัวแทนช่วงแต่งตั้งถูกต้องจากผู้แทนในประเทศไทย       

27 มิถุนายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณี เพจเฟซบุ๊ก CSI LA กล่าวอ้างว่ากองทัพเรือเอื้อประโยชน์บริษัทเอกชนในการจัดซื้อเป้าบินพิสัยกลางแบบไอพ่น ด้วยการแก้เอกสารสัญญาสั่งซื้อระบบเป้าบิน Phoenix ราคา 49.8 ล้านบาท โดยระบุว่า

"ที่บินไม่ได้ เพราะไม่ได้ซื้อรางส่งบินมาด้วย จากเดิมที่เคยเขียนว่าจะมีจ่ายเต็มหากได้รับมอบสินค้าแล้ว เป็นไปตรวจสอบของที่โรงงานโดยที่ไม่มีการทดสอบว่าบินได้หรือเปล่าก็ได้เงินแล้ว การซื้อระบบเป้าบินเจ็ตโดรนโดยซื้อรางส่งขึ้นบิน ไม่ต่างอะไรกับการซื้อจรวด โดยไม่ซื้อแท่นปล่อยจรวด พร้อมทั้งกล่าวหาว่าที่อ้างว่าประหยัดงบประมาณนั้น ก็เพียงแค่ซื้อตรงจากตัวแทนในประเทศไทยก็สามารถซื้อได้เต็มระบบแล้ว ทำไมต้องไปซื้อผ่านตัวแทนช่วง (ซาปั๊ว) ด้วย"

"กองทัพเรือ"โต้ CSI LA ยันจัดซื้อเป้าบินพิสัยไกลถูกต้องคุ้มงบประมาณ
 
 

ล่าสุด "พล.ร.อ.ปกครอง มนธาตุผลิน" โฆษกกองทัพเรือ ชี้แจงว่า ประเด็นไม่ซื้อรางปล่อย เนื่องจากต้องการซื้อผ่านตัวแทนนั้น เริ่มแรกของโครงการจัดซื้อเป้าบินพิสัยกลางแบบไอพ่น เป็นการจัดหาเป้าบินฯ 3 ระบบ พร้อมอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง โดยไม่ได้จัดหารางปล่อยใน TOR ตั้งแต่แรก เนื่องจากได้มีการสำรวจจากบริษัทต่างๆ ในขั้นตอนการสืบราคากลางก่อนเริ่มโครงการ

ทั้งนี้ โดยบริษัทต่างๆ แจ้งว่ารางปล่อยเดิมของกองทัพเรือที่มีใช้ราชการอยู่ สามารถใช้งานกับเป้าบินที่จะจัดหาใหม่ และสามารถใช้กับเป้าบินของเดิมที่ กองทัพเรือมีประจำการอยู่แล้วได้ เพียงแค่ปรับปรุงเล็กน้อย ซึ่งหากกองทัพเรือ จัดหารางปล่อยด้วย จะต้องใช้งบประมาณถึง 17 ล้านบาท หรือประมาณ 1 ใน 3 ของมูลค่าโครงการในภาพรวม เมื่อพิจารณาแล้วจึงไม่มีความจำเป็นต้องจัดหารางปล่อยใหม่ ถือเป็นการใช้จ่ายให้เกิดความคุ้มค่าสูงสุดในทรัพยากรที่ กองทัพเรือมีอยู่จริง 

พล.ร.อ.ปกครอง มนธาตุผลิน

 

ส่วนข้อกล่าวหาที่ว่าจากเดิมจ่ายเต็ม หากได้รับมอบสินค้าแล้ว เป็นไปตรวจสอบที่โรงงานผู้ผลิต ก็ได้เงินแล้วนั้น เรื่องนี้ก็ไม่เป็นความจริง เพราะขั้นตอนการตรวจรับที่โรงงาน (Factory Acceptance Test : FAT) เป็นขั้นตอนการตรวจสอบชิ้นส่วนการผลิต สายการผลิต และมาตรฐานการผลิตของโรงงาน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับกองทัพเรือ ว่าทางผู้ผลิตมีความพร้อม และมาตรฐานเพียงพอในการดำเนินการโครงการจนแล้วเสร็จ และกองทัพเรือจะได้รับประโยชน์สูงสุด แล้วจึงจ่ายเงินร้อยละ 35  

อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่เป็นการจ่ายเงินทั้งหมด ทั้งโครงการ ซึ่งการไปทำ FAT ณ โรงงานผู้ผลิตในครั้งนี้ นอกจากจะไปตรวจสอบมาตรฐานตามที่กล่าวมาแล้ว ทางผู้ผลิตยังได้แสดงสมุดประวัติการทดสอบบิน (Aircraft LOGBOOK) ซึ่งเป็นสมุดประวัติประจำเป้าบินในแต่ละลำที่แสดงเกี่ยวกับการทดสอบ ทดลองการทำงานของระบบต่างๆ ของเป้าบินในระดับโรงงานตามมาตรฐานสากลให้กับผู้แทนกองทัพเรือ (ผู้ช่วยทูตทหารเรือไทย) ได้ตรวจสอบด้วย 

สำหรับการจ่ายเงินงวดงานของการทำ FAT โดยผู้แทนของ กองทัพเรือ ณ โรงงานผู้ผลิตรายนี้นั้น ก็ไม่ได้จ่ายโดยทันทีหลังจากการดำเนินการ แต่กองทัพเรือได้จ่ายเงินในงวดการ FAT หลังจากที่เป้าบินทั้ง 3 ลำ พร้อมอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ถูกจัดส่งมาถึงประเทศไทย และผ่านการตรวจรับอุปกรณ์ตามรายการ และตรวจสอบสมุดประวัติการทดสอบบิน (Aircraft LOGBOOK) เรียบร้อยแล้ว

ขณะเดียวกัน ในส่วนขั้นตอนการบินทดสอบ เพื่อทำการบินจริง เป็นขั้นตอนงวดงานสุดท้าย หรือกระบวนการทำ Setting to work ที่กำหนดไว้ในสัญญา โดยบริษัทจะเข้าดำเนินการในห้วงเดือน ส.ค. 2566 

"จากการกล่าวอ้างว่า กองทัพเรือต้องการจัดซื้อผ่านตัวแทนผู้จำหน่ายที่ได้รับมอบอำนาจตัวแทนช่วง (ซาปั๊ว) ขอชี้แจงว่า กองทัพเรือได้มีการตรวจสอบเอกสารหลักฐานการแต่งตั้งตัวแทนแล้ว พบว่าบริษัทฯ ดังกล่าวได้รับการแต่งตั้งอย่างถูกต้องจากผู้แทนในประเทศไทย โดยทางบริษัทผู้ผลิตในต่างประเทศได้กำหนดเงื่อนไขให้บริษัทผู้แทนโดยถูกต้องในประเทศไทย สามารถแต่งตั้งช่วงได้ตามที่บริษัทผู้ผลิตในต่างประเทศกำหนดไว้" โฆษกกองทัพเรือ ระบุ

นอกจากนี้ โครงการดังกล่าวปัจจุบันอยู่ระหว่างส่งมอบงานงวดสุดท้าย ได้แก่ การทดสอบทดลองการบินจริง (Setting to Work) ซึ่งทางบริษัทผู้ผลิตแจ้งว่าจะส่งเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญการบินเป้าบินไอพ่นเข้ามาทดสอบทดลอง ด้วยการบินจริงร่วมกับเจ้าหน้าที่ของกองทัพเรือ ในห้วงเดือนส.ค. 2566 และหากทางบริษัทไม่สามารถส่งมอบงานได้ทันตามกำหนด กรมสรรพาวุธทหารเรือ จะดำเนินการตามระเบียบของทางราชการอย่างเคร่งครัด 
 
ทั้งนี้ ขอเน้นย้ำว่า ในการจัดหายุทโธปกรณ์ต่างๆของกองทัพเรือ จะคำนึงถึงการใช้งบประมาณให้เกิดความคุ้มค่าสูงสุด และสามารถตรวจสอบได้ เพื่อให้เกิดความโปร่งใสในกรณีดังกล่าว กองทัพเรือจะได้ดำเนินการแต่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามกระบวนการต่อไป