svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"ฉันทามติประชาชน"นิยามร้อนของ"ก้าวไกล"ที่กำลังขยายวงสู่สถานการณ์ใหม่

การอ้างคำว่า "ฉันทามติประชาชน" กำลังเป็นปัญหาแรกของ"พรรคก้าวไกล"ที่จะขยายวงไปสู่การต่อต้าน และเผชิญหน้ากับฝ่ายสนับสนุน หรือที่เรียกตัวเองว่า "ด้อมส้ม" ติดตามใน โพลิทิกส์พลัส  

คำว่า "ฉันทามติ" ไม่มีบัญญัติในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน แต่จากการสืบค้นในวิกิพีเดีย  พบความหมายที่น่าสนใจบางส่วนว่า...

ความเห็นพ้อง, "ฉันทานุมัติ" หรือ "ฉันทมติ" พจนานุกรมฉบับ Merriam-Webster’s ให้ความหมายของ consensus ไว้ว่าเป็นข้อตกลงร่วมกันที่มีลักษณะเป็นการยอมรับแบบเอกฉันท์ (unanimity)....

พิจารณาจากรากศัพท์และคำศัพท์ การหา "ฉันทามติ" จึงควรจะมาจากการพูดคุย รับฟัง ทำความเข้าใจ และยอมรับซึ่งกันและกัน / ยอมถอยคนละก้าว / แสวงจุดร่วม สงวนจุดต่าง / ไม่น่าจะใช่การเปิดฉากถล่มกัน ด่าทอกัน หรือหักล้างกันด้วยอารมณ์ หรือจุดยืนแบบกระต่ายขาเดียว

"ฉันทามติประชาชน"นิยามร้อนของ"ก้าวไกล"ที่กำลังขยายวงสู่สถานการณ์ใหม่

เมื่อพิจารณาจากกลไกประชาธิปไตยทั่วไป และกลไกพิเศษของรัฐธรรมนูญไทยฉบับปัจจุบัน จะพบว่า หาก"พรรคก้าวไกล"จะได้รับฉันทามติในการเป็นนายกรัฐมนตรี และผู้นำในการจัดตั้งรัฐบาลได้จริง ต้องสร้าง "ฉันทามติ" ถึงขั้น 3 ขั้น หรือฝ่าด่านอรหันต์ถึง 3 ชั้นด้วยกัน 

ขั้นแรก หาเสียงสนับสนุนจากพรรคร่วมรัฐบาลให้ได้มากที่สุด ยิ่งใกล้ 376 เสียงได้ยิ่งดี 

ขั้นที่สอง หาเสียงสนับสนุนจากวุฒิสภา 

ขั้นที่สาม ฝ่าด่านกฎหมาย โดยเฉพาะ"คดีหุ้นไอทีวี"ที่มี"นายพิธา" ถูกตรวจสอบอยู่ในขณะนี้  และคำร้องคัดค้านการเลือกตั้ง ทั้งที่โดนยื่นไว้แล้ว และกำลังจะโดนยื่นคำร้อง

ขั้นที่ 2 อาจมาถึงก่อนขั้นที่ 3 

"ฉันทามติประชาชน"นิยามร้อนของ"ก้าวไกล"ที่กำลังขยายวงสู่สถานการณ์ใหม่

"กูรูการเมือง" แย้มให้ฟังว่า ตอนนี้ก้าวไกล และ "ด้อมส้ม" ซึ่ง "ทักษิณ" อาจจะเรียกว่า "ไอโอของก้าวไกล" กำลังทุ่มสรรพกำลังไปรุมถล่ม ส.ว. 

แต่การโหวตของ ส.ว. คือขั้นตอนท้ายๆ ของการอนุมัติให้ "พิธา" เป็นนายกฯ คำถามคือ "พรรคก้าวไกล"จะฝ่าด่านแรกๆ ไปได้หรือไม่ ก่อนที่จะไปถึงการโหวตของ ส.ว. เพราะอาจจะตกม้าตายตั้งแต่ต้นก็ได้ และไอโอของ "ก้าวไกล" อาจจะกำลังหลงกล ถล่มผิดที่ผิดเวลาอยู่ก็เป็นได้ 

 

เริ่มจากขั้นแรก หาเสียงสนับสนุนจากพรรคร่วมรัฐบาลให้ได้มากที่สุด ปัญหาคือ 

-"พรรคก้าวไกล"ประกาศล็อกพรรคร่วมรัฐบาลแค่ 6 พรรค 310 เสียง บอกว่าเพียงพอแล้ว ซึ่งต่อมามีสองพรรคเล็กเข้าร่วมเพิ่มเติม รวมเป็น 310 เสียงก็ตาม 

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล  และ สมาชิกพรรค ที่ได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.

-มีการไปบูลี่ ต่อว่าด่าทอ ดูถูกพรรคอื่นบางพรรค ทั้งในทางสาธารณะและวงปิด เช่น ภูมิใจไทย ชาติไทยพัฒนา กระทั่งพรรคเหล่านั้นประกาศกันเป็นการภายในชัดเจนว่า จะไม่ร่วมกับ"ก้าวไกล" 

-ประกาศจองกระทรวงเกรดเอ และงานสำคัญไว้ดูแลเองหมด ตามประสาคนรุ่นใหม่ไฟแรง ร้อนวิชา ทำให้เกิดคำถามว่าพรรคร่วมรัฐบาลที่เหลือจะได้ดูแลแต่กระทรวงเกรดซี รัฐมนตรีช่วย และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯหรืออย่างไร ( โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยที่จำนวน ส.ส.ห่างจากก้าวไกลราวๆ 10-11 ที่นั่งเท่านั้น ) 

เศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย

-งานบางงานทับซ้อนกับบางพรรคที่ประกาศไว้ตอนหาเสียงว่าจะเข้าไปรับผิดชอบ เช่น "พรรคประชาชาติ" ขอรับผิดชอบแก้ปัญหาชายแดนใต้ และพรรคก็มี ส.ส.จากชายแดนใต้มากที่สุด เป็นแชมป์ถึง 2 สมัย แต่พรรคก้าวไกล โดย "พิธา" ประกาศว่าจะรับผิดชอบเอง 

-ยิ่งขยายการขอความร่วมมือให้พรรคการเมืองต่างๆ มาร่วมโหวตสนับสนุนพรรคก้าวไกลมากขึ้น ต้องโดนต่อรองมากขึ้นเป็นลำดับ เพราะการเมืองไทยไม่ค่อยมีวัฒนธรรมการโหวตให้ฟรีๆ และประเพณีการเมืองของไทย ฝ่ายค้านกับฝ่ายรัฐบาลแยกกันเด็ดขาด น้อยครั้งที่จะจับมือร่วมกันในบางเรื่อง บางภารกิจ 

อุปสรรคสำคัญที่สุดในข้อนี้ไม่ใช่พรรคเล็ก หรือพรรคฝ่ายอนุรักษ์นิยม แต่เป็นพรรค "เพื่อไทย" ที่กำลังเล่นบท wait and see หรือ "นั่งตีขิม"อยู่ต่างหาก

ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

ถอดรหัสจากสิ่งที่"ทักษิณ"พูดในคลับเฮาส์เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคมที่ผ่านมา จะพบร่องรอยความคิดที่สามารถจับทิศการเมืองหลังจากนี้ได้ ดังนี้

1. แค้นที่แพ้เลือกตั้ง - ชื่นชมพรรคก้าวไกล แต่แขวะว่าใช้สินค้าตัวใหม่ แต่ไม่ได้เนี้ยบเท่าเก่า และกล่าวหาว่ามี ขบวนการไอโอ และมีการโจมตีพรรคเพื่อไทยเรื่องดีลลับ ทำให้ประชาชนเข้าใจผิด

2. สนับสนุนตามมารยาท - อ้างยึดมั่นสนับสนุนพรรคอันดับ 1 ตั้งรัฐบาล แต่ฟังดูก็รู้ว่าพูดตามมารยาทเท่านั้น เพราะมีการออกตัวว่า บางนโยบายอาจจะทำไม่ได้ เพราะไม่ได้คุมกระทรวงสำคัญ (เช่น รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ทำไม่ได้ เพราะ"ก้าวไกลคุม" รมว.คลัง ไม่ให้เงิน) 

3.พร้อมจัดรัฐบาลแทน - แสดงความพร้อมจัดตั้งรัฐบาลแทนหาก "พรรคก้าวไกล" จัดไม่ได้ กรณีเกิดอุบัติเหตุ (หุ้นไอทีวี) 

4. ประกาศตัวว่าจงรักภักดี - คัดค้านและไม่ยอมพรรคก้าวไกลหากจะผลักดันนโยบายที่กระทบสถาบันเบื้องสูง รวมถึงแสดงจุดยืนไม่แก้ 112 

5. กลับบ้านเวลาเดิม - เมื่อต้องการกลับบ้าน ข้อ 4 ยิ่งจำเป็นมากที่สุด 

สัญญาณจาก"ทักษิณ" สรุปง่ายๆ คือ สนับสนุน"ก้าวไกล"ตามมารยาท แต่รอดูท่าที "กกต."จะเอาอย่างไรกับคำร้อง "หุ้นไอทีวี" ของ "พิธา" ซึ่งถ้าเดินหน้า จนเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง "พรรคเพื่อไทย" ในฐานะพรรคอันดับ 2  พร้อมจัดรัฐบาลต่อ เพราะ"ก้าวไกล"มีแคนดิเดตนายกฯคนเดียว

ช่วงเวลาของการรวบรวมเสียง ส.ส.ให้ใกล้เคียง 376 เสียงมากที่สุด เพื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี เชื่อว่า คงไม่มีพรรคใดปฏิเสธคำเชิญ เพราะเกรง "ทัวร์ส้มลง"  แต่หลายๆ พรรคน่าจะมองไปถึง"คดีหุ้นไอทีวี"ของ"พิธา" ซึ่งคาดว่าในอีกไม่ช้านี้ "กกต."จะขยับส่งคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญ 

อย่าลืมว่าช่วงเวลาที่รัฐธรรมนูญเปิดให้ "กกต."พิจารณาตรวจสอบผลการเลือกตั้งแต่ละเขต ก่อนประกาศรับรอง ส.ส.ให้ได้ 95% เพื่อเดินหน้าสู่เปิดสภา ให้เวลาไว้มากถึง 60 วัน หรือ 2 เดือน ซึ่งหมายถึง 13 ก.ค.โน่นเลย 

ห้วงเวลานานขนาดนั้น อะไรก็เกิดขึ้นได้...

1.กกต.มีมติเพิกถอนสิทธิ์การสมัคร ส.ส.ของผู้สมัครบางส่วน จากที่เหลืออีก 129 เคส อาจมีบางคนได้คะแนนมาเป็นอันดับ 1 และถูกถอดออกไป ทำให้ต้องจัดเลือกตั้งใหม่ 

2.กกต.มีมติสั่งเลือกตั้งใหม่ (ใบเหลือง-ใบแดง) อีกบางเขต เพราะพบหลักฐานการซื้อเสียง หรือการเลือกตั้่งที่ไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม 

หาก 2 ช้อนี้มีหลายเขต จะดึงความสนใจสังคมและพรรคการเมืองไปสู่ศึกเลือกตั้งซ่อม เลือกตั้งใหม่ 

"ฉันทามติประชาชน"นิยามร้อนของ"ก้าวไกล"ที่กำลังขยายวงสู่สถานการณ์ใหม่

3.ส่งคำร้อง"คดีหุ้นไอทีวี"ของ "พิธา"ไปที่ "ศาลรัฐธรรมนูญ"  หากศาลรับคำร้องก่อนที่จะมีการรับรองผลการเลือกตั้งของ"พิธา" และยังไม่ได้โหวตเลือกนายกฯ จะมีปัญหาตามมาคือ 

-เมื่อมีการเปิดสภา จะยังสามารถเสนอชื่อ"พิธา" เป็นแคนดิเดตฯของพรรคก้าวไกล เพื่อโหวตเป็นนายกฯได้หรือไม่ เพราะแคนดิเดตนายกฯตามมาตรา 88 ต้องมีคุณสมบัติเทียบเท่าคนที่จะเป็นรัฐมนตรี หรือนายกรัฐมนตรีได้ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 160 ซึ่งหนึ่งในคุณสมบัติที่ว่านั้น ก็คือไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 98 ซึ่งเป็นคุณสมบัติของผู้มีสิทธิ์ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. นั่นเอง นั่นก็คือ ( 3 ) เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดๆ

-"พิธา" ถูกยื่นคำร้องต่อศาลกรณีนี้ จะสามารถโหวตเป็นนายกฯได้หรือไม่ เพราะคุณสมบัติการเป็นแคนดิเดตยังมีปัญหา ต้องรอศาลวินิจฉัย

-แม้ "พรรคก้าวไกล" และพรรคที่สนับสนุน"พรรคก้าวไกล" ( 8 พรรคอย่างน้อย) จะดันให้โหวตให้ได้ แต่ ส.ว.ก็จะมีเหตุผลในการปฏิเสธการโหวต และงดออกเสียง  รวมถึงพรรคการเมืองอื่นๆ ที่ไม่ใช่พรรคที่ได้รับเชิญเข้าร่วมรัฐบาลด้วย จะมีเหตุผลในการไม่โหวตปิดสวิตช์ ส.ว. เพราะแคนดิเดตฯของ"ก้าวไกล"ยังมีปัญหาเรื่องคุณสมบัติ

3.เมื่อ "พรรคก้าวไกล" มีปัญหาในการจัดรัฐบาล ในฐานะพรรคอันดับ 1  "พรรคเพื่อไทย" ในฐานะพรรคอันดับ 2 ย่อมมีสิทธิ์จัดรัฐบาลแทนหรือไม่ โดยอ้างเหตุผลว่า ประเทศไม่มีรัฐบาลไปนานๆ จะยิ่งกระทบเศรษฐกิจ (ตามที่หลายฝ่ายเรียกร้องให้เร่งตั้งรัฐบาลอยู่ในขณะนี้) 

"ฉันทามติประชาชน"นิยามร้อนของ"ก้าวไกล"ที่กำลังขยายวงสู่สถานการณ์ใหม่

นี่คือจุดเปลี่ยนของการ "จัดตั้งรัฐบาล" ซึ่งจะเห็นได้ว่า อาจไปไม่ถึงขั้นตอนที่ ส.ว.ต้องโหวต หรือต้องแสดงจุดยืนทางการเมืองด้วยซ้ำ ฉะนั้นการที่ "ทัวร์ส้ม" ไปลง ส.ว.อยู่ในขณะนี้ อาจกำลังหลงทางหรือหลงเกมอยู่เป็นได้ 

ฉะนั้น ต้องปรับอารมณ์เร็วนิดหนึ่ง เพราะกระแสตอนนี้มี 2 ด้านเสมอ และ "ทีมข่าวข้นคนข่าวเนชั่นทีวี" พยายามเป็นสื่อกลาง เสนอทั้งสองด้านอย่างสมดุล

"ฉันทามติประชาชน"นิยามร้อนของ"ก้าวไกล"ที่กำลังขยายวงสู่สถานการณ์ใหม่

สำหรับ"คดีหุ้นไอทีวี" ซึ่งหลายคนมองว่าอาจจะเป็น "จุดตาย " ของ "พิธา"แต่มีความเห็นจาก "ผู้รู้" ในตลาดหลักทรัพย์ ให้ข้อมูลอีกด้านที่เป็นประโยชน์กับ "พิธา" และ "พรรคก้าวไกล" 

-บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ตามเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ใช้เกณฑ์ว่ารายได้หลักมาจากอะไรเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่จะบอกว่า บริษัทประกอบกิจการอะไร

-ในตลาดหลักทรัพย์ฯ มีบริษัทที่โดนย้ายหมวดธุรกิจอยู่เป็นประจำ เช่น เริ่มต้นเข้ามาอยู่หมวดอสังหาฯ เพราะรายได้หลักมาจากขายคอนโดฯ แต่วันดีคืนดีไปทำธุรกิจพลังงาน จนรายได้หลักมาจากขายพลังงาน สุดท้ายตลาดหลักทรัพย์ฯจะย้ายหมวดธุรกิจบริษัทนั้น จาก อสังหาฯไปอยู่หมวดพลังงาน

-ปัจจุบัน "ไอทีวี" มีรายได้จากดอกเบี้ยเท่านั้น ถ้าคิดจากรายได้ "ไอทีวี" เป็นบริษัทที่ทำธุรกิจลงทุน ไม่ได้ทำธุรกิจสื่อ 

-การที่ "ไอทีวี" ยังอยู่ใน "ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์" หรือ TSD ไม่ได้แปลว่า ยังอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพราะ "ไอทีวี" ถูกถอดจากตลาดหุ้นแล้วแต่ "ไอทีวี" ยังให้ TSD ของตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นนายทะเบียน

-การประกอบกิจการสื่อ ต้องมีใบอนุญาต ถ้าไม่มีใบอนุญาต จะทำไม่ได้ คำถามคือ "ไอทีวี"ยังมีใบอนุญาตประกอบธุรกิจสื่ออยู่หรือไม่ 

แต่ก็อย่างที่ "ทีมข่าวข้นคนข่าวเนชั่นทีวี" รายงาน คือ การตั้งรัฐบาลของ"พรรคก้าวไกล" อาจจบแค่ "บันไดขั้นที่ 2" โดยที่ศาลรัฐธรรมนูญยังไม่ต้องวินิจฉัย "คดีหุ้นไอทีวี" และ ส.ว.ยังไม่ทันต้องโหวตด้วยซ้ำ เพราะความไม่แน่นอนทางการเมืองช่วงที่ศาลรับคำร้องจาก กกต. อาจทำให้เกิดจุดเปลี่ยนที่ "พรรคเพื่อไทย" ชิงเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้ทันที และกลายเป็น "ตาอยู่" คว้าพุงปลาไปกิน

สุดท้าย "พิธา" อาจหลุด "คดีไอทีวี" แต่ต้องรับหน้าที่ "ผู้นำฝ่ายค้าน" ก็เป็นได้เหมือนกัน อย่าลืมว่าการเมืองไทยไม่มีอะไรที่แน่นอน

"ฉันทามติประชาชน"นิยามร้อนของ"ก้าวไกล"ที่กำลังขยายวงสู่สถานการณ์ใหม่