
การเลือกตั้ง ส.ส. “สุโขทัย” เมื่อแกนนำกลุ่มลำน้ำยม “สมศักดิ์ เทพสุทิน” ที่เคยอยู่ “พรรคพลังประชารัฐ” ในนาม “กลุ่มสามมิตร” หวนกลับสู่ “พรรคเพื่อไทย” อีกครั้ง การกลับมาคำรบนี้ ย่อมต้องกลับมาแบบมีศักดิ์ศรี ซึ่งหมายถึงจะต้องชนะการเลือกตั้งยกจังหวัดทั้ง 4 เขตเท่านั้น (เพิ่มขึ้นมา 1 เขต) หลังจากการเลือกตั้งในปี 2562 ที่มีเพียง 3 เขตเลือกตั้ง “สมศักดิ์” ในนาม "กลุ่มสามมิตร" จะชนะการเลือกตั้งเข้ามาเพียง 2 เขต และแพ้ให้กับ “พรรคภูมิใจไทย” ไป 1 เขต
สุโขทัย เขต 1
เขตเลือกตั้งที่ 1 คาดว่า “ดร.พรรณสิริ กุลนาถศิริ” พรรคเพื่อไทย น้องสาวของ “นายสมศักดิ์ เทพสุทิน” จะได้รับการเลือกตั้งเข้าสู่สภาอย่างสบายๆ ไม่เหนื่อยมากนัก ด้วยการลงพื้นที่และทำคะแนนความนิยมส่วนตัวในเขตเลือกตั้งมาอย่างยาวนานตลอด 4 ปี ที่เป็น ส.ส อยู่ในสภาชุดที่แล้ว
โดยที่ผ่านมา “ดร.พรรณสิริ” ขยันลงพื้นที่พบปะชาวบ้านตลอด ไม่เคยว่างเว้น บวกกับคะแนนจัดตั้งที่พี่ชายมีให้เป็นทุนเดิม ในการเลือกตั้งครั้งนี้ฟันธงว่า ได้รับชัยชนะอย่างแน่นอน เขต 1 ดร.พรรณสิริ เพื่อไทย นำ
สุโขทัย เขต 2
เขตเลือกตั้งที่ 2 “นายชูศักดิ์ คีรีมาศทอง” พรรคเพื่อไทย ลูกทีม “นายสมศักดิ์” เช่นเดียวกัน คะแนนจัดตั้งแน่นหนา ประกอบกับตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ขณะเป็น ส.ส ในสภาชุดที่แล้ว ก็ขยันลงพื้นที่สม่ำเสมอตุนคะแนนเสียงไว้เยอะ ไม่น่าจะพลาดในการเลือกตั้งครั้งนี้ ฟันธงว่า จะชนะการเลือกตั้งเข้าสู่สภาอีกครั้งอย่างแน่นอน เขต 2 “นายชูศักดิ์” เพื่อไทย นำ
สุโขทัย เขต 3
เขตเลือกตั้งที่ 3 “นางสาวประภาพร ทองปากน้ำ” พรรคเพื่อไทย ขยันลงพื้นที่ต่อเนื่องตลอด ทำคะแนนนิยมขึ้นมามากพอสมควร แถมเป็นลูกสาวอดีต ส.ส หลายสมัยอย่าง “นายประศาสตร์ ทองปากน้ำ” อีกทั้งในการเลือกตั้งครั้งนี้เข้ามาเป็นลูกทีมสังกัด “นายสมศักดิ์” มีคะแนนจัดตั้งแน่นหนา ฟันธงว่า ได้รับเลือกตั้งเข้าสู่สภาเป็นครั้งแรกแน่นอน
โดยมีกระดูกชิ้นโต คือ “นายสมเจตน์ ลิมประพันธ์” หลานชายของอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ “ร.ต.ประพาส ลิมปะพันธุ์” ที่สังกัด “พรรคภูมิใจไทย” ที่บ้านใหญ่บุรีรัมย์ส่งสรรพกำลังมาสนับสนุนเต็มที่ เพียงแต่รอบนี้ยังสู้กระแส “พรรคเพื่อไทย” บวกฐานคะแนนของนายสมศักดิ์ไม่ได้ เขต 3 “นางสาวประภาพร” จาก “พรรคเพื่อไทย” นำ
สุโขทัย เขต 4
เขตเลือกตั้งที่ 4 “นายจักรวาล ชัยวิรัตน์นุกูล” เป็นผู้สมัคร ส.ส. จาก “พรรคเพื่อไทย” เขตเลือกตั้งนี้เข้าวินชนะแบบสบายๆ เนื่องจากไม่มีคู่แข่งสำคัญเลย มีแต่ผู้สมัครหน้าใหม่ๆ
ดังนั้น ในพื้นที่ของจังหวัดสุโขทัย “พรรคเพื่อไทย” น่าจะแลนด์สไลด์ยกจังหวัดได้สำเร็จ ชนะทั้ง 4 เขตเลือกตั้ง ด้วยบารมีของหัวหน้าทีมอย่าง “นายสมศักดิ์ เทพสุทิน” และการแบ่งเขตที่เอื้ออำนวยต่อผู้สมัครพรรคเพื่อไทยในทุกเขตเลือกตั้ง
สรุปครั้งนี้มีโอกาสที่ “นายสมศักดิ์” จะนำทีมพรรคเพื่อไทย ชนะการเลือกตั้งแบบยกทั้งจังหวัดเป็นครั้งแรก เพราะก่อนหน้านี้ “นายสมศักดิ์” ยังไม่เคยทำทีมชนะการเลือกตั้งแบบยกจังหวัดครบทุกเขตได้เลย ไม่ว่าจะย้ายไปสังกัดพรรคไหน เพียงแต่จะต้องรักษากระแส “พรรคเพื่อไทย” และกระหน่ำกระสุนให้ตลอดรอดฝั่ง จนถึงวันเลือกตั้ง
เพราะหากแผ่ว มีโอกาสที่ “นายสมเจตน์” จาก “พรรคภูมิใจไทย” จะเจาะไข่แดงในเขตเลือกตั้งที่ 3 ได้ทันที เพราะคนค่ายนี้แม้กระแสจะแผ่ว แต่กระสุนไม่มีแผ่วแน่นอน โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีโอกาสชนะ