30 เมษายน 2566 หลังจากรายการมิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2023 ปิดฉากลงโดย “ทวีพร พริ้งจำรัส” คว้าตำแหน่งมิสแกรนด์ไปครอง ในโลกโซเชียลก็เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ถึงเรื่องคำถามที่ให้นางงามตอบ เพื่อแสดงทัศนคติบนเวที โดยเฉพาะรอบ 11 คน มีคำถามว่า ระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชากับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จะเลือกใครเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งแน่นอนว่าสาวงามต่างตอบไปในทิศทางเดียวกันและค่อนข้างจะบูลลี่นักการเมืองทั้ง 2 ท่าน เช่น “อุ้ม ทวีพร” มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2023 ตอบประมาณว่า
“อยากให้มี ง.ผิดทุกข้อ แต่ถ้าต้องเลือกก็เลือกท่านประวิตร เพราะว่า ขาแข้งไม่ค่อย ความรู้น้อย อายุมากแล้ว จะตายวันตายพรุ่งนี้ไม่รู้ นี่ใกล้จะเลือกตั้งใหม่ ก็อยากให้มีการเปลี่ยนกฎหมายใหม่ อย่าเอาคนโง่ คนไม่ดีมาบริหารประเทศ”
จากคำตอบทำนองนี้ของเหล่านางงามบนเวที บวกกับกระแสที่ “เฌอเอม” มิสแกรนด์ลำพูน ไม่เข้ารอบ 20 คน ทำให้โลกโซเชียลแห่ติดแฮชแท็กในทวิตเตอร์ #แบนมิสแกรนด์ ขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์ทันที ทั้งเรื่องไม่ชอบการบูลลี่คนอื่น เรื่องประชาธิปไตย เรื่องมิสแกรนด์เน้นช่วยองค์กรขายของ เช่น
"หนึ่งสิ่งที่เห็นได้ชัดจากเวทีนี้คือ คำถามไม่ค่อยเป็นไปในแนวสร้างสรรค์ ไม่เป็นไปในแนวทางที่ให้นางงามได้โชว์ศักยภาพมีแต่ด่าเอามัน ด่าเอาใจเจ้าของเวที #แบนมิสแกรนด์"
"เฉลยแล้ววันนี้ เวทีมิสแกรนด์ หาคนประกวดเพื่อเข้าไปรับใช้บริษัทหาเงิน ไม่ได้เพื่อประกวดหรือเพื่อประชาธิปไตยอะไรหรอก #แบนมิสแกรนด์ "
"เบื่อคำถามนางงามแบบนี้อ่าอยากได้คำถามที่ทดสอบไหวพริบจริงๆอ่ะคือถามเอาสะใจเกิน"
"อ้อ เข้าใจแล้ว ติดสัญญากับแกรนด์จะทำงานอื่นไม่ได้ แล้วสิ่งที่เอมทำมาเค้าก็ทิ้งไม่ได้เหมือนกัน จำเป็นต้องเลือก ภูมิใจมากๆที่เอมเลือกสิ่งที่ทำมาก่อนแล้ว และไม่เลือกประโยชน์ส่วนตน คนแบบเฌอหายากที่สุด"
"เวทีนางงามมันก็เวทีธุรกิจ เค้าสร้างเวทีนางงามมาทำธุรกิจของเค้า ประเทศไหนจะมาซื้อก็ได้ เค้าก็ชัดเจนสุดแล้วนะ
ทั้งเวทีประชาธิปไตย หรือดูดวง นั้นมัน evevt.ของเค้า จะให้เค้าจัดเวทีมาอวยทหารมันก็ไม่ใช่เน้อ ถ้าอยากเรียกร้องมาก พรรคการเมืองมีเยอะ ก็ไปลงเล่นเอาจะได้เต็มที่"