svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

ชัยชนะ "ก้าวไกล"ในยุคโซเชียลมีเดีย ตีโจทย์แตก"ประชานิยม" สู่ "Engagement"

23 พฤษภาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

การใช้"โซเชียลมีเดีย" คือ ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดกระแสเลือก"ก้าวไกล"อย่างล้นหลามจนทำให้เป็นแกนนำอันดับแรกที่มีโอกาสจัดตั้งรัฐบาล ติดตามได้ในโพลิทิกส์พลัส โดย "อ.พันธ์ศักดิ์ อาภาขจร" ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการสื่อสาร

การเลือกตั้งที่ผ่านมา "พรรคก้าวไกล"ได้รับความไว้วางใจเกินคาดและได้จำนวน ส.ส.มากกว่าพรรคอันดับหนึ่งจากโพลต่างๆอย่างพลิกความคาดหมาย  

หนึ่งในปัจจัยที่ทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้ นอกจากนโยบายที่ชัดเจนที่เจาะกลุ่มเป้าหมายด้วยวิธีการตลาดสมัยใหม่แล้ว การใช้"โซเชียลมีเดีย"คือปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดกระแสเลือกก้าวไกลอย่างล้นหลามจนทำให้เป็นแกนนำอันดับแรกที่มีโอกาสจัดตั้งรัฐบาลและเป็นเสมือนการปรับเปลี่ยน Landscape ของพื้นที่การเมืองไทยจากรูปแบบของ “ประชานิยม” สู่รูปแบบการเมืองแบบผูกพัน(Engagement)  บนแพลตฟอร์ม 

อย่างไรก็ตาม "โซเชียลมีเดีย" มีคุณสมบัติของตัวเองที่ใครต่อใครก็ไม่อาจฝืนได้หากเข้าไปอยู่ในวงจรของโซเชียลมีเดียและหาประโยชน์จากโซเชียลมีเดีย ทั้งการทำธุรกิจและการเมือง คุณสมบัติสำคัญที่เป็นเสมือนแรงดึงและแรงผลักโดยธรรมชาติ ของโซเชียลมีเดีย ซึ่งได้แก่

1.โซเชียลมีเดียเป็นพื้นที่ที่สามารถสร้างการมีส่วนร่วมทางการเมืองแบบใหม่ที่ง่าย ไม่ต้องลงทุนสูง สื่อสารได้รวดเร็วในแบบ real time จนทำให้เกิดความเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ประสบความสำเร็จในหลายโอกาส ตั้งแต่การเชิญชวนคนเข้ามามีส่วนร่วม การเปลี่ยนใจผู้คนให้เลือกพรรคตัวเอง หรือแม้แต่ดิสเครดิต ฝ่ายตรงข้าม และสามารถสร้างคะแนนนิยมได้อย่างท่วมท้น 

พรรคก้าวไกล กับการผลิตสื่อทางโซเชียลมีเดีย แบบทันท่วงที

2.โซเชียลมีเดียคือพื้นที่ของ ความไม่แน่นอน(Uncertainty) ยากที่จะพยากรณ์ผลลัพธ์ และสามารถนำไปสู่ความแปรปรวน (Turbulence) ได้ตลอดเวลาโดยเฉพาะอย่างยิ่งในทางการเมืองแม้ว่า โซเชียลมีเดียจะง่ายต่อการสร้างการมีส่วนร่วม แต่ความง่ายเกินไปและลงทุนน้อยเหมือนแค่กระแสในการเข้าไปผูกพันทางการเมืองผ่านแพลตฟอร์ม กลับทำให้ผู้มีส่วนร่วมอาจเกิดความหวั่นไหวและเปราะบางต่อทิศทางทางการเมืองของกลุ่มนั้นได้เสมอ

3.พรรคการเมืองที่ใช้นโยบาย Digital politics ต้องเผชิญความกดดันจากกองเชียร์ที่มักจะสร้างแรงกระเพื่อม(Impulse) ที่อาจทำให้เกิดแรงกดดันต่อกลุ่มการเมืองได้เช่นกัน ด้วยเหตุผลอย่างน้อยที่สุด 2 ประการ ดังนี้

3.1การเล่นกับโซเชียลมีเดียคือการเล่นกับอารมณ์ของคนหมู่มากซึ่งพร้อมที่จะนำเผือกร้อนมาโยนให้เป็นภาระในการแก้ปัญหาอยู่ตลอดเวลา เป็นมือที่มองไม่เห็นซึ่งพร้อมที่จะสนับสนุนหรือทำลายทางการเมืองได้ตลอดเวลา

3.2การเล่นกับโซเชียลมีเดียคือการต้องเข้าไปเล่นกับข้อมูลจำนวนมากมายมหาศาลที่มีความอ่อนไหวทางการเมืองที่สามารสร้างปัญหาให้กับพรรคการเมืองอยู่ตลอดเวลาเช่นกัน

รูปแบบการผลิตสื่อ ของพรรคก้าวไกล ทางโซเชียลมีเดีย

4.แรงกระเพื่อม(Impulse) ทั้ง 2 ประเภทจึงสามารถนำไปสู่ความขัดแย้งทางการเมืองได้เสมอ

5.การที่มีแรงกระเพื่อมจากภายนอกที่เป็นแฟนคลับทางการเมืองสามารถเข้ามามีอิทธิพลต่อทิศทางของพรรคย่อมไม่เกิดผลดีใดๆเลยเพราะเป็นเสมือนการสั่งการและควบคุม(Command and control)ที่ขาดความยืดหยุ่น จากมือที่มองไม่เห็นแต่สามารถสร้างอิทธิพลทางการเมืองได้ ในขณะที่พรรคการเมืองเองต้องการความยืดหยุ่นในการจัดตั้งรัฐบาลผสมให้สำเร็จ

6.สถานการณ์เช่นนี้หากปล่อยไปเรื่อยๆ มีโอกาสที่จะทำให้เกิดวิกฤตทางการเมืองและหากไม่สามารถแก้ปัญหาได้มีโอกาสที่จะทำลายความนิยมของตัวเองลงไปเรื่อยๆ ด้วยธรรมชาติของโซเชียลมีเดียเอง

พรรคก้าวไกล เดินสายขอบคุณประชาชน หลังประสบชัยชนะในการเลือกตั้ง

logoline