11 มิถุนายน 2566 นาย “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หลังจากผลคะแนนเลือกตั้งปรากฏออกมาว่า พรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี จะตกเป็นของเขาและพรรคเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล หลังจากนั้น ตัวนาย “พิธา”และพรรค เหมือนตกอยู่ในวิบากกรรม และส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นจากตัวเองหรือพรรคกระทำ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของหุ้นไอทีวี เรื่องสนับสนุนแบ่งแยกดินแดน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่นาย “พิธา” ก็ได้ออกมาปฏิเสธแล้วว่า ไม่มีคนของพรรคเข้าไปได้ยุ่งเกี่ยว
แต่ถึงกระนั้น นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย และอดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Paisal Puechmongkol ที่ยังคงมีความเชื่อมั่นว่า นาย “พิธา” จะรอดและฝ่าด่านวิบากกรรมไปได้ โดยระบุว่า “ยักตื้นติดกึก ยักลึกติดกัก” ผู้ก่อการรัฐประหารโดยไสยศาสตร์ทางกฎหมายเริ่มผวา หลายแผนล่ม
แผนยื่นศาลรัฐธรรมนูญ สอย “พิธา” ก่อนเข้าสภา พร้อมกับผู้สมัครอีก 100 กว่าคน ที่วาง Road Map ไว้แต่ต้น ล่มแล้ว เพราะกลายเป็นว่า ก่อนเข้าสภา ต้องร้องต่อศาลฎีกา ซึ่งศาลวางบรรทัดฐานไว้แล้วว่า ถ้าถือหุ้นน้อยก็ไม่ผิด จึงเหมือนผี ชะงักหน้าโบสถ์เดินเข้าไปไม่ได้
มีการปรับแผน เป็นเตรียมดำเนินคดีอาญา ตามมาตรา 151 ซึ่งมีโทษสถานหนัก แต่จะไปไม่ตลอดรอดฝั่ง เพราะแผนนี้ต้องมีคำชี้ขาดก่อน ว่า “พิธา” ไม่มีคุณสมบัติในการสมัครรับเลือกตั้ง และ “พิธา” ต้องรู้ว่าไม่มีคุณสมบัติ แต่ดันทุรัง ไปสมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งการวินิจฉัยนี้ต้องอาศัยอำนาจศาลฎีกา แต่เมื่อ 3 คำร้องถูกตีตก และศาลสูงสุดก็เคยตัดสินไว้ก่อนแล้วว่า itv เลิกทำธุรกิจสื่อไปแล้ว ก็ไม่มีทางที่จะดำเนินคดีนี้ได้
การปรับแผนล่าสุดคือ จะรับรอง “พิธา” เข้าสภาก่อน ซึ่งจะทำให้คดีอยู่ในอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ
แต่ทำท่าว่าจะเดินหน้าไม่ได้เหมือนกัน เพราะ
เพราะอาจมีปัญหาว่า ทำไมการสอย “พิธา” จึงไม่กล้าไปศาลฎีกา แต่พยายามไปศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีหลักฐานการแถลงข่าวหลังจากพรรคก้าวไกลชนะเลือกตั้ง
แผนยุบพรรค เรื่องภาพการ์ตูนที่มีรูปค้อนเคียวนั้น ทำท่าจะกลายเป็นเรื่องตลกโปกฮา เพราะภาพการ์ตูนนั้น โดยรวมมีความหมายแต่เพียงว่า ประเทศไทยเป็นสังคมหลากหลาย ตั้งแต่คนประเภทเหมือนหุ่นยนต์ ซึ่งอยู่ด้านซ้ายสุด ไปจนถึงผู้ใช้แรงงานและชาวนา ซึ่งอยู่ขวาสุด แต่อยู่ร่วมกันได้ด้วยนิติรัฐ ไม่ได้เกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศชาติเลย เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องการ์ตูนจริงๆ