svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

เลือกตั้ง 2566 "ปราปต์ปฎล" การต่อสู้บทใหม่ จากศิลปินดาราสู่"สนามการเมือง"

จากศิลปินดารามาดเท่ "ปราปต์ปฎล สุวรรณบาง" ต้องตกเป็นผู้ต้องหาคดี"Forex 3D" มาวันนี้ตัดสินใจลงสู่สนาม"เลือกตั้ง 66" ด้วยเหตุผลลึกและเป้าหมายสำคัญที่จะเข้าสู่สภา

"... ภาพนักการเมืองกับข้าราชการในสายตาผม เหมือนชาวบ้านทั่วไป ที่รู้สึกว่า ข้าราชการกับนักการเมืองเหมือนเป็นนาย ชาวบ้านเป็นบ่าว เวลาเข้าหา เต็มไปด้วยความหวาดกลัว ผมไม่เข้าใจว่าเป็นแบบนั้นทำไม?!?"

"ปราปต์ปฎล สุวรรณบาง"  ศิลปินนักแสดงสู่ผู้สมัครรับเลือกตั้งส.ส.กทม.เขต 3 ยานนาวา -บางคอแหลม พรรคไทยภักดี 

 

การตกเป็นต้องหาในคดีฟอกเงิน"Forex 3D" ของ "ปราปต์ปฎล สุวรรณบาง" ดารานักแสดงชื่อดัง ทำให้งานแสดงที่ลดลงและต้องใช้เวลารวบรวมข้อมูลหลักฐานในการต่อสู้คดี 

แต่ที่พลิกเปลี่ยนชีวิตของเขามากที่สุด คือ การคิดหันหลังให้วงการบันเทิงเข้าสู่สนามการเมือง "เลือกตั้ง 66" 

"ปราปต์ปฎล" ลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรระบบเขต พื้นที่กทม.เขต 3  ย่านยานนาวา บางคอแหลม ในสังกัด"พรรคไทยภักดี"ที่มี"นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม"เป็นหัวหน้าพรรค 

"ปราปต์ปฎล" เปิดใจผ่าน"ผ่าสมรภูมิเลือกตั้ง 66"ว่า อย่างที่กล่าวไว้หลายครั้ง ลึกๆไม่ได้มีความคิดทำงานด้านการเมือง คราวนี้ด้วยการทำงานการเมืองและการทำงานบันเทิงของผม แอบเชื่อมโยงโดยไม่รู้ตัว คือ ทำงานด้านจิตอาสาสนองนโยบายในหลวงรัชกาลที่ 9 มานานกว่า  20 ปี  มีกลุ่มคนจิตอาสาล้อมรอบตัวไม่ว่าเป็นงานทางด้านกีฬาต้านยาเสพย์ติด การติดตามปัญหาเด็กตั้งครรภ์ก่อนวัย อยู่ในกิจกรรมด้านอาสาของผม 

เลือกตั้ง 2566 "ปราปต์ปฎล" การต่อสู้บทใหม่ จากศิลปินดาราสู่"สนามการเมือง"

"ส่วนตัว ก็ยังไม่เกี่ยวงานการเมือง แต่เมื่อมีคดี "Forex 3D"ซึ่งเข้าไปเกี่ยวข้องโดยที่ไม่ควรจะเกี่ยว และไม่ควรมาแตะชีวิต เพราะไม่มีความรู้เรื่องนี้ด้วยซ้ำแต่ถูกดึงเข้าไป ทำไมเจ้าหน้าที่ทำงานแบบนี้ เพราะคนที่เกี่ยวข้องเป็นคนใกล้ตัวของผม จึงยื่นมือเข้าไปให้ความช่วยเหลือ"

 

"ปราปต์ปฎล" เล่าต่อไปว่า "ผมมีความรู้สึกว่าจากหลักฐานที่เขามีอยู่กับเหตุการณ์ที่เขาเป็นอยู่ และผมได้รับรู้ข้อเท็จจริงจาก ทั้งเรื่องเล่าและประสบการณ์ตัวเขาเอง กับหลักฐานที่ผมขอดูที่เขาเข้าไปเกี่ยวข้องสอดคล้องกับการทำงานเจ้าหน้าที่ ที่ผมมองว่าตรงกันข้ามกับสิ่งที่สังคมรับรู้ จากการทำงานเจ้าหน้าที่บ้านเมืองผมมีความรู้สึกว่า น้องไม่ได้รับความเป็นธรรมจึงพยายามให้น้องเคลียร์ตัวเองกับเจ้าหน้าที่บ้านเมืองว่าเป็นอย่างไร"  

ทว่า กลับกลายเป็นว่า เอกสารที่น้องไปเคลียร์ เป็นเอกสารของเจ้าหน้าที่บ้านเมืองด้วยซ้ำไป แต่กลับไม่ได้รับการเหลียวแล หรือว่าเคลียร์เพื่อให้ไปทิศทางที่ถูกต้อง  

เลือกตั้ง 2566 "ปราปต์ปฎล" การต่อสู้บทใหม่ จากศิลปินดาราสู่"สนามการเมือง"

แต่ขณะที่ผมเข้าไปเป็นที่ปรึกษาเขา กลายเป็นว่า เจ้าหน้าที่บ้านเมือง มีพฤติกรรมที่จะต่อรอง พูดง่ายๆ เอาผมไปเกี่ยวข้อง และเอาคดีมาเกี่ยวข้องกับผม มีความรู้สึกว่า ขนาดผมอยู่ตรงนี้ ยังเอาคดีมาเกี่ยวข้องกับผม จู่ๆจะแจ้งข้อหาดำเนินคดีฟอกเงิน ซึ่งสื่อรู้ความเคลื่อนไหวก่อนผม  แม้แต่ตอนที่สื่อรู้ว่ามีหมายถึงผม สื่อรู้แต่ผมยังไม่รู้เลย จึงรู้สึกว่า เอ๊ะ! การทำงานของเจ้าหน้าที่ สร้างเครดิตให้ตัวเอง แต่ดิสเครดิตตนเอง ซึ่งไม่ถูกต้องไม่เป็นธรรมกับประชาชน 

"นักแสดงหนุ่มผู้ผันตัวลงการเมือง" บอกว่า เมื่อเกิดเรื่องกับตัวเอง เอาตัวเองเป็นกรณีตัวอย่างเพื่อเข้ามาต่อสู้ และมองว่า ขณะที่เราเป็นจิตอาสาทั่วประเทศ เราเคยพบเจอการร้องเรียน ชาวบ้านบางครั้งไม่รู้หรอก เขาคิดว่าเราเป็นนักแสดงน่าช่วยเขาได้ ต่อสู้กับเจ้าหน้าที่บ้านเมือง

"แต่ตอนนั้นผมไม่ได้คิดอะไรเยอะ เพียงแต่ว่าเกิดเรื่องตัวเองเรามองย้อนว่า ในอดีตเราเคยเจอเคสเจ้าหน้าที่มีลักษณะ การทำหน้าที่โดยมิชอบและเอาเปรียบประชาชน ผมเจอมาเยอะ"

 

"ผมย้อนทบทวนตัวเองทำไมเราไม่มาทำหน้าที่ตรงนี้ เพื่อเป็น กระบอกเสียงให้ชาวบ้าน สื่ออาจไม่รู้จักเขา ชาวบ้านอาจไม่มีปากมีเสียง พอที่จะเป็นข่าว สุดท้ายเรื่องเงียบหาย พร้อมกับความไม่เป็นธรรม จึงตัดสินใจเข้ามาทำหน้าที่ตรงนี้" 

เลือกตั้ง 2566 "ปราปต์ปฎล" การต่อสู้บทใหม่ จากศิลปินดาราสู่"สนามการเมือง"

"นักแสดงหนุ่มมาดเข้ม" กล่าวต่อไปว่า โดยข้อเท็จจริงก่อนหน้านี้หลายปี ทุกครั้งมีการเลือกตั้ง จะมีคนมาชักชวน แต่ผมปฏิเสธไม่เล่นการเมือง ผมสามารถทำประโยชน์ให้ชาติบ้านเมืองได้ตั้งเยอะไม่จำเป็นต้องเป็นนักการเมือง

"เพราะภาพนักการเมืองกับข้าราชการในสายตาผม เหมือนชาวบ้านทั่วไป คือ ชาวบ้านทั่วไปรู้สึกว่า ข้าราชการกับนักการเมืองเหมือนเป็นนาย ชาวบ้านเป็นบ่าว เวลาเข้าหา เต็มไปด้วยความหวาดกลัว ผมไม่เข้าใจว่าเป็นแบบนั้นทำไม พอจะได้ใกล้ชิดข้าราชการ นักการเมืองบ้างพอสมควร ได้เห็นอะไรหลายอย่างรู้สึกว่า ไกลตัวเรามาก เราเป็นแบบนี้ไม่ได้ เราก็ไม่อยากเป็น ปฏิเสธตลอด"

เลือกตั้ง 2566 "ปราปต์ปฎล" การต่อสู้บทใหม่ จากศิลปินดาราสู่"สนามการเมือง"
ถามว่า ทำไมตัดสินใจเลือกสังกัด"พรรคไทยภักดี" ปราปต์ปฎล เปิดเผยว่า เริ่มจากที่ตัวเขามีคดีและไปแถลงข่าวหน้าอาคารดีเอสไอ จากนั้น "นพ.วรงค์" ติดต่อมา เนื่องจากเห็นว่า ว่าการต่อสู้คดีของตน เป็นนักแสดงคนหนึ่ง เป็นการต่อสู้แบบไม่ไร้รูปแบบ

"ผมต่อสู้โดยใช้ข้อเท็จจริง คุณว่าอะไรปล่อยให้คุณเต็มที่ แล้วผมจะเอาสิ่งที่คุณว่า มาโต้ตอบด้วยหลักฐาน เป็นหลักฐานของคุณด้วย ไทม์ไลน์ต่างๆเป็นข้อเท็จจริงสังเกตได้ว่า ไม่ว่าผมไปออกรายการช่องไหน ผมไม่มีสคริปต์ เพราะเป็นข้อเท็จจริง"

ดังนั้น "นพ.วรงค์" เห็นว่า ผมน่ามีประโยชน์ อย่าต่อสู้แบบนี้เลย ต่อสู้แบบนี้เป็นการต่อสู้เพื่อตัวเอง ซึ่งคุณหมอมั่นใจว่า คดีนี้คุณรอดเพราะเท่าที่ฟัง และมีหลักฐานมาแสดง แต่ทำไมไม่เอาประสบการณ์ ในการเอาตัวรอดของคุณไปช่วยพี่น้องประชาชนที่ได้รับแบบนี้ ลองมาทำงานด้านการเมืองดีไหม"

เลือกตั้ง 2566 "ปราปต์ปฎล" การต่อสู้บทใหม่ จากศิลปินดาราสู่"สนามการเมือง"

"ปราปต์ปฎล" ล่าเบื้องหลัง "นพ.วรงค์" หัวหน้าพรรคไทยภักดี โทรติดต่อทาบทามเข้าสังกัดพรรคไทยภักดี  

เขาเล่าต่อไปว่า หลังจากนั้นมีความเห็นว่าควรเข้าสังกัดพรรคไทยภักดี เพราะการที่เราเข้าไปจะเป็นประโยชน์ก็ลองดูเพราะว่าสุดท้ายไม่แน่ใจกระบวนการยุติธรรม ในกระบวนการยุติธรรมผมเชื่อมั่น แต่คนที่ใช้อำนาจกฎหมายในมือเพื่อสร้างความยุติธรรมให้ประชาชนผมไม่มั่นใจ เมื่อไม่มั่นใจ ผมจึงอยากอยู่ในส่วนตรวจสอบ และสามารถเข้าไปทำให้กระบวนการตรงนี้ ถูกใช้โดยกลุ่มคนที่มีคุณธรรม ที่จะเป็นธรรมกับพี่น้องประชาชน เพราะฉะนั้นเราคิดว่าถ้าเราเข้าไปข้างในนั้น จะช่วยได้"

สำหรับการเลือกตั้งส.ส.กทม.เขต 3 ยานนาวา-บางคอแหลม  "ปราปต์ปฎล" ยอมรับว่า เป็นพื้นที่ระดับหินพอสมควร มีผู้สมัครหลายพรรค โดยที่เจ้าตัวไม่มีประสบการณ์เลยแต่จะใช้ความเป็นตัวเองเข้าไปถึงหัวใจพี่น้องประชาชน 

"ผมถือว่าเป็นความแปลกใหม่ในการทดลอง ถ้าได้ผมเข้าไปทำหน้าที่ผู้แทนฯ จะเป็นคนเดินมาทื่อๆ ไม่มีสคริ๊ปต์ ถ้าผมได้เดินเข้าสภาก็จะไม่มีสคริปต์แบบที่จะเข้าไปเล่นการเมือง แต่จะรวบรวมปัญหาที่จะรู้ว่าไปแก้อย่างไร"

"ผมจะตามเรื่องอะไร ไม่จำเป็นต้องรู้ทุกเรื่อง เชื่อว่าผู้แทนในสภาไม่จำเป็นต้องเก่งทุกเรื่องแต่คุณรู้ให้จริงทุกเรื่องแล้วคุณมั่นใจว่าจะแก้ปัญหาเรื่องไหน รวมตัวกันเอาความสามารถของพวกคุณ สามัคคีกันไปแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชน" 

เลือกตั้ง 2566 "ปราปต์ปฎล" การต่อสู้บทใหม่ จากศิลปินดาราสู่"สนามการเมือง"

"ปราปต์ปฎล" ให้ความเห็นว่า จริตทางการเมืองหรือความรอบรู้จนเกินไปของนักการเมืองรู้จนเกินที่จะทำจริง มีความรู้สึกว่า ทุกวันนี้ เวลาผมคุยมีความรู้สึกว่า ผมไม่ใช่นักการเมือง ผมแค่คนอาสาไปทำงานให้พี่น้องประชาชน นโยบายดึงดาวสอยดาวไม่พูดถึง เพราะบางอย่างผมไม่ได้เก่งจริงไม่ได้รู้จริง แต่ไม่ได้หมายความว่า คนในพรรคไม่มีคนรู้ มีครับ หรือพรรคอื่นมีคนรู้

แต่นโยบายในการดึงดาวของผม เวลาจะพูดโครงการนั้น โครงการนี้ ผมว่า ไม่จริงหรอกมันเฟก รู้สึกว่านี่หล่ะจะเป็นนักการเมืองที่จะเข้าไปในสภาแบบใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน เข้าไปแบบจิตอาสา ว่าเข้าไปทำเรื่องอะไร เราเข้าไปบอกเขาว่า เราจะทำเรื่องนี้และจะตามให้สุด แก้ปัญหาอย่างจริงจัง จะสร้างปรากฎการณ์ใหม่ว่า คนในสภา เข้าไปแล้ว รวมตัวช่วยกันแก้ปัญหา สิ่งที่เอาไปก็คือ ความสามารถของแต่ละคนที่โดดเด่น เอาไปรวมตัวช่วยกัน

"สำคัญที่สุดคือความเป็นคนดีมีคุณธรรม จริงใจแก้ปัญหา ไม่ใช่นโยบายสอยดาววาดดาวอยู่บนฟ้า แล้วจะดึงให้ประชาชน ผมเชื่อว่า ปัญหาหลักของคนกทม. คือการทุจริตคอร์รัปชั่น ไม่จริงใจแก้ปัญหา ให้ประชาชนโดยเอาผลประโยชน์ใส่ตัวเอง โดยเอาความเดือดร้อนพี่น้องประชาชน เป็นตัวประกันต่อรองที่จะเข้าไปกอบโกยผลประโยชน์ ให้กับตัวเองโดยร่วมทุนกับทุนผูกขาด"  

"ปราปต์ปฎล"  มองว่า ปัญหาหลักประเทศชาติถ้าแก้ไขเรื่องทุจริตคอร์รัปชัน ให้ข้าราชการหรือนักการเมืองทำงานด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ ถ้าคุณบอกว่าจะปราบโกงต้องเช็กให้ได้ว่าคนนี้มีประวัติหรือเช็กไปแล้วเจอตัวเองก็ต้องถอย ถ้าจะปราบ เพราะฉนั้นถึงบอก การที่จะอาสาไปทำงานแต่ละอย่าง คุณต้องทำได้จริง ตอบโจทย์ให้ได้ และทำให้เกิดปัญหาจริง

"ถ้าทุกอย่างได้รับการแก้ปัญหาจริง ผมคิดว่าคงไม่ต้องให้ประชาชน นักแสดงอย่างผม หรือความสุขที่ทำจิตอาสาอยู่แล้ว ต้องเสนอตัวเข้ามา ถ้าดีอยู่จริง ไม่มีที่ว่างสำหรับผม  ผมก็เลยคิดว่านี่หล่ะที่ทำให้ผมเข้ามา" ปราปต์ปฎล นักแสดงหนุ่มมาดเข้ม ผู้ประกาศขันอาสาเป็นตัวแทนประชาชน กล่าวทิ้งท้าย 

๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐

สำหรับรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งส.ส. กทม. เขต 3 ยานนาวา -บางคอแหลม ประกอบด้วย  

สุรสิทธิ์  มัจฉาเดช  เบอร์ 1 จากพรรคเส้นด้าย

ปราปต์ปฎล สุวรรณบาง  เบอร์ 2 พรรคไทยภักดี

ธนินท์ธร  คำทองสุข  เบอร์ 3 พรรครวมแผ่นดิน 

จรยุทธ จตุรพรประสิทธิ์  เบอร์ 4 พรรคก้าวไกล

เพ็ญพิสุทธิ์  จินตโสภณ  เบอร์ 5  พรรคเพื่อไทย 

พงศพัศ  กตคุณวิสิทธิ์  เบอร์ 6 พรรคชาติไทยพัฒนา

อภิมุข  ฉันทวานิช  เบอร์ 7  พรรคประชาธิปัตย์ 

เนวินธุ์  ช่อชัยทิพฐ์  เบอร์ 8  พรรครวมไทยสร้างชาติ

ไสว ทัศนีย์ภาพ  เบอร์ 9  พรรคเสรีรวมไทย 

นรเสฎฐ์  เธียรประสิทธิ์  เบอร์ 10 พรรคภูมิใจไทย 

นรุตม์ชัย  บุนนาค   เบอร์ 11  พรรคไทยสร้างไทย 

สันติ วิชัยพล  เบอร์ 12  พรรคเพื่อชาติ 

สุพร  ขำสีเมฆ  เบอร์ 13  พรรคไทยชนะ 

ปรัชญา  อึ้งรังษี เบอร์ 14  พรรคชาติพัฒนากล้า 

ชญาภา ปรีดาพากย์ เบอร์ 15 พรรคพลังประชารัฐ

วินัย  ตรีนุมิตร  เบอร์ 16 พรรคคลองไทย 

ฟาริศานนท์  รุจิศาสตร์  เบอร์ 17 พรรคประชาไทย 

เลือกตั้ง 2566 "ปราปต์ปฎล" การต่อสู้บทใหม่ จากศิลปินดาราสู่"สนามการเมือง"