11 พฤษภาคม 2566 "นายภุชงค์ นุตราวงศ์" อดีตเลขาธิการ กกต.ได้ออกกจดหมายเปิดผนึกแจ้งสื่อมวลชน กรณีที่ศาลปกครองสูงสุดได้อ่านคำพิพากษาให้นายภุชงค์ ชนะคดี อดีตกกต. ที่ประเมินผลการปฏิบัติงานของตนไม่ผ่าน ซึ่งเป็นการต่อสู้คดีมาอย่างยาวนาน 8 ปี
จดหมายเปิดผนึกระบุว่า
เรียนท่านที่เคารพ วันนี้ (11พค.2566) ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษาให้"นายภุชงค์ นุตราวงศ์" อดีตเลขาธิการ กกต.ผู้ฟ้องคดี.ชนะคดีอดีต กกต.ผู้ถูกฟ้องคดีที่1และสนง.กกต.ผู้ถูกฟ้องคดีที่2 กรณีที่อดีต.กกต.ได้มีมติให้ผมพ้นจากตำแหน่ง เลขาธิการ กกต.เมื่อวันที่ 8 ธค. 2558 ตามความเห็นและข้อเสนอของคณะอนุกรรมการเพื่อประเมินผลการปฏิบัติงานฯที่.กกต.แต่งตั้งจากปษ.และ.ผชช.ของอดีต.กกต.เองทั้ง5 คน
ด้วยข้อกล่าวหาว่า การทำงานของผมไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน สรุปความได้ว่า การที่คณะอนุกรรมการเพื่อประเมินผลการปฏิบัติงานฯได้นำหลักเกณฑ์ที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่1เพิ่มขึ้นใหม่โดยมิได้มีการแก้ไขเพิ่มเติมสัญญาจ้างมาใช้ประเมินผลการปฏิบัติงานของผู้ฟ้องคดีจึงไม่เป็นธรรมต่อผู้ฟ้องคดี
และไม่ชอบด้วยเงื่อนไขของสัญญาจ้างตามข้อ4.2 และการที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่1มีมติเลิกจ้างผู้ฟ้องคดีโดยมีเหตุผลว่า ผลการประเมินการปฏิบัติงานของผู้ฟ้องคดีปีงบประมาณ.พศ. 2558 ไม่ผ่านการประเมินตามความเห็นและข้อเสนอของคณะอนุกรรมการฯดังกล่าว
และมีประกาศเรื่องให้ "นายภุชงค์ นุตราวงศ์" เลขาธิการกกต. พ้นจากตำแหน่งลงวันที่8 ธันวาคม2558 จึงเป็นการเลิกจ้างผู้ฟ้องคดีก่อนครบกำหนดสัญญาจ้างที่ไมชอบด้วยสัญญาจ้างจึงพิพากษาให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่2ใช้เงินให้แก่ผู้ฟ้องคดีจำนวน 2,010,380 บาท พร้อมดอกเบี้ยตามกม.นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ
โดยในเรื่องนี้ผมได้ใช้เวลาต่อสู้มาเกือบ8ปีจนได้รับชัยชนะในวันนี้
ผมขอขอบพระคุณศาลปกครองกลางและศาลปกครองสูงสุดที่ได้ให้ความเป็นธรรม พิจารณาด้วยความยุติธรรม
คืนเกียรติยศให้ผมและวงศ์ตระกูล
และผมขอขอบพระคุณทุกท่านที่ได้ช่วยเหลือและเป็นกำลังใจให้ผมและครอบครัวตลอดมาครับ
สำหรับบุคคลและคณะบุคคลที่ได้ดำเนินการและใช้ดุลยพินิจที่ไม่ชอบไม่ถูกต้องทำให้เกิดความเสียหายให้แก่ผมและวงศ์ตระกูลก็สมควรที่จะต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่ท่านได้กระทำตามกฎหมายต่อไปครับ
นายภุชงค์ นุตราวงศ์.อดีต เลขาธิการ กกต.(พศ.2555-2558)
11พฤษภาคม 2566