svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

วิถีการเมือง "หมอแคนอดิศร" ที่ "ด้อมส้ม" อาจยังไม่รู้

"ไม่อยากให้พระบวชใหม่ เป็นเจ้าอาวาส" ดั่งเสียงฟ้าฟาดเข้าไปในอกบรรดา “ด้อมส้ม” วลีดังกล่าวซัดออกมาจาก "อดิศร เพียงเกษ" ในปมตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร จนนักวิชาการสายส้มกล่าวถึงเขาว่าเป็น "นักเลงภูธร" เขาเป็นใคร มีวิถีทางการเมืองอย่างไร มาทำความรู้จักกัน

“อดิศร” เติบโตมาในช่วงประชาธิปไตยเบ่งบานปี 2516-2519 เป็นหนึ่งในนักศึกษาที่ได้ร่วมชุมนุมขับไล่พระถนอม (กิตติขจร) เมื่อกลางเดือนกันยายนถึงต้นเดือนตุลาคม พ.ศ.2519 อันเป็นชนวนสำคัญของเหตุการณ์ 6 ตุลา ที่เกิดการล้อมปราบนักศึกษาปัญญาชน จนต้องหนีเข้าป่า รวมถึง “สหายศร”และครอบครัว

กระทั่งปี 2524-2525 นักศึกษาเริ่มทยอยออกจากป่ากลับคืนสู่เมือง “ครอบครัวเพียงเกษ” ก็กลับคืนสู่บ้านที่ขอนแก่นเช่นกัน  ซึ่งก่อนเข้าป่า “ทองปักษ์ เพียงเกษ” พ่อของ “อดิศร” เป็น ส.ส.ขอนแก่น สังกัดพรรคแนวร่วมสังคมนิยม จึงไม่แปลกที่ลูกไม้จะหล่นใต้ต้น

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง

เฉลิมทำคลอด "หมอแคนอีสาน"

“อดิศร” ได้เข้าสู่เส้นทางถนนการเมือง ลงสมัคร ส.ส.ขอนแก่น สังกัดพรรคแรงงานประชาธิปไตย ปี 2526 แต่อดีต “คนเดือนตุลา” ยังไม่สามารถสร้างความไว้วางใจให้กับชาวบ้านได้ ก่อนจะย้ายไปอยู่พรรคสังคมประชาธิปไตย ก็ยังทำได้แค่เพียงเกาะรั้วมองสภาผู้ทรงเกียรติอยู่ด้านนอก

แต่ด้วยโชคชะตาที่ถูกลิขิตมาแล้ว ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง หัวหน้าพรรคมวลชน ได้ลงพื้นที่ไปช่วยพรรคฝ่ายค้านในขณะนั้นหาเสียง ช่วงปลายปี 2529 ซึ่งมีการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ขอนแก่น และได้พบกับ “อดิศร” จึงได้ชักชวนให้มาอยู่ใต้ชายคาพรรคมวลชน โดย “สหายศร” บอกกับเพื่อนคนเดือนตุลาว่า “ขออยู่พรรคเล็กๆ แบบพรรคมวลชนดีกว่า ไม่ต้องไปต่อแถวผู้อาวุโสที่พรรคเก่าแก่”

แล้วดาวสภาก็เจิดจรัสอีกดวง เมื่อการเลือกตั้ง ส.ส.ขอนแก่น ปี 2531 “อดิศร” สวมเสื้อพรรคมวลชนลงชิงชัย ด้วยแรงผลักดันอย่างเต็มกำลังของ ร.ต.อ.เฉลิม จนได้เป็น ส.ส.สมัยแรก เดินเข้าสู่สภาผู้ทรงเกียรติอย่างสง่างาม

“มหาจำลอง” มอบเก้าอี้เสนาบดีแรก

ในปี 34 วัฏจักรการเมืองไทยกับทหารก็วนกลับมาอีกครั้ง เมื่อเกิดการรัฐประหาร จากคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (รสช.) สมัย พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ เป็นนายกรัฐมนตรี ก่อนจะลุกลามไปถึงพฤษภาทมิฬ ปี 35 ซึ่งก่อนหน้านั้น ร.ต.อ.เฉลิมและครอบครัวต้องปลีกตัวออกนอกประเทศไปอยู่เดนมาร์ก เมื่อกลับเมืองไทย ได้นำพรรคมวลชนลงสู่สนามเลือกตั้ง 2535/1 แบบรักษาหน้า

พล.ต.จำลอง ศรีเมือง

แต่คราวนี้ “สหายศร” สอบตก แต่ต่อมาในปีเดียวกัน กลับมาสอบเลื่อนชั้นได้พร้อมเกียรตินิยม อันดับ 1 เมื่อย้ายไปใส่เสื้อม่อฮ่อมกับ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง พรรคพลังธรรม “อดิศร” กวาด ส.ส.ขอนแก่น ยกเขต 3 คน ขึ้นเป็นเสนาบดีครั้งแรกในตำแหน่ง รมช.ศึกษาฯ

แต่ดูเหมือนชะตาชีวิตของเขา จะเป็นศิลปินทางการเมือง เพราะโบยบินย้ายสังกัดพรรคไปเรื่อย โดยปี 2538 ไปอยู่พรรคนำไทย ถัดไปในปี 2539 ไปอยู่พรรคความหวังใหม่ และได้นั่งเก้าอี้เสนาบดีอีกครั้งในตำแหน่ง รมช.วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีฯ

ขวัญใจ “ทักษิณ”

กระทั่งปี 2548 “อดิศร” รับบทดาวไฮด์ปาร์คของพรรคไทยรักไทย “ถือแคน” ท่องปราศรัยทั่วประเทศ จนได้เป็นรัฐบาล ผลงานโดนใจ “ทักษิณ” เป็นยิ่งนัก คล้องมาลัย รมช.คมนาคม และรมช.เกษตรและสหกรณ์ เป็นรางวัลให้ตามลำดับ

วิถีการเมือง "หมอแคนอดิศร" ที่ "ด้อมส้ม" อาจยังไม่รู้

เว้นวรรคการเมือง 17 ปี

แต่เส้นบางๆของการเมืองกับทหารก็สะบั้นอีกครั้ง ในคืน วันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2549 โดยคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข นำโดยพล.อ. สนธิ บุญยรัตกลิน เป็นหัวหน้าคณะ โค่น “รัฐบาลทักษิณ” ลง และ “หมอแคนอีสาน” ต้องเว้นวรรคการทำหน้าที่ ส.ส.ไปนานถึง 17 ปี ถึงได้กลับเข้าสภาฯอีกครั้ง ในฐานะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย

แต่ยังไม่ทันได้เข้า “สัปปายะสภาสถาน” ก็โชว์ความแก่พรรษาให้พระบวชใหม่ ได้เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันกันเสียแล้ว สภาฯผู้ทรงเกียรติในยุคนี้คงกลับมาครื้นเครง เป็นที่สมอารมณ์หมายของคอการเมืองแน่แท้ เมื่อดาวหลายดวงได้ตกลงมาอีกครั้ง

แต่การเมืองในขณะนี้ต้องดูกันวันต่อวัน เวลาเปลี่ยนคนเปลี่ยน ความไม่แน่นอน ยังแน่นอนเสมอ “ด้อมส้ม” ต้องเผื่อใจไว้กันไว้บ้าง

สำหรับประวัติการศึกษา

  • ประถมศึกษาปีที่ 1-2 ที่โรงเรียนหลักเมือง จ.มหาสารคาม
  • ประถมศึกษาปีที่ 3-4 ที่โรงเรียนบ้านขามเฒ่า (ขามเฒ่าผดุงศิลป์)
  • ประถมปีที่ 5-7 ที่โรงเรียนมาตุภูมิอนุสรณ์
  • มัธยมศึกษาตอนต้น ที่โรงเรียนบำรุงไทย 1, โรงเรียนสงเคราะห์นิยมวิทยา และโรงเรียนขอนแก่นวิทยายน จ.ขอนแก่น แล้วจบการศึกษามัธยมศึกษาตอนปลาย ที่โรงเรียนเทพศิรินทร์ รุ่น 10-12 (DSA84) เลขประจำตัวนักเรียน ท.ศ.11260
  • ปริญญาตรี คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
  • ปริญญาโท คณะพุทธศาสตร์ (พระพุทธศาสนา) มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
  • ปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยมคธ ประเทศอินเดีย, ปริญญาเอกกิตติมศักดิ์ศิลปศาสตรดุษฏีบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยราชภัฏเลย
  • ประกาศนียบัตรชั้นสูง หลักสูตรการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตย สำหรับนักบริหารระดับสูง (ปปร.1) จากสถาบันพระปกเกล้า