"โรม" เรียกร้อง "บิ๊กตู่" แสดงความยินดีก้าวไกล โชว์สปิริตหลังแพ้เลือกตั้ง

1 มิถุนายน 2566 นายรังสิมันต์ โรม ว่าที่ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล แถลงข่าวเรียกร้องขั้วอำนาจเก่า แสดงสปิริตแสดงความยินดีกับพรรคก้าวไกล โดยกล่าวว่า จากที่ติดตามข่าวตั้งแต่จบการเลือกตั้งจนมาถึงวันนี้ ยังไม่เห็นบุคคลในขั้วอำนาจเก่า เช่น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ออกมาแสดงความยินดีกับรัฐบาลใหม่



ซึ่งเป็นเรื่องที่แปลกมาก ที่เวลาผ่านมานานขนาดนี้ เรายังไม่เคยได้ยินคำพูดแสดงความยินดีกับผู้ชนะการเลือกตั้งจากปาก พล.อ.ประยุทธ์ แม้แต่น้อย รวมถึงการเตรียมความพร้อมของรัฐบาลชุดที่แล้ว ที่จะต้องมีการเก็บข้าวของออกจากที่ทำงาน และส่งมอบงานเพื่อให้รัฐบาลใหม่ทำงาน ทั้งที่ผลการเลือกตั้งชี้ให้เห็นชัดว่ารัฐบาลชุดที่แล้วไม่ได้เป็นรัฐบาลต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

• บิ๊กตู่ อวยพรตั้งรัฐบาลที่ดีให้ได้ ระบุ ถามข้าราชการแล้วไม่มีใครนัดพบ พิธา

• "บิ๊กตู่"​ปัดตอบ​ รอเป็นนายกฯส้มหล่น ทุกอย่างต้องเป็นตามกฎกติกา

• รวมไทยสร้างชาติ ยัน ไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจ หวังดึงคนทุกรุ่นร่วมขับเคลื่อนพรรค

ทั้งนี้ พรรคก้าวไกลได้มีการเตรียมความพร้อมในการตั้งรัฐบาลใหม่ โดยมีการตั้งคณะทำงานในช่วงเปลี่ยนผ่าน เรามีการเตรียมความพร้อม แต่กลับไม่เห็นความพร้อมของรัฐบาลชุดที่แล้ว หากมองประเทศที่เป็นประชาธิปไตยหลายประเทศ สปิริตที่สำคัญคือการแสดงความยินดี ที่สำคัญมากกว่านั้นเรายังเห็นท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ตนคิดว่ามองเป็นอย่างอื่นไม่ได้ นอกจากการหวังส้มหล่นจากรัฐบาลก้าวไกล และหวังว่าตัวเองจะเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป



ดังนั้นตนคิดว่ายังไม่สายจนเกินไป เราอยากจะได้ยินจากปากของพล.อ.ประยุทธ์ ว่ายอมรับความพ่ายแพ้การเลือกตั้ง เพื่อให้รัฐบาลเป็นไปได้ตามที่ควรจะเป็น เรายังหวังเห็นสปิริตของพล.อ.ประยุทธ์ เพื่อให้การทำงานราบรื่นต่อไป

เมื่อถามว่า กรณีที่นายวิษณุ กล่าวถึงการร้องเรียนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ว่าหากมีประเด็นเรื่องสมาชิกภาพ อาจนำไปสู่การเลือกตั้งซ่อม นายรังสิมันต์ กล่าวว่า การที่นายวิษณุ ยกกรณีคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ มาเปรียบเทียบกัน ตนไม่ขอพูดถึงข้อวิจารณ์ เพราะเป็นคนละกรณีกัน ไม่น่าจะเอามาเทียบกันได้ ยืนยันอีกหลายครั้งว่าเรื่องหุ้นไอทีวี พรรคก้าวไกลได้มีการเตรียมความพร้อมไว้หมดแล้ว ยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องกลั่นแกล้งทางการเมือง หากดูเรื่องของช่วงเวลา ที่มีการปล่อยข่าวออกมาในช่วงใกล้เลือกตั้งน่าจะมีการหวังผลทางการเมือง ไม่มีความกังวลใดๆ



"ผมเข้าใจว่าจุดประสงค์ของอาจารย์วิษณุ คือพยายามชี้นำ ส.ว. ใช่หรือไม่ เป็นการชี้นำสังคม ที่จะทำให้ ส.ว. เกิดความลังเลใจและนำไปสู่การหวังส้มหล่น ทั้งที่ทุกอย่างกำลังไปได้สวย คำถามคือทำแบบนี้บ้านเมืองจะวุ่นวายหรือไม่ เท่ากับไม่เคารพเจตจำนงของประชาชนที่ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง" นายรังสิมันต์ กล่าว

นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า อย่าไปให้ความสำคัญกับความเห็นทางการเมืองของนายวิษณุ ในอดีตนายวิษณุ อาจเป็นอาจารย์ด้านกฎหมาย แต่นายวิษณุไม่ได้ถูกทุกเรื่อง มองว่าแทนที่จะให้สัมภาษณ์ในลักษณะนี้ ควรจะไปบอกให้พล.อ.ประยุทธ์ มีสปิริต เก็บข้าวของออกจากทำเนียบจะดีกว่า



เมื่อถามว่า มองข้อเสนอของนายจเด็จ อินสว่าง ส.ว. ที่เสนอให้ตั้งรัฐบาลแห่งชาติอย่างไรบ้าง นายรังสิมันต์กล่าวว่า ตนคาดว่า ส.ว. น่าจะติดปัญหาอยู่เรื่องเดียว คือเรื่อง ม.112 ต้องเรียนตามตรงว่าจะตั้งรัฐบาลแห่งชาติไปทำไม หากเชื่อตามนั้นต้องไปยกเว้นรัฐธรรมนูญบางมาตรา ซึ่งประเทศไทยไม่ได้อยู่ในสภาพที่ต้องใช้เงื่อนไขนั้น ตนยังเชื่อว่ายังสามารถเดินหน้าตั้งรัฐบาลได้ วันนี้ประเทศไม่ได้เจอวิกฤตที่ทำให้ไม่สามารถตั้งรัฐบาลได้ ยอมรับว่าเงื่อนไขรัฐธรรมนูญบางมาตรายังเป็นอุปสรรค แต่สิ่งที่ต้องทำคือจัดตั้งรัฐบาลตามมติมหาชน เมื่อตั้งได้ค่อยถอดสลักอุปสรรคต่างๆ

เมื่อถามว่า มองว่าเป็นการส่งสัญญาณเพื่อบีบพรรคก้าวไกลหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ที่จริงก็มีความพยายามแบบนั้น แต่นายจเด็จไม่ใช่ตังแทนของ ส.ว. ทุกคน ยังเห็น ส.ว. หลายคนที่ออกมาสนับสนุนพรรคก้าวไกล วันนี้อุปสรรคของเรามีแค่การปิดสวิสต์มาตรา 272 ให้อำนาจ ส.ว. เลือกนายก ซึ่งถ้าไม่มีส่วนนี้การเดินหน้าตั้งรัฐบาลก้าวไกลจะไม่มีปัญหาอะไรเลย