แม้จำนวน ส.ส. มีขึ้นมีลง แต่ถ้าสังเกตภาพรวมเมื่อมีการเลือกตั้งครั้งใดที่ "ประชาธิปัตย์" มีคะแนนนิยมลดลง ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป พรรคจะฟื้นและได้คะแนนนิยมเพิ่มขึ้น พร้อมกับจำนวน ส.ส. ที่ตามมา
ยกเว้นเพียงการเลือกตั้งช่วงปี 2531 กับปี 2535 เท่านั้น ที่จำนวน ส.ส.ลดลงต่อเนื่อง 2 ครั้งติดกัน แต่ในการเลือกตั้งปี 2535/1 เป็นการเลือกตั้งที่ไม่ปกติ เกิดขึ้นหลังการรัฐประหารช่วงปี 2534 และมีการตั้ง "พรรคทหาร" ขึ้นมาสืบทอดอำนาจ มีการใช้เงินและอำนาจรัฐมากในห้วงเวลานั้น
กระทั่งมาถึงการเลือกตั้ง 3 ครั้งหลังสุด ปรากฏว่าคะแนนนิยม และจำนวน ส.ส.ของประชาธิปัตย์ลดลงตลอด ตั้งแต่การเลือกตั้งปี 2554 ปี 2562 และล่าสุดคือปี 2566
อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตโดยเฉพาะตัวเลข ส.ส. ไม่นับเป็นสัดส่วนหรือเปอร์เซ็นต์เทียบกับ ส.ส.ทั้งสภา การเลือกตั้งเมื่อปี 2500 หรือเมื่อ 66 ปีก่อน พรรคประชาธิปัตย์ ได้ 33 ที่นั่ง เป็นตัวเลข ส.ส.ต่ำที่สุดในรอบ 62 ปี
เพราะในปี 2562 ยังได้ 53 ที่นั่ง แต่การเลือกตั้งครั้งล่าสุดในปี 2566 ประชาธิปัตย์ กับได้ ส.ส. อย่างไม่เป็นทางการเพียงเพียง 25 ที่นั่งเท่านั้น หรือคิดเป็นแค่ร้อยละ 5 จาก ส.ส.ทั้งหมด 500 ที่นั่ง
ส่วนใน กทม. นับตั้งแต่ปี 2518 เป็นต้นมา ประชาธิปัตย์คะแนนนิยมตกต่ำสุดขีด 2 ครั้ง ได้ ส.ส. กทม.แค่คนเดียว คือ การเลือกตั้งปี 2522 และปี 2535/1
โดย ส.ส.ที่ฝ่ากระแสตกต่ำเข้าสภาได้ในขณะนั้น คือ พ.อ. (พิเศษ) ถนัด คอมันตร์ อดีตหัวหน้าพรรค และ "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" ซึ่งเป็นอดีตหัวหน้าพรรคเช่นกัน แต่ตอนเป็น ส.ส.หนึ่งเดียวของพรรค ไม่ได้เป็นหัวหน้าพรรค
ต่อมากระทั่งการเลือกตั้งปี 2562 พรรคประชาธิปัตย์ สูญพันธุ์ ใน กทม. อย่างไม่น่าเชื่อ เพราะในอดีต ไม่ว่ากระแสจะตกต่ำอย่างไร ก็ยังได้ ส.ส.อย่างน้อย 1 คน และการเลือกตั้งปี 2566 ก็เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ประชาธิปัตย์ ไม่ได้ ส.ส.กรุงเทพ ซ้ำยังได้ ส.ส.ทั้งประเทศน้อยที่สุดตั้งแต่ปี 2500 เป็นต้นมา
ยิ่งเป็นการตอกย้ำผลงานประชาธิปัตย์ หลังจากที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้มีการรายงานผลการนับคะแนน ครบทั้ง 400 เขต ซึ่งเป็นข้อมูลเมื่อวันที่ 14 พ.ค. ภายหลังปิดหีบเลือกตั้ง พบว่าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ ส.ส.ไปทั้งสิ้นเพียง 25 คน
ทว่า การนับคะแนนเลือกตั้งเมื่อวันที่ 18 พ.ค. ประชาธิปัตย์ มีจำนวน ส.ส. ลดลง 1 เก้าอี้ ทำให้เหลือเพียง 24 คน โดยแบ่งเป็น ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ 2 คน จากเดิมมี 3 คน ส่วนส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง มี 22 คน
ซึ่งจากการนับคะแนนเลือกตั้งครั้งนี้ ส่งผลให้ "บัญญัติ บรรทัดฐาน" อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งมีชื่ออยู่ใน ส.ส. บัญชีรายชื่อ อันดับ 3 หมดโอกาสเข้าสภาผู้แทนราษฎร ในการเลือกตั้ง 2566